บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการสอนแบบเน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษา
อังกฤษในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นางสาววิไลลักษณ์ แก้วสด
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการพิเศษ
หน่วยงาน โรงเรียนพิบูลมังสาหาร องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุบลราชธานี
ปีที่วิจัย 2558
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) วิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) พัฒนารูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) ประเมินผลการใช้รูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในด้าน 4.1) ผลสัมฤทธิ์ทางด้านการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4.2) ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนพิบูลมังสาหาร ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม จำนวน 45 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ 1) แบบประเมินความต้องการพื้นฐานเพื่อการจัดการเรียนรู้ รายวิชา อ33101 ภาษาอังกฤษ 5 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) แบบสัมภาษณ์ครูเพื่อรวบรวมแนวคิดในการจัดกิจกรรมรูปแบบการสอน 3) แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสาร ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 4) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ด้านความสามารถในการสื่อสารภาษาอังกฤษ 5) แบบสัมภาษณ์ 6) แบบประเมินทักษะการพูดตามสภาพจริง 7) แบบสอบถามความความพึงพอใจ การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่า t-test (Dependent Samples) และการวิเคราะห์เนื้อหา
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมแล้ว นักเรียนมีความต้องการพัฒนาทักษะการพูดสื่อสารได้แก่ เนื้อหา เมื่อพบนักท่องเที่ยว การหาที่พัก สถานที่น่าเที่ยว เทศกาลน่าชม อาหารที่อร่อย ของฝากถูกใจ ไปอย่างไรค่ารถเท่าไหร่ และธรรมเนียมไทยที่ควรรู้ จากการสัมภาษณ์ครูผู้สอนภาษาอังกฤษ สรุปข้อมูลสอดคล้องกันว่า นักเรียนไม่มีความเข้าใจในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษมาตั้งแต่ระดับประถมศึกษา ทำให้เกิดความท้อแท้ ขาดความกระตือรือร้นในการเรียน ไม่มีความมั่นใจในตนเอง จนไม่สามารถพูดสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างถูกต้องและคล่องแคล่ว ขาดประสบการณ์พูดสื่อสารในการเผชิญกับสถานการณ์จริง การจัดการสอนด้วยรูปแบบ LECSA Model นี้ ทำให้นักเรียนมีโอกาสใช้ภาษาอังกฤษทั้งในและนอกห้องเรียน จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนและมีความรู้ความเข้าใจ และมีทักษะในการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษเพิ่มขึ้น
2. ผลการพัฒนารูปแบบการสอนเน้นประสบการณ์ที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า รูปแบบการสอน LECSA Model มีองค์ประกอบ ดังนี้ คือ หลักการ วัตถุประสงค์ เนื้อหา กระบวนการกิจกรรม และสิ่งที่เสริมการเรียนรู้ ได้แก่ ระบบสังคม หลักการตอบสนอง และสิ่งสนับสนุน มีขั้นตอนการสอน 5 ขั้น ดังนี้ 1) ตระหนักการรู้ภาษา (Language Awareness) 2) ขั้นฝึกปฏิบัติ (Explanation) 3) ขั้นร่วมมือกันเรียนรู้ (Collaborative) 4) ขั้นการเรียนรู้ในด้านการบริการ (Social Service) และ 5) ขั้นประเมินผล (Authentic Performance and Assessment) ซึ่งรูปแบบการสอนนี้ได้รับการประเมินจากผู้เชี่ยวชาญ 5 ท่าน ให้ความเห็นว่าอยู่ในระดับดีมาก แสดงว่ารูปแบบการสอนมีความสอดคล้องกับหลักการของรูปแบบการสอน และแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพภาพอยู่ในระดับเหมาะสมมากที่สุด
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอน LECSA Model ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.24/82.22นักเรียนกลุ่มตัวอย่างมีความกระตือรือร้นในการร่วมมือกันเรียนรู้ ฝึกปฏิบัติทั้งงานเดี่ยวและงานกลุ่มอย่างตั้งใจ การออกไปเผชิญสถานการณ์จริงนอกห้องเรียนช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสาร และทักษะทางสังคมซึ่งเป็นราก ฐานสำคัญอันนำมาซึ่งความสุข ความสำเร็จในชีวิตเมื่อนักเรียนเติบโตขึ้นในอนาคต
4. ผลการประเมินผล/ปรับปรุงรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษ ในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่พัฒนาขึ้น มีรายละเอียด ดังนี้
4.1 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4.2 ความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการสอนที่เน้นประสบการณ์เพื่อเสริมทักษะการพูดสื่อสารภาษาอังกฤษในบริบทท้องถิ่นโดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด