ครูบ้านนอก

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนวัดสองพี่น้อง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 15 คน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียน และแบบวัดความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหา ค่าเฉลี่ย ( x̄) ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) หาค่าประสิทธิภาพ (E1 / E2) และการทดสอบที (t- Test) ผลการวิจัยโดยสรุปมีดังนี้

1. ผลการพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ พบว่า แบบฝึกที่พัฒนาขึ้นทั้ง 9 เล่ม ผลการพิจารณาความเหมาะสมของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกดของผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 ท่าน ได้ค่า IOC เท่ากับ 1.00 ซึ่งมีโครงสร้างและองค์ประกอบต่าง ๆ อยู่ในระดับความเหมาะสมมากที่สุด และผลการหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด พบว่า ในภาพรวมมีประสิทธิภาพ 93.25/83.33 และมีประสิทธิภาพรายเล่ม เล่มที่ 1 มาตราแม่ ก กา 93.11/81.33 เล่มที่ 2 มาตราแม่ กก 93.11/82.00 เล่มที่ 3 มาตราแม่ กน 94.32/82.00 เล่มที่ 4 มาตราแม่ กบ 94.21/82.67 เล่มที่ 5 มาตราแม่ กม 96.39/84.67 เล่มที่ 6 มาตราแม่ กง 94.21/83.33 เล่มที่ 7 มาตราแม่ กด 98.14/86.67 เล่มที่ 8 มาตราแม่เกย 96.17/84.67 และ เล่มที่ 9 มาตราแม่ เกอว 94.21/82.67 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้

2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าก่อนใช้แบบฝึกอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนโดยใช้มาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ โดยการใช้แบบฝึกทักษะ ในภาพรวม อยู่ในระดับมาก

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 27,230 ครั้ง การเรียนการสอนทางไกลแบบปฏิสัมพันธ์	เปิดอ่าน 4,819 ครั้ง กรมอนามัย เผย 6 วิธี ป้องกันโควิด-19 บนรถรับ-ส่งนักเรียน	เปิดอ่าน 8,859 ครั้ง แห่แชร์ น้ำใจชาวม้งหลายหมู่บ้าน ร่วมแรงลากรถประสบอุบัติเหตุขึ้นเขา
เปิดอ่าน 11,690 ครั้ง เคล็ดลับเรียนภาษา ให้ได้ผล	เปิดอ่าน 20,011 ครั้ง ประตูบ้านให้ลาภ	เปิดอ่าน 24,788 ครั้ง เกษียณ65ปีทางแก้ประชากรสูงอายุ มีเงินเก็บ"4แสน"ก็อยู่ลำบาก
เปิดอ่าน 2,370 ครั้ง กรมอนามัย เตือน นมข้นหวานห้ามใช้เลี้ยงทารก ให้กินนมแม่อย่างเดียวต่อเนื่อง 6 เดือน ดีที่สุด	เปิดอ่าน 14,991 ครั้ง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ อันตรายที่อย่ามองข้าม	เปิดอ่าน 10,621 ครั้ง การจัดการเรียนการสอนในยุคโลกดิจิตอล
เปิดอ่าน 13,017 ครั้ง ทำไงดีหนอ กับอาการแพ้ท้อง?	เปิดอ่าน 55,750 ครั้ง ประโยชน์ของคอมพิวเตอร์กราฟิก	เปิดอ่าน 13,040 ครั้ง "ครู" ในศตวรรษที่ 21 จุดเปลี่ยนการศึกษาข้ามพรมแดน
เปิดอ่าน 9,586 ครั้ง ฝึกหายใจให้หายง่วง	เปิดอ่าน 15,837 ครั้ง การเลือกโต๊ะสำหรับการเขียนหนังสือ	เปิดอ่าน 41,683 ครั้ง ทำไมคนญี่ปุ่นไม่แซงคิว...เรื่องดี ๆ ที่อยากให้อ่าน

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.

ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory