ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประ

ณปภา สายคำทอน. 2558. การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียน

บ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3.

สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา

ชัยภูมิ เขต 3

ปีการศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ในครั่งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินการดำเนินงานตามโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ตามรูปแบบการประเมินโครงการแบบ CIPP Model ตามแนวคิดของ Stuffelbeam ทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ 1) ด้านสภาพบริบท (Context Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับความเหมาะสมด้านวัตถุประสงค์ของโครงการ ความต้องการต่อการดำเนินงานตามโครงการและความสำคัญของระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 2) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับ วัสดุ งบประมาณ บุคลากรและปัจจัยสนับสนุนอื่นในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน 3) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับการวางแผนการดำเนินงานตามขั้นตอนของแผนงานโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน และ 4) ด้านผลผลิต (Product Evaluation) เป็นการประเมินเกี่ยวกับผลผลิตที่เกิดขึ้นกับ

นักเรียนตามระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความสำเร็จของโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ ครู โรงเรียนบ้านหนองตะครอง จำนวน 4 คน นักเรียน โรงเรียนบ้านหนองตะครอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3–6 จำนวน 39 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนบ้านหนองตะครอง จำนวน 7 คน ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านหนองตะครอง ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 –6 จำนวน 35 คน

ผลการศึกษาพบว่า

การประเมินการโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านหนองตะครอง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชัยภูมิ เขต 3 ตามรูปแบบการประเมินโครงการแบบ CIPP Model ตามแนวคิดของ Stuffelbeam ตามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครอง และ และนักเรียน ในภาพรวมทุกด้านมีผลการประเมินอยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.68 ; S.D. = 0.24) โดยแยกเป็นรายด้าน ได้ดังนี้

1. ด้านสภาพบริบท (Context Evaluation) ของโครงการ พบว่า ผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.62 ; S.D. = 0.22)

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) เกี่ยวกับบุคลากร ทรัพยากร และปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ ของการดำเนินโครงการ พบว่า พบว่า ผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.64 ; S.D. = 0.27)

3. ด้านกระบวนการ (Process Evaluation) ของการดำเนินงานตามโครงการ พบว่า ผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.71 ; S.D. = 0.23)

4. ด้านผลผลิต (Product Evaluation) ของการดำเนินงานตามโครงการ พบว่า ผลการประเมินโดยภาพรวม อยู่ในระดับ มากที่สุด ( = 4.75 ; S.D. = 0.21)

โพสต์โดย เพ็งกี้ : [13 ก.พ. 2559 เวลา 14:45 น.]
อ่าน [5621] ไอพี : 27.55.208.230
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,569 ครั้ง
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ

เปิดอ่าน 193,838 ครั้ง
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน
เป้าหมายและวัตถุประสงค์ของอาเซียน

เปิดอ่าน 32,591 ครั้ง
"จินตนาการ" สำคัญกว่า "ความรู้"
"จินตนาการ" สำคัญกว่า "ความรู้"

เปิดอ่าน 66,536 ครั้ง
การเขียนบทคัดย่อภาษาอังกฤษใน abstract
การเขียนบทคัดย่อภาษาอังกฤษใน abstract

เปิดอ่าน 21,853 ครั้ง
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค
ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างองค์ประกอบของตัวแปรปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อคุณภาพชีวิตการทำงานของครูในจังหวัดนค

เปิดอ่าน 21,988 ครั้ง
ประโยชน์ของมะระ
ประโยชน์ของมะระ

เปิดอ่าน 12,082 ครั้ง
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย
กรมสุขภาพจิตชี้ตั้งชื่อลูกตามสุภาพบุรุษจุฑาเทพไม่มีพิษภัย

เปิดอ่าน 26,538 ครั้ง
"เพกา" คืออะไร
"เพกา" คืออะไร

เปิดอ่าน 115,646 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 1,258 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

เปิดอ่าน 9,863 ครั้ง
พบยาป้องกันหัวใจวาย เกล็ดเลือดเป็นตัวการของเลือดอุดตัน
พบยาป้องกันหัวใจวาย เกล็ดเลือดเป็นตัวการของเลือดอุดตัน

เปิดอ่าน 18,445 ครั้ง
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม
Windows XP มีโปรแกรมซ่อนอยู่ตั้ง 23 โปรแกรม

เปิดอ่าน 11,855 ครั้ง
ให้อิสระโรงเรียน ปลดล็อกปฏิรูปการศึกษา
ให้อิสระโรงเรียน ปลดล็อกปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 33,753 ครั้ง
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ

เปิดอ่าน 11,869 ครั้ง
ทราบหรือไม่? "เฟซบุ๊ก"แอบเปลี่ยนอีเมลแอดเดรสของท่านเป็น "@facebook.com"
ทราบหรือไม่? "เฟซบุ๊ก"แอบเปลี่ยนอีเมลแอดเดรสของท่านเป็น "@facebook.com"

เปิดอ่าน 22,176 ครั้ง
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ
ผักที่ห้ามในเทศกาลกินเจ
เปิดอ่าน 11,497 ครั้ง
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
8 ข้อปฏิบัติอยู่อย่างเป็นสุข
เปิดอ่าน 7,120 ครั้ง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เด็กไทยเรียนฟรี เมื่อไหร่?เป็นจริง
เปิดอ่าน 80,511 ครั้ง
ประวัติโทรทัศน์ไทย
ประวัติโทรทัศน์ไทย
เปิดอ่าน 20,485 ครั้ง
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"
เคลียร์แล้วปัญหาโลกแตก "ไก่" เกิดก่อน "ไข่"

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
โครงการบ้านเชียงใหม่
บ้านเชียงใหม่
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ