การศึกษาและวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ
1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ระหว่างก่อนและหลังเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก
3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/1 โรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานี สังกัดเทศบาลเมืองปทุมธานี จังหวัดปทุมธานี ปีการศึกษา 2558 จำนวน 32 คน ได้มาด้วยวิธีสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม
เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย
1) บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 5 เล่ม
2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ
3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) ชนิดเลือกตอบ 5 ตัวเลือก จำนวน 12 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าเฉลี่ย ( x̄ ) ร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และทดสอบค่า t (t-test)
ผลการศึกษาพบว่า
บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มี ประสิทธิภาพกระบวนการ (E1)/ประสิทธิภาพผลลัพธ์ (E2) โดยภาพรวม เท่ากับ 80.75/82.81 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง โจทย์ปัญหา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ของนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลเมืองปทุมธานีก่อนและหลังใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป ชุด โจทย์ปัญหาพาสนุก ในภาพรวมอยู่ที่ระดับมาก