ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโล

ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้งานโปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้

การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6

ผู้ศึกษา นางสาวสยามล ศิริธร

สถานศึกษา โรงเรียนบริบาลภูมิเขตต์ อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี

สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่ศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4

บทคัดย่อ

การจัดการเรียนรู้ให้ครบองค์รวมของการพัฒนาศักยภาพผู้เรียน การจัดการเรียนรู้จึงต้องกำหนดเป็น (Task) ให้นักเรียนได้ฝึกฝน คือ การเรียนรู้จากการปฏิบัติจริง การเรียนรู้จากการศึกษา การเรียนรู้จากประสบการณ์ และการเรียนรู้จากการทำงานกลุ่ม ฉะนั้นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะปฏิบัติ น่าจะเป็นกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้ฝึกทักษะปฏิบัติจริง การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ (1) เพื่อพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 (2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อกลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/1 ที่เรียนวิชาคอมพิวเตอร์ โรงเรียนบริบาลภูมิเขตต์ อำเภอบ้านผือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 41 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย ( Simple random sampling ) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ (1) ชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มการงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 9 เล่ม (2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้ชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 แผน รวม 18 ชั่วโมง (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก (P) ระหว่าง 0.53 - 0.78 ค่าอำนาจจำแนก (r) ระหว่าง 0.25 - 0.70 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ เท่ากับ 0.92 และ (4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 10 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก (rxy) ตั้งแต่ 0.42 – 0.85 และมีค่าความเชื่อมั่น เท่ากับ (α) เท่ากับ 0.90 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน

ผลการศึกษาค้นคว้าปรากฏดังนี้

1. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.40 / 80.89 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเท่ากับ 0.6638 แสดงว่านักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนคิดเป็นร้อยละ 66.38

3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05 โดยมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน

4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยรวมอยู่ในอยู่ในระดับมาก ( x̄ = 4.43 )

โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง การใช้โปรแกรมตารางงาน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเหมาะสม นักเรียนเกิดความพึงพอใจในการเรียนรู้ จึงควรส่งเสริมสนับสนุนให้ครูนำมาใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุตามเป้าหมายของหลักสูตร

โพสต์โดย มล : [21 ก.พ. 2559 เวลา 23:07 น.]
อ่าน [4560] ไอพี : 180.183.231.182
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 14,344 ครั้ง
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น
อาหาร 10 อย่างที่ควรมีไว้ในตู้เย็น

เปิดอ่าน 212,720 ครั้ง
สรุปสูตรพาราโบลา
สรุปสูตรพาราโบลา

เปิดอ่าน 14,957 ครั้ง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง
คืนผิวหน้าสวยด้วยฟักทอง

เปิดอ่าน 61,607 ครั้ง
ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช
ชนิดของสมุนไพรป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืช

เปิดอ่าน 17,113 ครั้ง
พระบรมรูปทรงม้า
พระบรมรูปทรงม้า

เปิดอ่าน 11,934 ครั้ง
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร
อาหารเพื่อสุขภาพกระเพาะอาหาร

เปิดอ่าน 15,794 ครั้ง
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - โรงเรียนญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 37,187 ครั้ง
หน้าที่ชาวพุทธ
หน้าที่ชาวพุทธ

เปิดอ่าน 36,427 ครั้ง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง
ทำไม สัญลักษณ์โอลิมปิก ต้องเป็นรูปวงกลม 5 ห่วง

เปิดอ่าน 97,743 ครั้ง
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 8,625 ครั้ง
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา
5เทคนิคสุขภาพดีสำหรับคุณแม่ที่ยุ่งตลอดเวลา

เปิดอ่าน 44,408 ครั้ง
ADDIE Model timeline
ADDIE Model timeline

เปิดอ่าน 8,302 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 1,788 ครั้ง
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด
กรมอนามัย เผยวัยทำงานสุขภาพแย่ แนะกินถูกหลัก ออกกำลังกาย ลดเครียด

เปิดอ่าน 46,431 ครั้ง
การปฐมพยาบาล
การปฐมพยาบาล

เปิดอ่าน 16,633 ครั้ง
Yahoo ประกาศ 10 อันดับคำค้นยอดนิยมประจำปี 2013
Yahoo ประกาศ 10 อันดับคำค้นยอดนิยมประจำปี 2013
เปิดอ่าน 56,306 ครั้ง
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย
ประเพณีวันขึ้นปีใหม่ของไทย
เปิดอ่าน 722 ครั้ง
จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เพื่อความสุขในทุกวัน
จัดบ้านเสริมฮวงจุ้ย เพื่อความสุขในทุกวัน
เปิดอ่าน 18,627 ครั้ง
"เขียนไลน์แบบไหน คนชอบอ่าน" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
"เขียนไลน์แบบไหน คนชอบอ่าน" โดย ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
เปิดอ่าน 12,339 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”
กรมสุขภาพจิตเตือน! คนไทยระวังเป็นโรค “ขาดมือถือไม่ได้”

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ