ชื่อรายงาน รูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพการสอนโดยบูรณาการแบบสอดแทรก
ภูมิปัญญาท้องถิ่น เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน
สาระการเรียนรู้การงานอาชีพ และเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์)
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดควนขัน) ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ผู้ศึกษา ปราณี ภูมิพงศ์
หน่วยงาน โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดควนขัน)
ปีที่ทำการศึกษา พ.ศ. 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษารูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพการสอนโดยบูรณาการแบบสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสืออ่านเพิ่มเติม การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามรูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพการสอนโดยบูรณาการแบบสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียน ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อประเมินความรู้ความเข้าใจ ทัศนคติ ทักษะการปฏิบัติ กระบวนการทำงาน ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของการใช้รูปแบบการพัฒนาสมรรถภาพการสอนโดยบูรณาการแบบสอดแทรกภูมิปัญญาท้องถิ่นเพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผู้เรียนโดยใช้หนังสือการอ่านเพิ่มเติม การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล 5 (วัดควนขัน) ตำบลทับเที่ยง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง จำนวน 1 ห้องเรียน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง 2) แผนการจัดการเรียนรู้จำนวน 10 แผน 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์) และ 4) แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียนโดยใช้หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง รูปแบบการวิจัยเชิงพัฒนา (Research and Development ใช้แบบแผนการศึกษาที่ใช้ คือ One Group Pretest Posttest Design สถิติที่ใช้วิเคราะห์ข้อมูลช้ค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและเปรียบเทียบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบค่าที (t test dependent)
ผลการศึกษาพบว่า
1. หนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น มีประสิทธิภาพ 94.08/92.97 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์) สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสืออ่านเพิ่มเติม เรื่อง การร้อยมาลัยแป้งสาคูสบู่หอม เอกลักษณ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นสู่ความพอเพียง กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี(งานประดิษฐ์) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้นอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.21 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.54