ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานผลการใช้เกมการละเล่นของไทยเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียนบ้านป

ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้เกมการละเล่นของไทยเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม

ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียนบ้านปะนาเระ(รัฐอุทิศ) จังหวัดปัตตานี

ผู้รายงาน วิภาวี วิเชียรรัตน์

ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญ โรงเรียนบ้านปะนาเระ (รัฐอุทิศ) จังหวัดปัตตานี

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1

ปีที่ทำการศึกษา พ.ศ.2557

บทคัดย่อ

การศึกษาในครั้งนี้จุดมุ่งหมายของการศึกษาดังนี้1)เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลการพัฒนาทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ก่อนและหลังเรียนที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการละเล่นของไทย 2) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่1 โรงเรียนบ้านปะนาเระ(รัฐอุทิศ) กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประชากร คือ นักเรียนชาย-หญิง อายุ 4-5 ปี ซึ่งกำลังเรียนอยู่ชั้นอนุบาลปีที่1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านปะนาเระ(รัฐอุทิศ) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 จำนวน 2 ห้องเรียน 60 คน กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1/1 โรงเรียนบ้านปะนาเระ( อุทิศ)จำนวน 24 คน เป็นการสุ่มแบบเจาะจง ซึ่งผู้รายงานเป็นครูประจำชั้น ระยะเวลาดำเนินการ ในภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2557 ใช้เวลา 24 วัน ระหว่างวันที่ 11 พฤศจิกายน 2557 ถึงวันที่14 มกราคม 2558 รวม 8 สัปดาห์สัปดาห์ละ3 วันวันละ 40 นาที รวมทั้งสิ้น 24 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ 1) เกมการละเล่นของไทย จำนวน 24 เกม 2) แผนการจัดประสบการณ์การละเล่นของไทย เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมจัดในกิจกรรมกลางแจ้ง จำนวน 24 แผน และ3) แบบทดสอบทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ซึ่งประกอบด้วย การเป็นผู้นำ ผู้ตาม มีความสามัคคีเล่นร่วมกับผู้อื่นได้ การรู้จักการช่วยเหลือ แบ่งปัน การปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดได้ มีความสุข สนุกสนานในการเล่นเกมการละเล่นของไทยซึ่งผู้รายงานสร้างขึ้น สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ การหาค่าเฉลี่ย( )ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.)ค่าเฉลี่ยร้อยละ และค่า t-test

ผลการศึกษาพบว่า

1. ทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1 ได้แก่ ก่อนและเหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้เกมการละเล่นของไทยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ0.1 โดยพฤติกรรมหลังจัดกิจกรรมสูงกว่าก่อนจัดกิจกรรม

2.ความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการใช้เกมการละเล่นของไทยเพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่1 พบว่า ระดับความพึงพอใจ อยู่ในระดับ พอใจมาก ร้อยละ 100

แผนการจัดประสบการณ์เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคม

โดยใช้เกมการละเล่นของไทยในกิจกรรมกลางแจ้ง ชั้นอนุบาลปีที่ 1 โรงเรียนบ้านปะนาเระ(รัฐอุทิศ) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557

สาระการเรียนรู้ สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก หน่วยการเรียนรู้ อาหารดีมีประโยชน์

เรื่อง ข้าว (เกมรีรีข้าวสาร)

แผนที่ 1 สอนวัน ที่ 10 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557 เวลา 10.30 น. – 11.00 น.

……………………………………………………………………………………………………………………………

1.สาระสำคัญ

การเล่นเกมรีรีข้าวสารเป็นการละเล่นของเด็กไทยสมัยก่อนประเภทหนึ่ง นิยมเล่นกลางแจ้งกันเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่มีอุปกรณ์การเล่น แต่มีกติกา และวิธีการเล่นที่สนุกสนาน ส่งเสริมความร่วมมือ มีน้ำใจรู้จักการช่วยเหลือ แบ่งปัน การยอมรับกติกา คำร้อง จังหวะของคำร้อง ว่องไว มีไหวพริบที่จะต้องพยายามเล่น เพื่อไม่ให้ถูกตัดออกจากการเล่น

2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. นักเรียนเป็นผู้นำ ผู้ตาม ในการเล่นเกมได้

2. นักเรียนมีความสามัคคี เล่นร่วมกับผู้อื่นได้

3. นักเรียนมีน้ำใจรู้จักการช่วยเหลือ แบ่งปัน

4. นักเรียนปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดได้

5. นักเรียนมีความสุข สนุกสนาน

3. สาระการเรียนรู้

3.1 สาระที่ควรรู้

การเล่นเกมรีรีข้าวสารเป็นการละเล่นของเด็กไทย นิยมเล่นกลางแจ้ง เพื่อพัฒนาทักษะทางสังคมในด้านการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ความสามัคคี เล่นร่วมกับผู้อื่นได้ มีน้ำใจ รู้จักการช่วยเหลือและแบ่งปัน การปฏิบัติตามข้อตกลง กฎกติกาในการเล่น เด็กมีความสุข สนุกสนานในการเล่น

3.2 ประสบการณ์สำคัญ

ด้านร่างกาย

-การเคลื่อนไหวเคลื่อนที่อย่างคล่องแคล่ว ว่องไว

-การเคลื่อนไหวร่างกายเพื่อหลบหลีกเอาตัวรอดจากการจับด้วยไหวพริบ

ด้านอารมณ์ - จิตใจ

-ร่วมกิจกรรมด้วยความสุข สนุกสนาน

ด้านสังคม

-การเป็นผู้นำ ผู้ตาม ในการเล่นเกม

-ความร่วมมือสามัคคี เล่นเกมร่วมกับผู้อื่นได้

-การมีน้ำใจรู้จักช่วยเหลือ แบ่งปัน

-ปฏิบัติตามข้อตกลงของการเล่นได้

ด้านสติปัญญา

-สามารถบอกชื่อเกมและกติกาการละเล่นรีรีข้าวสารได้

-การตอบคำถาม กล้าซักถาม และแสดงความคิดเห็นในการเล่นเกมรีรีขาวสารได้

-การฝึกพูดคำร้อง จังหวะคำร้องในบทร้องประกอบการละเล่นรีรีข้าวสารได้

4. กิจกรรมการเรียนรู้

ขั้นนำ

4.1 นักเรียนดูวิดีโอ การละเล่นของไทยเกมรีรีข้าวสาร ในบทประกอบการเล่นภาพยนตร์ เรื่อง

“ศรีธนญชัย” โดยครูเปิดใช้อินเทอร์เน็ต ผ่านเว็บบราวเซอร์ google chrome

4.2 ครูและนักเรียนร่วมสนทนาซักถามเกี่ยวกับ คำร้องประกอบการละเล่น และร่วมร้องคำร้อง ตามบทร้องประกอบการเล่นเกมรีรีข้าวสาร ในภาพยนตร์ภาพยนตร์เรื่อง “ศรีธนญชัย”

คำร้อง

รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก

เลือกท้องใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน

คดข้าวใส่จาน พาลเอาคนข้างหลังไว้

4.3 ครูให้เด็กเข้าแถวเดินเป็นระเบียบไปยังลานกว้างหน้าเสาธง ยืนเป็นวงกลม และอบอุ่นร่างกาย โดยทำท่ากายบริหาร ดังนี้

- หมุนไหล่ 10 ครั้ง

- วิ่งอยู่กับที่ 10 ครั้ง

- กระโดดตบ 10 ครั้ง

ขั้นสาธิต

4.4 ครูสาธิตวิธีการเล่นเกมรีรีข้าวสาร

4.4.1 ครูหาอาสาสมัครเป็นผู้นำการละเล่น จำนวน 2 คน ยืนหันหน้าเข้าหากัน โน้มตัวประสานมือกันเป็นซุ้มเหนือศีรษะ

4.4.2 ผู้เล่นคนอื่นๆใช้มือเกาะไหล่กันเป็นแถวตอน

4.4.3 ผู้เล่นคนหัวแถวจะก้มหัวเดินลอดใต้ซุ้ม พร้อมร้องบทร้องประกอบการเล่นเกม“รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก เลือกทองใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน คดข้าวใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้”

4.4.4 นักเรียนที่เป็นซุ้มลดมือลงกักคนสุดท้ายไว้เมื่อถึงประโยคที่ว่า “พานเอาคนข้างหลังไว้” ซึ่งคนสุดท้ายที่ถูกกักตัวได้จะต้องออกจากการเล่นไปทีละคน

ขั้นปฏิบัติ

4.5 นักเรียนทดลองเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสาร และเล่นจริง 2 – 3 ครั้ง โดยมีครูคอยแนะนำอย่างใกล้ชิด

4.5.1 ความสนุกสนานของเกมรีรีข้าสาร เมื่อเด็กๆเล่น ร้องคำร้องถึงประโยคว่า “พานเอาคนข้างหลังไว้” ผู้เล่นที่เป็นซุ้มประตู จะลดมือลงอย่างรวดเร็ว เพื่อกักผู้เล่นคนสุดท้ายที่อยู่ในช่องนั้นไว้ ส่วนผู้เล่นที่จะถูกกักต้องรีบมุดหัวให้ต่ำด้วยความว่องไวเพื่อให้รอดพ้นจากการถูกกักตัวด้วยไหวพริบและความสนุกสนาน ว่องไว

4.5.2 ครูคอยดูแลให้เด็กได้เล่นเกมการละเล่นตามกติกา และเด็กได้พัฒนาทักษะทางสังคม ทุกคนเล่นได้อย่างปลอดภัย มีความสุข สนุกสนาน

ขั้นสรุป

4.6 สนทนา ซักถามเด็กเกี่ยวกับการเล่น เกมการละเล่นรีรีข้าวสาร

4.6.1 นักเรียนชอบเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสารหรือไม่

4.6.2 ทำไมถึงชอบหรือไม่ชอบเพราะอะไร

4.6.3 นักเรียนรู้จักข้าวเปลือกและข้าวสารหรือไม่ ข้าวมีประโยชน์อย่างไร(ครูอธิบายเพิ่มเติมให้เด็กฟังอีกครั้ง)

4.7.ให้นักเรียนทำความสะอาดร่างกาย ล้างมือหลังเล่นเกมเสร็จแล้ว

4.8 ครูให้นักเรียนเข้าแถวเดินเข้าห้องเรียนอย่างเป็นระเบียบ

ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปการเล่นเกมรีรีข้าวสาร ที่ฝึกให้ผู้เล่นมีแคล่วคล่อง ว่องไว และได้พัฒนาทักษะทางสังคมทั้ง 5 ด้านคือการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ความร่วมมือสามัคคี เล่นร่วมกับผู้อื่นได้ การมีน้ำใจรู้จักช่วยเหลือแบ่งปัน การปฏิบัติตามข้อตกลงที่กำหนดได้ และมีความสุข สนุกสนาน

5.สื่อการเรียนการสอน

5.1 นักเรียน

5.2 สถานที่ลานกว้างหน้าเสาธง

5.3 วิดีโอ การละเล่นของเด็กไทยเกมรีรีข้าวสาร และบทร้องประกอบการละเล่น

5.4 คู่มือเกมการละเล่นของไทย

6.การวัดผลประเมินผล

1.สามารถเป็นผู้นำ ผู้ตาม ในการเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสารได้

2.มีความสามัคคี สามารถเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสารร่วมกันได้

3.มีน้ำใจ สามารถช่วยเหลือ แบ่งปัน ระหว่างการเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสารได้

4.สามารถเล่นเกมการละเล่นรีรีข้าวสารได้ถูกต้องตามข้อตกลงที่กำหนด

5.มีความสุข สนุกสนาน ในการเล่นเกมรีรีข้าวสาร

7.เกณฑ์การประเมิน

หมายเหตุ เกณฑ์การแปลผลของคุณลักษณะระดับพฤติกรรม ใช้เกณฑ์ดังนี้

ช่วงคะแนน แปลความหมาย

2.51-3.00 ดีมาก

2.00-2.50 ดี

1.00-1.99 พอใช้

เกณฑ์การประเมิน

ผ่าน ได้คะแนนตั้งแต่ 2.00 ขึ้นไป

8.บันทึกผลหลังการจัดประสบการณ์การเรียนรู้

8.1 จำนวนผู้เรียน………... คน ไม่มา …………. คน คือเลขที่ …………………………….

8.2 พฤติกรรมของนักเรียน

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

8.3 การดำเนินการจัดประสบการณ์ของครูดำเนินการตามแผนการจัดประสบการณ์การละเล่นของไทย

8.4 สรุปผลการจัดการเรียนรู้ของผู้เรียนจากการสอนการเล่นเกมการละเล่นของไทย “เกมรีรีข้าวสาร” พบว่า นักเรียนผ่านเกณฑ์การประเมินดังนี้

- ระดับคุณภาพดีมาก จำนวน 5 คน ร้อยละ 20.83

- ระดับคุณภาพดี จำนวน 15 คน ร้อยละ 62.50

- ระดับคุณภาพพอใช้ จำนวน 4 คน ร้อยละ 16.67

8.5 แนวทางการให้ความช่วยเหลือผู้ไม่มาเรียน ……………………………………..

8.6 ปัญหาที่พบและข้อเสนอแนะเพิ่มเติม

………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงชื่อ ..............................................ผู้บันทึก

(นางวิภาวี วิเชียรรัตน์)

10 เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.2557

9.ภาคผนวก

คำร้อง

รีรีข้าวสาร สองทะนานข้าวเปลือก

เลือกท้องใบลาน เก็บเบี้ยใต้ถุนร้าน

คดข้าวใส่จาน พาลเอาคนข้างหลังไว้

โพสต์โดย วิภาวี : [21 ก.พ. 2559 เวลา 15:31 น.]
อ่าน [6074] ไอพี : 202.29.178.204
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 30,550 ครั้ง
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)
ย้อนรอยสายราชสกุล…ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (จบ)

เปิดอ่าน 36,073 ครั้ง
ครูธุรการทั่วประเทศ ขอบรรจุเป็นพนักงานราชการ รายการ สถานีประชาชน สถานี ThaiPBS 14 ส.ค.2558
ครูธุรการทั่วประเทศ ขอบรรจุเป็นพนักงานราชการ รายการ สถานีประชาชน สถานี ThaiPBS 14 ส.ค.2558

เปิดอ่าน 16,352 ครั้ง
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก
กิน เล่น เต้น วาด สุดยอดวิชาพัฒนาเด็ก

เปิดอ่าน 9,724 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์
ปฏิรูปการศึกษาสิงคโปร์

เปิดอ่าน 11,481 ครั้ง
พระคุณแม่ (ตอนที่ 2)
พระคุณแม่ (ตอนที่ 2)

เปิดอ่าน 82,123 ครั้ง
ความสำคัญของงานกราฟิก
ความสำคัญของงานกราฟิก

เปิดอ่าน 12,379 ครั้ง
ฝึกอ่าน ภาษาอังกฤษ จาก VOA !! ฝึกให้เก่งไปเลย
ฝึกอ่าน ภาษาอังกฤษ จาก VOA !! ฝึกให้เก่งไปเลย

เปิดอ่าน 16,510 ครั้ง
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก
ความเป็นมาของคำ "ธรรมกาย" โดย เสฐียรพงษ์ วรรณปก

เปิดอ่าน 13,262 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 13,025 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน

เปิดอ่าน 13,776 ครั้ง
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ
ฟ้าทะลายโจร ยอ หญ้าปักกิ่ง สมุนไพรต้านอนุมูลอิสระ

เปิดอ่าน 58,725 ครั้ง
Download แบบอาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 ปรับปรุง 2 ชั้น 10 ห้องและ 2 ชั้น 8 ห้อง ใต้ถุนโล่ง
Download แบบอาคารเรียนแบบ สปช. 105/29 ปรับปรุง 2 ชั้น 10 ห้องและ 2 ชั้น 8 ห้อง ใต้ถุนโล่ง

เปิดอ่าน 76,117 ครั้ง
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552
บัญชีเงินเดือนใหม่ 2 มกราคม 2552

เปิดอ่าน 20,136 ครั้ง
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)

เปิดอ่าน 8,789 ครั้ง
จีนเตือนคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม
จีนเตือนคลื่นความร้อนแผ่ปกคลุม

เปิดอ่าน 25,344 ครั้ง
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558
ดวงการเงิน 2558 ดูดวงการเงินปี 2558
เปิดอ่าน 9,522 ครั้ง
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
คาดคนอ้วนมี"โดปามีน"น้อย ต้นเหตุไร้ความสุข
เปิดอ่าน 65,069 ครั้ง
ประวัติ มหาตมะ คานธี
ประวัติ มหาตมะ คานธี
เปิดอ่าน 3,769 ครั้ง
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?
เปิดอ่าน 9,097 ครั้ง
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ