ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง
เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
ผู้ศึกษาค้นคว้า มลิวรรณ์ เพชรประดิษฐ์
ปีการศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพชุดการสร้างความรู้ตาม
แนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระ
การเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการสร้าง
ความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 3) เพื่อหาดัชนีประสิทธิผลของชุดการสร้าง
ความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อ
ชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการ
วิจัย คือนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 จ านวน 32 คน ที ่ได้มาจากการสุ ่มแบบกลุ ่ม
(Cluster Random Sampling) ภาคเรียนที ่ 2 ประจ าปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาล ๓
(บ้านคลองหา นาเตรียะ) สังกัดเทศบาลเมืองนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานีเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
1) ชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จ านวน 4 ชุด 2)
แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการสร้าง
ความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เป็นแบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จ านวน 40
ข้อ 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา
ศาสนาและวัฒนธรรม จ านวน 15 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบน
มาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) และ 4)แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์
จ านวน 6แผน 18ชั่วโมง
ผลการวิจัยพบว่า
1. ป ระสิทธิภ าพ ของชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง
เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนา
และวัฒนธรรม จากการทดลองภาคสนามกับนักเรียนจ านวน 33 คน พบว่าผลการทดสอบระหว่างเรียนมี
คิดเป็นร้อยละ 80.73 และทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 83.33 มีประสิทธิภาพ 80.73/83.33 ซึ่ง
ข
สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 และเมื่อน ามาทดลองกับกลุ่มตัวอย่างจริงกับนักเรียนจ านวน 32 คน พบว่าผลการ
ทดสอบระหว่างเรียนมีคิดเป็นร้อยละ 81.22 และทดสอบหลังเรียนคิดเป็นร้อยละ 81.56 มี
ประสิทธิภาพ 81.22/81.56 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงว่าชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอน
สตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้
สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ได้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดการสร้างความรู้
ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่ม
สาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม พบว่าการทดสอบหลังเรียนของนักเรียนมีคะแนน
เฉลี่ยเท่ากับ 16.31 และเมื่อเปรียบเทียบระหว่างคะแนนสอบของนักเรียนหลังเรียน พบว่า คะแนน
สอบของนักเรียนหลังเรียน สูงกว่าเกณฑ์อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ดัชนีประสิทธิผลของชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์
น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม
เท่ากับ 0.7223 ซึ่งหมายความว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.23 เป็นไปตามเกณฑ์ที่ก าหนด คือ
0.50 ขึ้นไป
4. ความพึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเทศบาล ๓ (บ้านคลองหา นา
เตรียะ) สังกัดเทศบาลเมืองนาสาร จังหวัดสุราษฏร์ธานี ที่มีต่อชุดการสร้างความรู้ตามแนวทฤษฎีคอน
สตรัคติวิสต์ เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคม
ศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก (ตามเกณฑ์ของ บุญชม ศรี
สะอาด, 2545) โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 3.96 ค่าเฉลี่ยของส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.73 โดยที่รายการ
ที่มีระดับความพึงพอใจมากที่สุดคือ ช่วยให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาวิชามากขึ้น และ การพัฒนาบทเรียนบน
เครือข่ายที่ส่งเสริมกระบวนการสืบสอบและแสวงหาความรู้เป็นกลุ่ม เรื่อง เศรษฐศาสตร์น่ารู้ ส าหรับ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ได้กระตุ้นให้นักเรียนฝึกปฏิบัติอย่างมีความสุข (
X = 4.33, S.D. =
0.73) แปรความอยู่ในระดับมากที่สุด