ครูบ้านนอก

การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ 80/80 2) ศึกษาประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ตามเกณฑ์ดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป 3) เปรียบเทียบทักษะกระบวนทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 และ 4) ศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและ การเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลวัดประทุมคณาวาส (นิพัทธ์หริณสูตร์) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ที่ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยการจับฉลาก ได้กลุ่มตัวอย่าง 1 ห้องเรียน จำนวน 31 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 3 ชุด 2) แบบทดสอบทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.50-0.75 ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.25-0.48 และค่า ความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.82 และ 3) แบบสอบถามวัดเจตคติของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย (X-bar) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่าร้อยละ (%) และการทดสอบค่าที (t-test Dependent)

ผลการศึกษาพบว่า

1. ชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนด คือ (E1/E2) เท่ากับ 80.86/ 80.65

2. ชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3มีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.5714 นักเรียนมีความก้าวหน้าในการเรียนร้อยละ 57.14

3. ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

4. นักเรียนมีเจตคติต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการจัดการเรียนรู้โดยใช้วิธีสอนแบบสืบสวนสอบสวน เรื่องแรงและการเคลื่อนที่ ส่งเสริมทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับดีมาก (X-bar เท่ากับ 4.54)

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 45,338 ครั้ง ปากเหี่ยวเป็นรอยย่น แก้ไขอย่างไรดีนะ	เปิดอ่าน 15,701 ครั้ง ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์	เปิดอ่าน 14,933 ครั้ง "หัวหมอ" ไม่อยากโดนใบสั่ง ใช้หลักฟิสิกส์เข้าสู้ตำรวจซะเลย
เปิดอ่าน 16,788 ครั้ง มงคลชีวิต ทำบุญ ไหว้พระ ตามวัน-ปีเกิด ยิ่งดี!	เปิดอ่าน 54,232 ครั้ง เทคนิคที่ทำให้คุณเป็นคนฉลาดและมีความจำดี	เปิดอ่าน 21,834 ครั้ง พระสงฆ์กับความเป็นครู
เปิดอ่าน 19,719 ครั้ง เอกสารการใช้ผลสอบ O-NET เป็นองค์ประกอบหนึ่งในการตัดสินผลการเรียน 80:20	เปิดอ่าน 13,437 ครั้ง ปากเหม็น...ทำไงดี!!!	เปิดอ่าน 15,759 ครั้ง ล้างพิษตับ...ทำเพื่ออะไร?
เปิดอ่าน 10,728 ครั้ง [คลิป] เล็กๆ เปลี่ยนโลก "การบริหารสมองด้วยพลังแห่งเสียงเพลง"	เปิดอ่าน 13,226 ครั้ง "แอพฟรี"สูบแบตเตอรี่กว่าแอพเสียเงินจริงหรือ?	เปิดอ่าน 54,182 ครั้ง เรื่องของหมากรุก
เปิดอ่าน 558 ครั้ง นิยายวาย แฟนตาซี ความมหัศจรรย์ที่รอให้สาววายค้นพบ	เปิดอ่าน 16,183 ครั้ง รวมสถานที่เที่ยวงานวันเด็กแห่งชาติปี 52	เปิดอ่าน 15,297 ครั้ง ประโยชน์ของมังคุด ราชินีแห่งผลไม้ไทยที่ต้องลิ้มลอง

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory