ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้บนเครือข่ายตามแนวทฤษฎี
คอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ดิน ส าหรับนักเรียนระดับชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์
ผู้ศึกษาค้นคว้า ทรงลักษณ์ จงจิตร์
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อออกแบบและพัฒนาโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการ
เรียนรู้บนเครือข่ายตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ดิน ส าหรับ
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพ
โมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ
4) เพื่อศึกษาการคิดแก้ปัญหาของผู้เรียนที่เรียนด้วยโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ 5) เพื่อศึกษา
ความคิดเห็นของนักเรียนต่อโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือนักเรียน
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 จ านวน 35 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random
Sampling) ภาคเรียนที่ 1 ประจ าปีการศึกษา 2557 โรงเรียนเทศบาลวัดมเหยงคณ์ สังกัดเทศบาล
นครนครศรีธรรมราช ใช้รูปแบบการวิจัยเชิงพัฒนา (Developmental research) แบบ Type II
(Richey & Klein, 2007) ซึ่งประกอบด้วย 3 ระยะ ดังนี้ 1) การพัฒนาโมเดล 2) การตรวจสอบ
ความตรงของโมเดล และ 3) การใช้โมเดล เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) โมเดลสิ่งแวดล้อมทางการ
เรียนรู้บนเครือข่ายตามแนวทฤษฎีคอนสตรัคติวิสต์ ที่ส่งเสริมการคิดแก้ปัญหา เรื่อง ดิน ส าหรับ
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ 2) แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ เป็น
แบบปรนัย ชนิด 4 ตัวเลือก จ านวน 40 ข้อ 3) แบบวัดการคิดแก้ปัญหา จ านวน 40 ข้อ 4) แบบ
สัมภาษณ์เชิงลึกเพื่อศึกษาการคิดแก้ปัญหาของผู้เรียน และ 4) แผนการจัดการเรียนรู้ตามแนวทฤษฎี
คอนสตรัคติวิสต์ จ านวน 7 แผน
ผลการวิจัยพบว่า
1. โมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ ประกอบด้วย 8 องค์ประกอบที่ส าคัญ (1)
สถานการณ์ปัญหา (2) แหล่งการเรียนรู้ (3) ศูนย์กรณีใกล้เคียง (4) ฐานการช่วยเหลือ (5) ศูนย์
ส่งเสริมการแก้ปัญหา (6) เครื่องมือทางปัญญา (7) การร่วมมือกันแก้ปัญหา (8) ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ
2. ประสิทธิภาพของโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ มีประสิทธิภาพ 86.75/84.43 ซึ่งสูง
กว่าเกณฑ์ 80/80 แสดงว่าโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ สามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ได้
3. ผลการเปรียบเทียบสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยโมเดลสิ่งแวดล้อม
ทางการเรียนรู้ฯ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. การคิดแก้ปัญหาของผู้เรียนที่เรียนด้วยโมเดลสิ่งแวดล้อมทางการเรียนรู้ฯ ผู้เรียนมีการ
คิดแก้ปัญหาของผู้เรียนที่เป็นไปตามกรอบแนวคิดที่ประยุกต์จากแนวคิดของ Jonassen (1997) ที่มี 5
ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 ผู้เรียนระบุช่องว่างของปัญหา ขั้นที่ 2 การระบุและอธิบายปัญหาที่แท้จริงว่าคือ
อะไร และเกิดจากอะไร ขั้นที่ 3 การสร้างแนวทางที่เป็นไปได้ และการประเมินความเป็นได้ของการ
น าทางเลือกไปปฏิบัติ ขั้นที่ 4 น าแนวทางการแก้ปัญหาไปใช้ และ ขั้นที่ 5 ปรับแนวทางการแก้ปัญหา
และผู้เรียนมีระดับการคิดแก้ปัญหาหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01
5. ความคิดเห็นของผู้เรียนที่มีต่อโมเดลสิ่งแวดล้อมการเรียนรู้ฯ พบว่า ความคิดเห็นของ
ผู้เรียนในด้านเนื้อหา ด้านสื่อบนเครือข่าย และด้านการออกแบบ มีการออกแบบที่เหมาะสม และช่วย
สนับสนุนและส่งเสริมการสร้างความรู้ และการคิดแก้ปัญหาของผู้เรียน