ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์
ชื่อผู้วิจัย นายมานะ เจริญเปลี่ยน
ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา
ปี พ.ศ. 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการจำเป็นในการพัฒนา รูปแบบการบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 2)เพื่อพัฒนารูปแบบ การบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหาร งานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุง การพัฒนารูปแบบ การบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใช้ระเบียบการวิจัยและพัฒนา กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 3 วัดอัมพวันเจติยาราม จำนวน 153 คน เครื่องมือที่ใช้ แบบสอบถามและการจัดกลุ่มสนทนา สถิติที่ใช้ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และข้อมูลเชิงคุณภาพใช้การวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัย พบว่า
1. การศึกษาข้อมูลพื้นฐาน และความต้องการจำเป็นในการพัฒนารูปแบบ การบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พบว่า ครูมีความต้องการจำเป็นเกี่ยวกับ การกำหนดแผนการฝึกอบรมลูกเสือระยะสั้น ระยะยาวตามหลักสูตร การให้ผู้กำกับลูกเสือได้มีโอกาสพัฒนาความรู้ทักษะ ความสามารถที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินกิจกรรมลูกเสือ และการจัดกิจกรรมลูกเสือที่สอดคล้อง กับการพัฒนาคุณลักษณะอันพึงประสงค์ อยู่ในระดับมาก
2. การพัฒนารูปแบบการบริหารงานลูกเสือ ประกอบด้วย 4 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) S : Staffing 2) O : Organizing 3) P : Planning 4) A : Action
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ พบว่าหลังการใช้รูปแบบสูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบทุกด้าน และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่าด้านทีมีผลการพัฒนาเพิ่มขึ้นสูงที่สุด ได้แก่ ด้านการปฏิบัติ การจัดการฝึกอบรมลูกเสือให้มีความรู้ตามเนื้อหาสาระของหลักสูตรและการสอบวิชาพิเศษตามที่สำนักงานลูกเสือแห่งชาติกำหนด รองลงมาได้แก่ด้านการวางแผน การจัดทำแผนฝึกอบรมเสริมสร้างคุณธรรม จริยธรรม วัฒนธรรม รักความเป็นไทย
4. ผลการประเมินความพึงพอใจที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารงานลูกเสือ เพื่อเสริมสร้างคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามความคิดเห็นของผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษา และผู้ปกครองนักเรียนพบว่า ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าข้อที่อยู่ในระดับมากที่สุดได้แก่ ซื่อสัตย์สุจริต ประพฤติ ปฏิบัติตรงความเป็นจริงต่อผู้อื่นทั้งกาย วาจา ใจ รองลงมาได้แก่ มีวินัยรับผิดชอบการทำงานได้ด้วยตนเอง