ชื่อผลงาน : การพัฒนาความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพ ทักษะกระบวนการ
แก้ปัญหา ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา และความพึงพอใจของนักเรียน ต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย : กุหลาบ ลาศนันท์
หน่วยงาน : โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ
ปีการศึกษา : 2557 ภาคเรียนที่ 2
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพ ของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 2) ศึกษาทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นการสุ่มมา 1 ห้อง ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 49 คน โดยใช้การสุ่ม เป็นห้องเรียน (Cluster Random Sampling) ระยะเวลา 18 ชั่วโมง แบบแผนการทดลองคือ One Group Pretest Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวมข้อมูลประกอบด้วย 1) แบบทดสอบความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียน โดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าความเชื่อมั่น 0.92 2) แบบทดสอบทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหาก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าความเชื่อมั่น 0.94 และ 0.94 3) แบบประเมินความพึงพอใจ ของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ มีค่าความเชื่อมั่น 0.85 สถิติที่ใช้วิเคราะห์คือ ค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และสถิติทดสอบที แบบกลุ่มตัวอย่างสัมพันธ์กัน (t-test Dependent samples)
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้ 1) ความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพของนักเรียน ที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 พบว่า ด้านความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ( ¯X = 4.43, S.D = 0.64) ด้านการใช้วิธีการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ในการคิดทำโครงงานอาชีพ ( ¯X = 4.42, S.D = 0.64) ด้านการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพ ( ¯X = 4.39, S.D = 0.64) ด้านการเรียบเรียง ( ¯X = 4.36, S.D = 0.65) และด้านความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่ทำ ( ¯X = 4.35, S.D = 0.64) ผลการประเมินความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพทั้ง 5 ด้าน มีระดับความพึงพอใจมาก 2) ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา และความสามารถในการคิดแก้ปัญหาของนักเรียนที่เรียนโดยการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ผลทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ทั้ง 5 ด้าน พบว่า ด้านการศึกษาปัญหา ด้านการรวบรวมข้อมูล ด้านการเลือกปัญหา ด้านการศึกษาการออกแบบและการปฏิบัติ ด้านการทดสอบ ด้านการปรับปรุงแก้ไข ด้านการสรุปผลและประเมินผล หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และผลความสามารถในการคิดแก้ปัญหาทั้ง 4 ด้าน พบว่า ด้านระบุปัญหาที่พบ ด้านวิเคราะห์ปัญหาเพื่อหาสาเหตุของปัญหา ด้านเลือกวิธีคิดแก้ปัญหาและด้านสรุปผลการคิดแก้ปัญหา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ วิชา ง 22103 การงานอาชีพ 4 โรงเรียนสตรีเศรษฐบุตรบำเพ็ญทั้ง 5 ด้านมีค่าคะแนนเฉลี่ย( ¯X = 4.42, S.D = 0.56) อยู่ในระดับมาก พบว่า ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน มีระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับพึงพอใจมาก ( ¯X = 4.54, S.D = 0.57) รองลงมา มีระดับความพึงพอใจอยู่ในระดับพึงพอใจมาก คือ ด้านสื่อการเรียนการสอนมีระดับ ( ¯X = 4.42, S.D = 0.57) ด้านนักเรียน ( ¯X = 4.40, S.D = 0.56) ด้านแบบทดสอบทักษะกระบวนการแก้ปัญหาและแบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดแก้ปัญหา ( ¯X = 4.40, S.D = 0.56) ด้านมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชี้วัดและเนื้อหา ( ¯X = 4.35, S.D = 0.55)
คำสำคัญ ความสามารถในการเขียนเค้าโครงของโครงงานอาชีพ ทักษะกระบวนการแก้ปัญหา ความสามารถในการคิดแก้ปัญหา การจัดการเรียนรู้แบบโครงงานอาชีพ