ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทความวิจัย เรื่องการพัฒนารูปเเบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ นางพรรณี สุ่มมาตย์

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้เพื่อส่งเสริม

การทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

A DEVELOPMENT OF LEARNING AND TEACHING BY

CONSTRUCTIVISM TO SUPPORT A GOODNESS AND FOLLOW

FORMS OF BUDDHIST WAY IN SUBSTANCE LEARNING GROUP ON

SOCIAL STUDY, RELIGION AND CULTURE FOR MATHAYOMSUKSA

I STUDENTS

นางพรรณี สุ่มมาตย์*

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) สร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี การสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) ทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) ประเมินและปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างในการวิจัย คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/2 โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556

ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาลวัดเวฬุวัน จังหวัดร้อยเอ็ด

จำนวน 30 คน ซึ่งได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อรูปแบบการเรียนการสอน สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าทีแบบไม่อิสระ และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎี การสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนส่วนใหญ่ต้องการใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามทฤษฎีการสร้างความรู้ เพื่อส่งเสริมการทำความดีและการปฏิบัติที่มีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนา เพราะนักเรียนได้เล่นปนเรียน มีเกมที่สนุกสนานท้าทายมีการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา บรรยากาศในการเรียนสนุกสนาน

2. การสร้างและพัฒนารูปแบบได้รูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นมีชื่อเรียกว่า “APPDACE Model” มีองค์ประกอบคือ หลักการ วัตถุประสงค์ การจัดการเรียนการสอน ซึ่งมีกระบวนการเรียนการสอน 7 ขั้นตอนคือ ขั้นเร้าความสนใจ (Attention) ขั้นวางแผน (Plan) ขั้นนำเสนอเนื้อหา (Presentation) ขั้นแลกเปลี่ยนเรียนรู้ (Discussion) ขั้นนำไปใช้ (Application) ขั้นสรุป (Conclusion) และ ขั้นประเมินผล (Evaluation) มีความเหมาะสมและเป็นไปได้

3. การทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบ “APPDACE Model” โดยการทดลองกับกลุ่มตัวอย่าง ได้ค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 84.72/82.43 และจากการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. การประเมินผลและปรับปรุงรูปแบบการเรียนการสอน แบบ “APPDACE Model” พบว่านักเรียนทำความดีและปฏิบัติอย่างมีแบบแผนตามหลักพระพุทธศาสนาโดยรวมอยู่ในระดับดี ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.61 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.52 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการเรียนการสอนแบบ “APPDACE Model” โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.55 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.55

Abstract

The purpose of this research were 1) to study information for develop learning and teaching by constructivism to support a goodness and follow forms of Buddhist way in Substance Learning Group on Social Study, Religion and Culture for Mathayomsuksa I students. 2) to develop learning and teaching by constructivism to support a goodness and follow forms of Buddhist way in Substance Learning Group on Social Study, Religion and Culture for Mathayomsuksa I students to meet the requirement of the 80/80 efficiency standard.3) to tryout learning and teaching by constructivism to support a goodness and follow forms of Buddhist way in Substance Learning Group on Social Study, Religion and Culture for Mathayomsuksa I students. 4) to evaluate and improve learning and teaching by constructivism to support a goodness and follow forms of Buddhist way in Substance Learning Group on Social Study, Religion and Culture for Mathayomsuksa I students.

The sample consisted of 30 students at Mathayomsuksa 1/2 at Watweluwan Municipal School, Roi Et in semester 2 of the academic year 2013. They were selected by Simple Random Sampling.

The instrument used in this research were a learning and teaching by constructivism to support a goodness and follow forms of Buddhist way in Substance Learning Group on Social Study, Religion and Culture for Mathayomsuksa I students, the achievement test,a goodness and follow forms of Buddhist way evaluation and the satisfaction test for teaching by constructivism. The statistical measures used to analyze the data were percentage, mean, standard deviation, the t-Test Dependent Sample and content analysis.

The results of this research indicated that 1) the researcher found that “APPDANCE Model” there were principal, objectives and teaching management 7 steps were Attention, Plan, Presentation, Discussion, Application, Conclusion and Evaluation. 2) the develop of “APPDANCE Model” had the E1/E2 individual tryout was 79.09/78.33, E1/E2 small group tryout was 80.40/79.72 and field tryout was 82.67/82.00. 3) the tryout result of “APPDANCE Model” from 30 students in sample consisted had the efficiency of 84.72/82.43 and the difference of students achievement test results before and after learning was at the significant level at .05.

the evaluate and improve result of “APPDANCE Model” was students did a goodness and follow Buddhist way was at a high mode by mean was 2.61, standard deviation was 0.52, Roi Et was the difference of students achievement test result before and after learning was at significant level at .05.

โพสต์โดย ณี : [27 ก.พ. 2559 เวลา 23:02 น.]
อ่าน [3872] ไอพี : 112.143.5.246
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,816 ครั้ง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง
"โรงเรียนนิติบุคคล" ปฏิรูปการศึกษา...เกิดขึ้นจริง

เปิดอ่าน 26,842 ครั้ง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง
4 วิธีบังคับให้ตัวเองออมเงินได้จริง

เปิดอ่าน 13,630 ครั้ง
อันดับเมืองน่าอยู่
อันดับเมืองน่าอยู่

เปิดอ่าน 11,410 ครั้ง
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"
ฟังหรือยัง เพลง "จากนี้ไปจนนิพพาน"

เปิดอ่าน 9,071 ครั้ง
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป
คนไทยกับ "วิกฤติหนี้สิน" "การศึกษา" ถึงเวลาปฏิรูป

เปิดอ่าน 13,285 ครั้ง
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน
หลับไม่ลง-ตื่นยาก! นาฬิกานอนเคลื่อน

เปิดอ่าน 9,224 ครั้ง
บททดสอบก่อนเกษียณ
บททดสอบก่อนเกษียณ

เปิดอ่าน 13,680 ครั้ง
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์
น่ารักสุดๆ วงโยธวาทิตมหาวิทยาลัยโอไฮโอเล่นกังนัมสไตล์

เปิดอ่าน 1,821 ครั้ง
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ
นมฟลูออไรด์ ป้องกันฟันผุ

เปิดอ่าน 18,009 ครั้ง
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?
แค่กินน้อย ๆ แต่ไม่ออกกำลัง แล้วน้ำหนักจะลดได้ไหมนะ?

เปิดอ่าน 18,705 ครั้ง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง
สักขี คำที่คุ้นหู ที่จริงคือพืชนั่นเอง

เปิดอ่าน 23,895 ครั้ง
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ
10 กิจกรรม กระตุ้นสมองให้แอคทีฟสุด ๆ

เปิดอ่าน 43,683 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 18 การเตะจากมุม

เปิดอ่าน 18,690 ครั้ง
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??
เงินเดือน ผู้ว่าฯ กทม. เท่าไหร่??

เปิดอ่าน 12,741 ครั้ง
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร
ซีร็อกมาจากคำว่าอะไร

เปิดอ่าน 19,651 ครั้ง
4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
4 วิธีแก้เมาแบบฉับพลัน ด้วยตัวเอง
เปิดอ่าน 57,691 ครั้ง
เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
เกณฑ์คุณลักษณะเฉพาะครุภัณฑ์ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561
เปิดอ่าน 16,820 ครั้ง
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว
สมุนไพรพิชิตหน้าหนาว
เปิดอ่าน 3,920 ครั้ง
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
10 เรื่องที่ประชาชนต้องรู้เกี่ยวกับ PDPA
เปิดอ่าน 22,286 ครั้ง
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม
เทคนิคเลือกกระถางต้นไม้ให้เหมาะสม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ