ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้

บทคัดย่อ

คำสำคัญ : ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม /

ประวัติศาสตร์ไทย / การจัดการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 4

อรุณี สะอาดดี : รายงานการใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วย

กลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

รายงานการใช้ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อหาประสิทธิภาพชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบ

การเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพ

ตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่ได้รับการสอนด้วย

ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผล ของการจัดการเรียนรู้ด้วยชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้

สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 และเพื่อหาความพึงพอใจของ

นักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ หลังจากนักเรียนได้รับการสอนด้วยชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มทดลองเป็นนักเรียนโรงเรียนสิงห์สมุทร อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2556 สังกัดสำนักงาน

เขตพื้นที่การศึกษาการมัธยมศึกษา เขต 18 การเลือกกลุ่มทดลองได้มา จำนวน 1 ห้องเรียนได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/4จำนวนทั้งหมด 40 คน โดยได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random sampling) แบบเป็นกลุ่มห้องเรียน จากห้องที่โรงเรียนได้มอบหมายให้

ผู้ศึกษาค้นคว้าเป็นผู้รับผิดชอบการสอนเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โดยที่ผู้ศึกษาค้นคว้าเป็นผู้ดำเนินการทดลองด้วยตนเอง ใช้เวลาในการสอน 18 ชั่วโมง แบบแผน

การทดลองแบบ One-Group Pretest-Posttest Designวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าสถิติ

t-test for Paired Samples และค่าสถิติ t-test One Sample

ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า

1. ประสิทธิภาพของชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 โดยมีค่าประสิทธิภาพ 81.80/81.13 แสดงว่าประสิทธิภาพของชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ประสิทธิภาพ80/80 ที่ตั้งไว้

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม

ของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังเรียนได้รับการสอนโดยใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีความแตกต่างกันอย่างมี

นัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ของนักเรียนหลังการการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4สูงกว่าก่อนการเรียนการสอน

3. ดัชนีประสิทธิผล ของการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTAD ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.87 ซึ่งแสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 87

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ หลังจากนักเรียนได้รับการสอน

ด้วยชุดการสอนกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม เรื่อง ประวัติศาสตร์ไทย โดยใช้ร่วมกับรูปแบบการเรียนรู้ด้วยกลุ่มร่วมมือSTADของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 4 ซึ่งแสดงว่านักเรียนส่วนใหญ่ มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับมากโดยมีคะแนน

เฉลี่ยรวม 4.18 และคิดเป็นเฉลี่ยรวมเป็นร้อยละ 83.60

โพสต์โดย toto : [4 มี.ค. 2559 เวลา 18:52 น.]
อ่าน [4542] ไอพี : 171.98.11.74
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,295 ครั้ง
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม
งานเทศกาลท่องเที่ยวดอกกระเจียวงาม

เปิดอ่าน 22,145 ครั้ง
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ
ถาม - ตอบ เพื่อสุขภาพ

เปิดอ่าน 11,580 ครั้ง
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?
iOS 6 มีอะไรใหม่บ้าง?

เปิดอ่าน 13,645 ครั้ง
7 สุดยอดอาหารคืนความสมดุลให้ชีวิต
7 สุดยอดอาหารคืนความสมดุลให้ชีวิต

เปิดอ่าน 68,956 ครั้ง
"ดอกปาริชาติ" กับความเชื่อเรื่องระลึกชาติได้
"ดอกปาริชาติ" กับความเชื่อเรื่องระลึกชาติได้

เปิดอ่าน 14,792 ครั้ง
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้
แฉ! ภัยร้านซ่อมคอมพ์ที่คุณต้องรู้

เปิดอ่าน 13,234 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 11,970 ครั้ง
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ
คู่มือพัฒนาตนเองผ่านระบบออนไลน์และการประชุมปฏิบัติการเสริมสร้างสมรรถนะครูผู้ช่วย สู่การเป็นครูมืออาชีพ

เปิดอ่าน 9,843 ครั้ง
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้
ภูกระดึงเปิดฤดูท่องเที่ยว รับอากาศเย็น 1 ต.ค.นี้

เปิดอ่าน 22,499 ครั้ง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง
วิธีเลือกของขวัญมีค่า-ไม่แพง

เปิดอ่าน 22,187 ครั้ง
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์
เกณฑ์มาตรฐานการเสนอเค้าโครงวิทยานิพนธ์

เปิดอ่าน 21,316 ครั้ง
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?
ปัญหาการศึกษาไทย...อยู่ตรงไหน?

เปิดอ่าน 63,385 ครั้ง
หลักธรรมของชีวิตคู่
หลักธรรมของชีวิตคู่

เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร
สตอร์มเสิร์จ (Storm surge) คืออะไร

เปิดอ่าน 18,280 ครั้ง
อาหารบำรุงผม
อาหารบำรุงผม

เปิดอ่าน 7,966 ครั้ง
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
การศึกษาในศตวรรษที่ 21 รร.ต้องร่างหลักสูตรให้เด็กเป็นผู้บริหาร
เปิดอ่าน 11,618 ครั้ง
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
12 เคล็ดง่าย เพื่อหน้าใส ไร้ริ้วรอย
เปิดอ่าน 4,003 ครั้ง
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์  การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
สสวท. จุดประกายเรียนรู้บูรณาการด้วยวีดิทัศน์ การจัดประสบการณ์การเรียนรู้สำหรับเด็กปฐมวัย
เปิดอ่าน 17,172 ครั้ง
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล
เคล็ดลับเด็ดๆ ในการป้องกันน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างได้ผล
เปิดอ่าน 68,406 ครั้ง
ประติมากรรม
ประติมากรรม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ