ชื่อผลงาน : ประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อพัฒนาคุณลักษณะอันพึง
ประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาล
นครตรัง ปีการศึกษา 2557
ลักษณะผลงาน : การประเมินโครงการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานในหน้าที่
ผู้ประเมิน : นายจรวย บุญล้อม
รองผู้อำนวยการโรงเรียนเทศบาล ๒ ( วัดกะพังสุรินทร์ ) สังกัดเทศบาลนครตรัง
ปีที่ประเมิน : 2557
บทสรุปผู้บริหาร
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมคุณธรรมจริยธรรมของโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อประเมินความเหมาะสมของบริบทที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินโครงการ 2) เพื่อประเมินความเหมาะสมของปัจจัยเบื้องต้นที่ใช้ในการดำเนินงานตามโครงการ 3) เพื่อประเมินความเหมาะสมของกระบวนการดำเนินโครงการ และ 4) เพื่อประเมินผลผลิตของโครงการส่งเสริมคุณธรรม จริยธรรม เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 ในเรื่อง (1) คุณธรรม จริยธรรมนักเรียน จำนวน 10 ด้าน ได้แก่ ความมีวินัย ความรับผิดชอบ ความขยัน ความซื่อสัตย์ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และเสียสะ ความสุภาพ ความยุติธรรม ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมและความสามัคคี และ (2) คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ ครู นักเรียน ผู้ปกครองนักเรียน และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2557 ประกอบด้วย ครู จำนวน 53 คน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน โดยใช้ประชากรเป็นกลุ่มตัวอย่าง นักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที 1 5 จำนวน 121 คน ผู้ปกครองนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 5 จำนวน 121 คน โดยใช้ตารางของ Krejcie และ Morgan และใช้การสุ่มแบบง่าย (Sample Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ เป็นแบบสอบถามที่ผู้รายงานได้สร้างขึ้น ข้อคำถามเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับแบ่งออกเป็น 4 ชุด คือ ชุดที่ 1 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อบริบทของโครงการ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 2 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อปัจจัยนำเข้าของโครงการ จำนวน 12 ข้อ ชุดที่ 3 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อกระบวนการดำเนินงานตามโครงการ จำนวน 10 ข้อ ชุดที่ 4 ความคิดเห็นของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีต่อผลผลิตของโครงการ แบ่งออกเป็น 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณธรรมจริยธรรมของนักเรียน จำนวน 20 ข้อ ตอนที่ 2 แบบสอบถามความคิดเห็นที่มีต่อคุณค่าหรือประโยชน์ที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ หาค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) ผลการประเมินพบว่า
1. บริบทของโครงการมีความเหมาะสม โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ข้อ และระดับมาก 3 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ โครงการสอดคล้องกับความต้องการของครู ผู้ปกครองและชุมชน รองลงมาคือ โครงการมีความเหมาะสมและมีความจำเป็นในการแก้ปัญหา ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ กิจกรรมของโครงการช่วยให้นักเรียนมีการพัฒนาคุณธรรมจริยธรรมให้ดีขึ้น รองลงมาคือ ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมีส่วนร่วมในการกำหนดวัตถุประสงค์ และวิธีดำเนินโครงการ
2. ปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณารายข้อพบว่าปัจจัยนำเข้าของโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 11 ข้อ และอยู่ในระดับมาก 1 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ งบประมาณในการดำเนินโครงการมีเพียงพอ มีค่าเฉลี่ยสูงสุด อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือมีแผนการดำเนินงานตามโครงการอย่างชัดเจน ส่วนข้อ ที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องคุณธรรมจริยธรรม
3. กระบวนการดำเนินงานตามโครงการมีความเหมาะสม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ข้อและอยู่ในระดับมาก 3 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ มีการวางแผนการดำเนินโครงการสู่การปฏิบัติ รองลงมาคือ มีการกำหนดบทบาทและหน้าที่ความรับผิดชอบแก่บุคลากรใน การดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ โรงเรียนมีการเผยแพร่และขยายผลการปฏิบัติกิจกรรม สู่ชุมชน มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมาก
4. ผลการประเมินคุณธรรมจริยธรรมนักเรียน เพื่อพัฒนาคุณลักษณะ อันพึงประสงค์ของนักเรียน โรงเรียนเทศบาล ๒ (วัดกะพังสุรินทร์) สังกัดเทศบาลนครตรัง ปีการศึกษา 2557 ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ด้านความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.76 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.73 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.51 รองลงมาคือ ความยุติธรรม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.55 และเมื่อจำแนกเป็นรายกลุ่ม ผลการประเมินเป็นดังนี้
ครูมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.59 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ด้านและอยู่ในระดับมาก 1 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.70 รองลงมาคือความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.69 และความซื่อสัตย์ อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.69 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความยุติธรรม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.47 รองลงมาคือ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52 และความขยัน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.52
นักเรียนมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.59 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 7 ด้านและอยู่ในระดับมาก 3 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.34 รองลงมาคือ ความขยัน อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.45
ผู้ปกครองนักเรียนมีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรม ในภาพรวม ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.66 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ ความเอื้อเฟื้อ เผื่อแผ่และเสียสละ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.77 รองลงมาคือ ความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.56 รองลงมาคือ ความซื่อสัตย์ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62
คณะกรรมการสถานศึกษามีความคิดเห็นว่า นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.72 เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 9 ด้าน และอยู่ในระดับมาก 1 ด้าน ด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด คือ ความขยันและความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.92 รองลงมาคือ ความรับผิดชอบ และความมีจิตสำนึกต่อส่วนรวม มีค่าเฉลี่ยเท่ากัน อยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย 4.81 ส่วนด้านที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ ความมีวินัย อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 รองลงมาคือ ความยุติธรรมอยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.58 และ ความมีสติและละเอียดรอบคอบ อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.58
5. คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.54 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุด 8 ข้อและอยู่ในระดับมาก 2 ข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.64 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.63 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และ นำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.40 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์สิ่งแวดล้อม และระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.47 เมื่อจำแนกตามสถานภาพผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นรายข้อ พบว่า
ครูมีความคิดเห็นว่า คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.57 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติตนให้มีความรับผิดชอบในการปฏิบัติงาน อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.75 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.68 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือสามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และ นำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการ ปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.38 รองลงมาคือ สามารถเลือกแนวทางและการปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.42
นักเรียนมีความคิดเห็นว่า คุณค่าและประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการ ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.53 เมื่อพิจารณารายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองและครอบครัว อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.63 รองลงมาคือ สามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการทำงานร่วมกับผู้อื่น อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ย 4.62 ส่วนข้อที่มีค่าเฉลี่ยน้อยที่สุดคือ สามารถรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และนำมาปรับและประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานหรือทำกิจกรรมอื่น ๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.41 รองลงมาคือสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ สิ่งแวดล้อม และระเบียบข้อบังคับต่างๆ อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ย 4.43