ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในกา

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์คือ 1) เพื่อศึกษาวิเคราะห์สภาพปัจจุบันรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่นโรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ 2) เพื่อศึกษาแนวทางการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นผู้บริหาร จำนวน 2 คน ครูจำนวน 17 คน รวมจำนวน 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 คน ผู้ปกครองและชุมชน จำนวน 187 คน และนักเรียน จำนวน 187 คน ประกอบด้วยนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2557 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็น ผู้บริหาร และครู จำนวน 19 คน คณะกรรมการสถานศึกษา

ขั้นพื้นฐาน จำนวน 8 คน ผู้ปกครองและชุมชน จำนวน 123 คน และนักเรียน จำนวน 123 คน ประกอบด้วยนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1- 6 รวมทั้งหมด จำนวน 273 คน ปีการศึกษา 2557 เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ แบบสอบถามการมีส่วนร่วม สภาพปัจจุบัน แนวทางพัฒนา และสอบถามความพึงพอใจ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. การศึกษาวิเคราะห์สภาพปัจจุบัน รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น ของโรงเรียน (Analysis : A) จากขั้นตอนที่ 1 (Research : R1) โดยใช้แบบสอบถามสภาพปัจจุบัน ของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนา ผลการวิเคราะห์ข้อมูลปัจจุบัน พบปัญหามากที่สุดด้านรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม คือการส่งเสริมและพัฒนาให้คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับหลักการ ของการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน ด้านการจัดการศึกษาในระบบ โรงเรียนขาดการนิเทศ ติดตามการสอนอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง ความเหมาะสมของแหล่งเรียนรู้ต่อการจัดการเรียนการสอนไม่มากเท่าที่ควร การจัดอบรมให้ความรู้ตามบทบาทหน้าที่แก่คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีน้อย ด้านการ จัดการศึกษานอกระบบ มีปัญหามากสุดด้านโรงเรียนจัดกิจกรรมโครงการการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมด้านสุขภาพอนามัย ด้านความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สินตามความต้องการของผู้เรียน และด้านการ จัดการศึกษาตามอัธยาศัย พบปัญหามากสุดด้านโรงเรียนส่งเสริมการจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและพัฒนาสิ่งแวดล้อมแบบยั่งยืน เช่น ค่ายอาสาตามความสนใจของผู้เรียน

2. ผลของการออกแบบและแนวทางพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น (Design and Development : D and D) จากขั้นตอนที่ 2 (Development : D1) ผลการวิเคราะห์ข้อมูลแนวทางในการพัฒนา รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม สำหรับครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองและชุมชน เสนอแนวทางพัฒนาการจัดการศึกษาในระบบ โดยให้มีการสร้างเครือข่ายระหว่างบุคลากรในโรงเรียนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามาร่วมกันจัดการศึกษาที่ตรงตามความต้องการของนักเรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย มีส่วนร่วมในการกำกับ ติดตามและตรวจสอบด้านการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียน ทำให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์และค่านิยมที่ดี และนักเรียนได้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีส่วนร่วมในการวางแผนจัดการศึกษาของโรงเรียน และให้โรงเรียนจัดการเรียนการสอนให้นักเรียนมีทักษะพื้นฐานในการดำรงชีวิต แนวทางการพัฒนาด้านการจัดการศึกษานอกระบบ เสนอให้โรงเรียนทำการสำรวจความต้องการของผู้เรียนในการเรียนรู้หรือความต้องการในการฝึกอบรม ส่วนแนวทางการพัฒนาด้านการจัดการศึกษาตามอัธยาศัย ให้โรงเรียนทำการสำรวจความต้องการของผู้เรียนในการเรียนรู้ตามความสนใจตามศักยภาพ ตามความพร้อมและตามโอกาส

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น (Implementation : I) จากขั้นตอนที่ 3 (Research : R2)

การศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โรงเรียนเทศบาล ๔ วัดใต้โพธิ์ค้ำ เป็นการตอบคำถามการวิจัยและวัตถุประสงค์การวิจัย ผู้วิจัยได้นำผลการทดลองพัฒนารูปแบบรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น ตามขั้นตอนที่ 2 มาปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาตามระดับความคิดเห็นข้อเสนอแนะของผู้ให้ข้อมูล ที่ได้นำไปทดลองใช้และประเมินความเหมาะสม นำไปปฏิบัติได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น

การปรับปรุงและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โดยผู้วิจัยได้นำข้อเสนอแนะมาปรับปรุงและพัฒนารูปแบบ

4. ผลการประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น (Evaluation : E) จากขั้นตอนที่ 4 (Development : D2)

การประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของผู้เรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น เป็นการนำรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม ไปให้ผู้เชี่ยวชาญ จากตัวแทนครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและชุมชน จำนวน 273 คน ทำการประเมินความเหมาะสม ความมีระดับการมีส่วนร่วมในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น สำหรับครู นักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองและชุมชนโดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด และมีความพึงพอใจในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาทักษะชีวิตของนักเรียนโดยใช้โรงเรียนเป็นฐานในการพัฒนาท้องถิ่น โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย สุมิตรา ภูผาลา : [17 มี.ค. 2559 เวลา 14:28 น.]
อ่าน [5469] ไอพี : 134.196.72.195
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 33,522 ครั้ง
ครู
ครู

เปิดอ่าน 18,001 ครั้ง
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้

เปิดอ่าน 13,919 ครั้ง
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน
ไม่กินข้าวเช้า เสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน

เปิดอ่าน 31,504 ครั้ง
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ
การจัดลำดับอาวุโสในราชการ

เปิดอ่าน 167,418 ครั้ง
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด
ประโยชน์ของวิตามินแต่ละชนิด

เปิดอ่าน 13,760 ครั้ง
เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการนอน
เล็กๆ น้อยๆ เรื่องการนอน

เปิดอ่าน 16,268 ครั้ง
ข้อสอบยากๆใช่ว่าจะพัฒนาคนได้
ข้อสอบยากๆใช่ว่าจะพัฒนาคนได้

เปิดอ่าน 20,696 ครั้ง
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี
เทคนิคการปลูกกล้วย ให้มีกลิ่นต่างๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มได้อย่างดี

เปิดอ่าน 16,168 ครั้ง
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!
ไมโครซอฟท์ประกาศ ยุติโปรแกรม Paint แล้ว หลังอยู่คู่วินโดวส์มา 32ปี!

เปิดอ่าน 37,747 ครั้ง
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์
ทหารมหาดเล็กรักษาพระองค์และทหารรักษาพระองค์

เปิดอ่าน 22,106 ครั้ง
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)
กฎของก๊าซ (THE GAS LAWS)

เปิดอ่าน 12,232 ครั้ง
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553
ว.วชิรเมธี – มาร์ค ผู้ใช้ภาษาไทยดีเด่น ปี 2553

เปิดอ่าน 10,228 ครั้ง
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?
อากาศแบบนี้จะปกป้องผิวหน้าอย่างไรดี?

เปิดอ่าน 12,668 ครั้ง
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน
มาจัดโครงการพัฒนาศักยภาพให้แก่บุคลากรในองค์กรกัน

เปิดอ่าน 3,418 ครั้ง
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี
ปลูกดอกหน้าวัว แซมปาล์มน้ำมัน สร้างรายได้เสริม 46,000 บาท/ไร่/ปี

เปิดอ่าน 88,951 ครั้ง
โคลงโลกนิติ
โคลงโลกนิติ
เปิดอ่าน 9,629 ครั้ง
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน
รับชม คุณครูฮ้องเพลงคำเมือง "ภูมิแพ้โปเกม่อน" ให้กำลังใจครูที่ปวดหัวกับนักเรียนที่มัวเล่นเกมล่าโปเกม่อน
เปิดอ่าน 34,855 ครั้ง
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท
ภาวะเด็กอ้วน น้ำหนักเกิน ภัยร้ายที่คุณไม่ควรประมาท
เปิดอ่าน 15,497 ครั้ง
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
อวสาน Hotmail ไมโครซอฟท์เปิดตัว Outlook.com แล้ว
เปิดอ่าน 85,762 ครั้ง
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์
กระแสอะไรที่จะช่วยปรับรูปแบบโครงสร้างการปฏิรูปการศึกษาของไทย โดย นพ.ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ