ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมท

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้

เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา

สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้วิจัย ปาริชาติ พลศิริ

ชื่อหน่วยงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช

ปีที่วิจัย 2557

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 โรงเรียนเทศบาลวัดท่าโพธิ์ เทศบาลนครนครศรีธรรมราช อำเภอเมือง จังหวัดนครศรีธรรมราช ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 34 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย ( Simple Random Sampling) โดยการจับฉลาก 1 ห้องเรียนจากนักเรียนทั้งหมด 4 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินการทำความดีตามหลักพระพุทธศาสนา และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า 1) ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “MCSACE Model” มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ การจัดการเรียนการสอน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 6 ขั้นตอนคือ ขั้นเร้าความสนใจ (Motivation) ขั้นสร้างความรู้ (Construction) ขั้นจัดระเบียบความรู้ (Sytematization) ขั้นประยุกต์ใช้ความรู้ (Application) ขั้นสรุป (Conclusion) และขั้นประเมินผล (Evaluation) 2) ผลการพัฒนารูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ค่าประสิทธิภาพ E1 /E2 แบบรายบุคคล (Individual Tryout) เท่ากับ 79.17/77.50 ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 แบบกลุ่มเล็ก (Small Group Tryout) เท่ากับ 80.69/79.44 และการทดลองภาคสนาม เท่ากับ 83.08/81.92 3) ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างจำนวน 34 คนได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.74/82.35 และจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 4) ผลการประเมินและปรับปรุงรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 พบว่านักเรียนมีผลการประเมินการทำความดีตามหลักพระพุทธศาสนา พบว่าทุกข้อมีผลการประเมินในระดับดี นักเรียนนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริมการทำความดี ตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย Kwan : [5 มี.ค. 2559 เวลา 13:05 น.]
อ่าน [5567] ไอพี : 118.173.14.204
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,320 ครั้ง
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ
คลิปรถตู้อุบลฯ รับผู้โดยสารแน่นคัน 15 ที่นั่ง ยืนอีกเป็นสิบ

เปิดอ่าน 16,147 ครั้ง
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ
10 ลักษณะนิสัยแห่งผู้ประสบความสำเร็จ

เปิดอ่าน 35,150 ครั้ง
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"
รู้จัก "อีบิดดิ้ง-อีมาร์เก็ต" ระบบจัดซื้อ "พันธุ์ใหม่"

เปิดอ่าน 2,944 ครั้ง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง
"6 สัตว์น้ำปรับปรุงพันธุ์" เลี้ยงง่าย โตไว ให้ผลผลิตคุณภาพสูง

เปิดอ่าน 2,850 ครั้ง
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี
นอนไม่หลับ ทำอย่างไรดี

เปิดอ่าน 1,103 ครั้ง
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา
มาตรฐานสากล ISO 9001 คืออะไร ทำไมจึงสำคัญต่อสถาบันการศึกษา

เปิดอ่าน 8,379 ครั้ง
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก

เปิดอ่าน 4,996 ครั้ง
7 สาเหตุนอนไม่หลับและเคล็ดลับแก้ไข
7 สาเหตุนอนไม่หลับและเคล็ดลับแก้ไข

เปิดอ่าน 51,151 ครั้ง
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551
พรบ.ครู(ฉบับที่2) 2551 มีผล 21 กุมภาพันธ์ 2551

เปิดอ่าน 16,234 ครั้ง
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!
5 กลิ่นอาหาร ที่จะช่วยให้คุณผอม!

เปิดอ่าน 11,397 ครั้ง
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ
ตรวจแคลเซียมหลอดเลือดหัวใจคิดใหม่ทำใหม่เพื่อหัวใจของคุณ

เปิดอ่าน 10,091 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)
ปฏิรูปการศึกษาไทย พายเรือในอ่าง (จบ)

เปิดอ่าน 109,708 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพสื่อ
การหาประสิทธิภาพสื่อ

เปิดอ่าน 14,642 ครั้ง
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี
10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี

เปิดอ่าน 15,799 ครั้ง
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ
ชา จริงๆ แล้วดีกว่าน้ำ

เปิดอ่าน 11,237 ครั้ง
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด
ตัดวงจรเครียด...ก่อนระเบิด
เปิดอ่าน 24,580 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
เปิดอ่าน 9,628 ครั้ง
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
เปิดอ่าน 14,106 ครั้ง
อาหารกับการออกกำลัง
อาหารกับการออกกำลัง
เปิดอ่าน 11,460 ครั้ง
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด
ดูทีวี-เล่นมือถือในที่มืด ระวังต้อหินคุกคามจนตาบอด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ