ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R สำหรับนักเรียน

ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

ผู้วิจัย นางมยุรา บุญช่วย

โรงเรียน โรงเรียนเทศบาล 4 (อมร สะเพียรชัย อุทิศ) เทศบาลเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ

กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย

ปีที่วิจัย 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ (1) เพื่อการศึกษาผลการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (2) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ให้นักเรียนจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละ 75มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75ขึ้นไป(3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 Rกลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่2โรงเรียนเทศบาล 4 (อมร สะเพียรชัย อุทิศ) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลเมืองชัยภูมิ จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2557จำนวน30คนได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย(1)แผนการจัดการเรียนรู้ การจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2(2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (3)แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้การสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสรุปความเรียง

ผลการวิจัยพบว่า

1.ผลการจัดกิจกรรมการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ

SQ3 R สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ขั้นสำรวจ นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องอย่างคร่าว การสำรวจ คำศัพท์ ประโยคและ รูปภาพประกอบ จดจำเรื่องราว แล้วจึงบันทึกลงในสมุดทำให้ได้ข้อมูลและรายละเอียด ขั้นตั้งคำถาม ฝึกตั้งคำถาม โดยเขียนเป็นภาษาไทยก่อน จากนั้นจึงเรียบเรียงเป็นประโยคภาษาอังกฤษ ใช้คำถามง่ายๆ สามารถใช้คำถามซึ่งได้จากที่ครูยกตัวอย่างคำถามไว้ให้เป็นแนวทาง ซึ่งจะช่วยให้นักเรียนหาคำตอบไปด้วยในขณะเดียวกัน โดยใช้กิจกรรมกลุ่ม แบ่งหน้าที่กันส่งผลให้ นักเรียนก็มีคำตอบได้ในทันที ขั้นอ่าน อ่านอย่างละเอียด แล้วค้นหาความหมายของคำศัพท์ โดยใช้วิธีคาดเดาจากบริบทของข้อความ สามารถจับใจความได้รวมทั้งใช้บริบทของข้อความ ทำความเข้าใจเนื้อเรื่อง ตรวจสอบคำตอบที่คาดเดาไว้เปรียบเทียบคำตอบที่ได้คาดเดาไว้ก่อนหน้านี้ ขั้นจดจำ โดยการคาดเดาจากรูปภาพ บริบทข้อความ การขีดเส้นเน้นข้อความทำให้จดจำเนื้อเรื่องได้ ซึ่งช่วยให้สามารถหาคำตอบได้รวดเร็วขึ้น สามารถจับใจความสำคัญของเรื่องและสรุปเรื่องที่อ่านได้ขั้นทบทวน สามารถสรุปเรื่องที่อ่านจากบทความได้ สามารถตรวจคำตอบกับเพื่อน ส่งผลให้นักเรียนมีผลการประเมินด้านการเรียนรู้ผ่านเกณฑ์สูงขึ้น และนักเรียนที่มีผลการประเมินไม่ผ่านเกณฑ์ ลดลง

2 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 80ของจำนวนนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 80.4ซึ่งเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือร้อยละ 75ขึ้นไป

3 นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนการสอนอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนแบบ SQ3 R โดยภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.54

โพสต์โดย แจง : [23 ก.พ. 2559 เวลา 20:59 น.]
อ่าน [3968] ไอพี : 1.1.218.64
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,238 ครั้ง
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ
3 ปัจจัย ให้ได้งานเมื่อเรียนจบ

เปิดอ่าน 16,842 ครั้ง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย(ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557

เปิดอ่าน 35,744 ครั้ง
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน
4 วิธีลดเครียดก่อนนอน

เปิดอ่าน 24,957 ครั้ง
ประวัติฟุตบอลโลก (World Cup)
ประวัติฟุตบอลโลก (World Cup)

เปิดอ่าน 17,773 ครั้ง
วิธีแก้อาการปวดหลัง
วิธีแก้อาการปวดหลัง

เปิดอ่าน 16,885 ครั้ง
พระบรมรูปทรงม้า
พระบรมรูปทรงม้า

เปิดอ่าน 48,635 ครั้ง
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน
อะโดบีชี้ คนทำงานออฟฟิศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มองว่าเทคโนโลยีสำคัญกว่าสวัสดิการอื่นๆ ในที่ทำงาน

เปิดอ่าน 10,248 ครั้ง
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด
ทานอาหารช่วยบำบัดความเครียด

เปิดอ่าน 14,092 ครั้ง
6 เหตุผลธรรมดา แต่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณไม่รวยสักที
6 เหตุผลธรรมดา แต่เป็นเหตุผลหลักที่ทำให้คุณไม่รวยสักที

เปิดอ่าน 17,285 ครั้ง
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!

เปิดอ่าน 10,904 ครั้ง
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?
คลิปเรื่องเด่นเย็นนี้ กับความเป็นจริงเรื่อง การถอดวิชานาฏศิลป์ ?

เปิดอ่าน 9,754 ครั้ง
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาฯ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
คู่มือหลักสูตรการพัฒนาฯ ก่อนแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา

เปิดอ่าน 20,500 ครั้ง
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ
5 สิ่งไม่ควรทำหลังทานอาหารเสร็จใหม่ ๆ

เปิดอ่าน 63,644 ครั้ง
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี
การสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์เป็นราชธานี

เปิดอ่าน 59,394 ครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551

เปิดอ่าน 10,338 ครั้ง
“IAU”ประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อ“คนไทย”
“IAU”ประกาศ 106 ชื่อดาวเคราะห์น้อยล่าสุด หนึ่งในนั้นมีชื่อ“คนไทย”
เปิดอ่าน 17,441 ครั้ง
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (อินโดนีเซีย)
อาหารยอดนิยมในอาเซียน (อินโดนีเซีย)
เปิดอ่าน 80,196 ครั้ง
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
อาชีพที่จะหายไปและอาชีพในอนาคต
เปิดอ่าน 19,320 ครั้ง
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย
"ปลูกผักในต้นกล้วย"ความชุ่มฉ่ำเหลือเฟือ ไม่ต้องรดน้ำ ผักรสหวาน แถมปลอดภัย
เปิดอ่าน 28,274 ครั้ง
คุณประโยชน์ของ "มะเขือเทศ" ที่ดีต่อร่างกาย
คุณประโยชน์ของ "มะเขือเทศ" ที่ดีต่อร่างกาย

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ