|
|
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่องระบบจำนวนเต็มชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะเรื่องระบบจำนวนเต็มชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะเรื่องระบบจำนวนเต็ม ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน 3)เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่องระบบจำนวนเต็มกลุ่มตัวอย่างได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เฉพาะนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ที่เรียนกลุ่มสาระคณิตศาสตร์กับผู้ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 และ 2 ปีการศึกษา 2558 เครื่องมือในการศึกษา 1) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 10 แผน มีความเหมาะสมเท่ากับ 4.54 2) แบบฝึกทักษะจำนวน 10 เล่ม มีค่าความเหมาะสมเท่ากับ 4.42 3) แบบทดสอบย่อยหลังเรียนจำนวน 10 ชุดรวม 100 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .22-.88 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .21-1 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .92 4) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง .23-.79 ค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .22-.96 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ .98 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยการทดสอบนักเรียนก่อนเรียน (Pre-test) ทำแบบฝึกทักษะทดสอบย่อยหลังเรียนและทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน (Post-test) การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ E1/ E2วิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 ใช้ t test วิเคราะห์สมมติฐานการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การเรียนก่อนและหลังเรียน ใช้ E.I วิเคราะห์ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ ใช้ IOC วิเคราะห์ค่าความสอดคล้องของแบบทดสอบวิเคราะห์ค่าอำนาจจำแนก (B) ค่าความยากง่าย (p) และค่าความเชื่อมั่นของเครื่องมือทั้งฉบับและใช้สถิติพื้นฐานวิเคราะห์ค่า P,X bar, S.D
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง ระบบจำนวนเต็มมีค่าเท่ากับ 76.35/75.23 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. เปรียบเทียบระหว่างคะแนนก่อนและหลังเรียนพบว่า คะแนนทดสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ เรื่องระบบจำนวนเต็มเท่ากับ 0.6266 หมายความว่า แบบฝึกทักษะชุดนี้ทำให้ผลการเรียนของนักเรียนเพิ่มสูงขึ้นร้อยละ 62.66
สรุป แม้สื่อนวัตกรรมจะดีและมีคุณภาพสักปานใดก็ตาม ถ้าผู้สอนขาดความรับผิดชอบและขาดการกำกับดูแลเอาใจใส่นักเรียน การเรียนรู้ของนักเรียนก็จะประสบผลสำเร็จได้ยาก
|
โพสต์โดย ธนธรณ์ บุญพรม : [18 มี.ค. 2559 เวลา 11:07 น.] อ่าน [5374] ไอพี : 223.206.242.183
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 21,719 ครั้ง
| เปิดอ่าน 372,668 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,109 ครั้ง
| เปิดอ่าน 47,244 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,221 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,562 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,214 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,568 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,760 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,340 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,984 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,489 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,205 ครั้ง
| เปิดอ่าน 66,095 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,170 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 65,069 ครั้ง
| เปิดอ่าน 64,366 ครั้ง
| เปิดอ่าน 84,047 ครั้ง
| เปิดอ่าน 99,058 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,060 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|