ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้วิจัย นางอ่อนศรี ไชยขันธ์
ปีที่วิจัย ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มัวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ออกแบบและพัฒนาโมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 2) ศึกษาการใช้โมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ที่มีต่อการคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน 3) ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน 4) ศึกษาความคิดเห็นของนักเรียนกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนบัวขาว สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดกาฬสินธุ์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 48 คน ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental Research ) แบบ Type II (Richey and Klein, 2007 : 43) ซึ่งประกอบด้วย 3 ระยะ ดังนี้ 1) การพัฒนาโมเดล 2) การตรวจสอบความตรงของโมเดล และ 3) การใช้โมเดล และทำการเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ โดยการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ ได้แก่ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การคิดสร้างสรรค์ ความสัมพันธ์ระหว่างการคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ด้วยค่าสถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าสหสัมพันธ์ และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพ ได้แก่ การคิดสร้างสรรค์ ด้วยการวิเคราะห์โปรโตคอล
ผลการวิจัย พบว่า
1) โมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ ที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 5 ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบที่สำคัญ คือ (1) สถานการณ์ปัญหา (2) แหล่งการเรียนรู้ (3) กรณีใกล้เคียง (4) เครื่องมือทางปัญญา (5) แลกเปลี่ยนเรียนรู้ (6) ศูนย์ให้คำแนะนำ (7) ห้องแลป
การคิดสร้างสรรค์ และ (8) ฐานการช่วยเหลือ
2) การคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนที่เรียนด้วยโมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ จากการศึกษา
ในระยะที่ 2 และ 3 มีค่าคะแนนเฉลี่ยที่ได้จากแบบวัดการคิดสร้างสรรค์เท่ากับ 29.5 และ 28.85 ตามลำดับ อยู่ในระดับสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80 % และผลของการคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนจากผลการสัมภาษณ์ พบว่า ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดสร้างสรรค์ตามกรอบของ Guilford (1999 : 30 33 ) ประกอบด้วย (1) การคิดคล่อง (2) การคิดยืดหยุ่น (3) การคิดริเริ่ม และ (4) การคิดละเอียดลออ
3) การใช้โมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ พบว่า มีขั้นตอนที่สำคัญดังนี้ (1) การนำเข้าสู่
บทเรียน (2) การจัดกลุ่มผู้เรียน (3) การเรียนรู้ด้วยโมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ และ (4) การร่วมกันอภิปรายสรุปบทเรียนร่วมกัน
4) การคิดสร้างสรรค์มีความสัมพันธ์เชิงบวกกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน จาก
การศึกษาในระยะที่ 2 และ 3 มีค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์เท่ากับ 0.71 และ 0.74 ตามลำดับ
5) ความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อโมเดลการเรียนรู้ พบว่า ด้านเนื้อหา การเรียนรู้ ด้านสื่อ
และด้านการออกแบบที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ มีการออกแบบที่เหมาะสมและช่วยสนับสนุนและส่งเสริมในการสร้างความรู้ และการคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียน
กิตติกรรมประกาศ
งานวิจัยฉบับนี้สำเร็จลุล่วงได้ด้วยความเมตตากรุณา และเอาใจใส่ให้คำปรึกษาจากรองศาสตราจารย์ ดร.สำเร็จ ยุรชัย อาจารย์คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ที่ได้สละเวลาอันมีค่าในการให้ความรู้ ข้อคิด ข้อเสนอแนะ ตลอดจนปรับปรุงแก้ไขข้อบกพร่องในการทำวิจัยให้แก่ผู้วิจัย
ขอขอบพระคุณ ผศ.สิทธี วนิชาชีวะ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัย
ขอนแก่น ดร.ลักขณา เถาว์ทิพย์ อาจารย์ประจำคณะเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม นางสาวสมจิต หวังทรัพย์ทวี ครูเชี่ยวชาญ โรงเรียนเทศบาลวัดสระทอง จังหวัดร้อยเอ็ด และนางปิยรัตน์ เรืองวงศ์วิทยา ครูเชี่ยวชาญ โรงเรียนชุมชนบ้านบุ่งแก้ว จังหวัดอุดรธานี ที่ได้กรุณาเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือและข้อเสนอแนะอันมีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำวิจัย
ขอขอบพระคุณคณาจารย์จากโรงเรียนบัวขาว ที่ให้ความช่วยเหลือส่งเสริม สนับสนุนและเป็นกำลังใจอย่างดีในการทำวิจัย
ขอกราบขอบพระคุณญาติ มิตรทุกท่านที่ให้การสนับสนุนในการทำวิจัยตลอดมา
คุณค่าและประโยชน์อันพึงมีของวิจัยนี้ ผู้วิจัยขอมอบเป็นเครื่องบูชาแด่พระคุณบิดา พระคุณมารดา ผู้ให้กำเนิดและอบรมเลี้ยงดู และบูรพาจารย์ทุก ๆ ท่านที่ได้ประสิทธิประสาทวิชาความรู้แก่ผู้วิจัยเสมอมา
อ่อนศรี ไชยขันธ์
สารบัญ
หน้า
บทคัดย่อ ก
กิตติกรรมประกาศ ค
สารบัญภาพ ฉ
บทที่ 1 บทนำ 1
1. ความสำคัญของปัญหาและที่มาของการวิจัย 1
2. คำถามการวิจัย 5
3. วัตถุประสงค์ 5
4. ขอบเขตของการวิจัย 5
5. นิยามศัพท์เฉพาะ 6
6. ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ 7
บทที่ 2 วรรณกรรมและผลงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 8
1. วิชาภาษาอังกฤษ 11
2. ทฤษฎีการเรียนรู้ 14
3. ทฤษฎีการเรียนรู้ภาษา 33
4. การคิดสร้างสรรค์ 48
5. รูปแบบการเรียนการสอนที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ 51
6. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 63
7. กรอบแนวคิดเชิงทฤษฎี 69
8. กรอบแนวคิดการวิจัย 69
บทที่ 3 วิธีดำเนินการวิจัย 71
1. ระยะที่ 1 การพัฒนาโมเดล 71
2. ระยะที่ 2 การตรวจสอบความตรงของโมเดล 79
3. ระยะที่ 3 การใช้โมเดล 85
สารบัญ ( ต่อ )
หน้า
บทที่ 4 ผลการวิจัยและการอภิปรายผล 89
1. ผลการออกแบบและพัฒนาโมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ
ที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
89
2. ผลการศึกษาของการคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เรียนด้วยโมเดล
การเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
103
3. ผลการศึกษาการคิดสร้างสรรค์ของผู้เรียนเมื่อเรียนด้วยโมเดลการเรียนรู้
วิชาภาษาอังกฤษที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 5
104
4. ผลการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการคิดสร้างสรรค์กับผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนของผู้เรียนเมื่อเรียนด้วยโมเดลการเรียนรู้วิชาภาษาอังกฤษ
ที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
104
5. ผลการศึกษาความคิดเห็นของผู้เรียนที่เรียนด้วยโมเดลการเรียนรู้
วิชาภาษาอังกฤษที่ส่งเสริมการคิดสร้างสรรค์ ของนักเรียนชั้นมัธยม
ศึกษาปีที่ 5
104
5. สรุป และอภิปรายผลการวิจัย 105
บทที่ 5 สรุปผลการวิจัย และข้อเสนอแนะ 108
1. วัตถุประสงค์การวิจัย 108
2. วิธีดำเนินการวิจัย 108
3. สรุปผลการวิจัย 120
4. ข้อเสนอแนะ 123
บรรณานุกรม 124
ภาคผนวก 130
ภาคผนวก ก เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 131
ภาคผนวก ข ตัวอย่างผลงานนักเรียน 134
สารบัญ ( ต่อ )
หน้า
ภาคผนวก ค - หนังสือราชการ
- หนังสือแต่งตั้งผู้เชี่ยวชาญ
- หนังสือขอเผยแพร่ผลงาน 167
ประวัติผู้วิจัย 212
สารบัญภาพ
หน้า
ภาพที่ 1 15
ภาพที่ 2 17
ภาพที่ 3 18
ภาพที่ 4 19
ภาพที่ 5 20
ภาพที่ 6 22
ภาพที่ 7 30
ภาพที่ 8 64