ครูบ้านนอก

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 = 80/80 2) เปรียบเทียบผลการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยเทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 3) ศึกษาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ด้วยเทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 18 คน โรงเรียนเทศบาลตลาดแค กองการศึกษา เทศบาลตำบลตลาดแค อำเภอโนนสูง จังหวัดนครราชสีมา ได้จากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) จำนวน 9 แผน รวม 18 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โจทย์ปัญหา

การบวก ลบ คูณ หาร แบบปรนัย 3 ตัวเลือกจำนวน 10 ข้อและแบบแสดงวิธีทำ จำนวน 4 ข้อ

3) แบบประเมินพฤติกรรมกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)แบบมาตราส่วนประมาณค่า 3ระดับจำนวน 10 ข้อที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ร้อยละค่าเฉลี่ย (x ̅) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)การทดสอบค่าที (t - test) แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา(content analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1.แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ของนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) มีประสิทธิภาพ E1/E2 = 82.22/84.81 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80

2. ผลการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยการจัดการเรียนรู้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)หลังเรียนสูงกว่า

ก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

3. พฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนที่จัดการเรียนรู้แบบร่วมมือกัน โดยใช้เทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD)พบว่า พฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนอยู่ในระดับดีมาก 2 กลุ่ม และระดับดี 2 กลุ่ม

4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คูณ หาร ด้วยเทคนิค KWDL ร่วมกับเทคนิคกลุ่มผลสัมฤทธิ์ (STAD) โดยรวมในระดับมากที่สุด

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 17,467 ครั้ง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา	เปิดอ่าน 12,972 ครั้ง คู่มือหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางของงานก่อสร้างและหลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติการชดเชยค่างานก่อสร้างตามสัญญ	เปิดอ่าน 27,002 ครั้ง ไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ใช้ธูปกี่ดอกกันบ้าง?
เปิดอ่าน 5,352 ครั้ง ทำไมอุตสาหกรรมบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเป็นผู้เล่นใหญ่ในเศรษฐกิจของหลายประเทศ	เปิดอ่าน 6,536 ครั้ง PowerPoint ชี้แจงหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มัธยมศึกษาตอนปลาย มัธยมศึกษาที่ 4 – มัธยมศึกษาที่ 6	เปิดอ่าน 11,303 ครั้ง หูป่วย! เพราะโลกใบนี้..
เปิดอ่าน 82,199 ครั้ง ทำไมมีจุดแดงบนหน้าผากสตรีอินเดีย	เปิดอ่าน 5,224 ครั้ง ความแตกต่างระหว่างด้ายเย็บผ้าและด้ายปัก และประเภทของด้ายปัก	เปิดอ่าน 28,090 ครั้ง กำเนิดไอศครีม มาจากที่ใด
เปิดอ่าน 17,238 ครั้ง ผลสลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 1 มิถุนายน 2552	เปิดอ่าน 11,571 ครั้ง ตูนส์ศึกษา : การศึกษาระดับประถมวัยของไทยคือการเตรียมพร้อมหรือการทำร้ายเผ่าพันธุ์มนุษย์	เปิดอ่าน 11,158 ครั้ง วิธีดูแลต้นไม้ในหน้าร้อน
เปิดอ่าน 5,677 ครั้ง กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน	เปิดอ่าน 10,924 ครั้ง เส้นทางสู่ประชาคม เศรษฐกิจอาเซียนของไทย ตอนที่ 1 เจรจา ทูตแห่งการค้าเสรี	เปิดอ่าน 32,484 ครั้ง พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory