ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เ

ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาความรู้พื้นฐาน

สำหรับแคลคูลัส 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง

ผู้ศึกษา นางรัศนียา อุดมเจริญศักดิ์

ปีที่ศึกษา 2558

บทคัดย่อ

การศึกษาการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาความรู้พื้นฐาน

สำหรับแคลคูลัส 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ให้มีประสิทธิภาพ

ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง โดยเทียบเกณฑ์ 0.75 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของ

นักเรียน ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 5 โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย ตรัง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/5 โรงเรียนจุฬาภรณ ราชวิทยาลัย ตรัง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 1 ห้องเรียน

จำนวนนักเรียน 24 คน ได้มาโดยการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) มีห้องเรียน เป็นหน่วยในการสุ่มจากจำนวน 6 ห้องเรียน ซึ่งนักเรียนทุกห้องมีระดับผลการเรียนไม่แตกต่างกัน โดยจัดนักเรียนแบบคละความสามารถ

เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 21 แผนการจัดการเรียนรู้ รวมเวลาจัดการเรียนการสอน 21 ชั่วโมง 2) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์

วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 21 แบบฝึก 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 เป็นข้อสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ จำนวน 30 ข้อ 4)แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้

โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ลักษณะแบบสอบถามประเมินค่า 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลคือ

ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน การทดสอบค่าที (t - test)

และค่าดัชนีประสิทธิผล

ผลการศึกษาพบว่า

1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างมีประสิทธิภาพ 83.75 / 82.08 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานที่ 80 / 80

2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง

การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01

3. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์

มีค่าเท่ากับ 0.77 นั่นคือ มีประสิทธิผลร้อยละ 77 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ วิชาความรู้พื้นฐานสำหรับแคลคูลัส 4 เรื่อง การแก้ระบบสมการเชิงเส้นและเมทริกซ์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจ

อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีคะแนนการประเมินเฉลี่ย เท่ากับ 4.67 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ0.47 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานการศึกษา

โพสต์โดย รัศนียา : [11 ก.พ. 2559 เวลา 16:22 น.]
อ่าน [4719] ไอพี : 61.19.70.6
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,257 ครั้ง
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?
กระแสแอนตี้ "เด็กแสบ"...ผู้ใหญ่ใจร้ายหรือพ่อแม่รังแกฉัน?

เปิดอ่าน 18,943 ครั้ง
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน

เปิดอ่าน 42,147 ครั้ง
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้
ทำไมหยดน้ำจึงกลิ้งบนใบบัวได้

เปิดอ่าน 17,159 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี

เปิดอ่าน 51,380 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 4 อุปกรณ์ของผู้เล่น ( The Players' Equipment)

เปิดอ่าน 50,669 ครั้ง
เทคนิคเก่งอังกฤษ
เทคนิคเก่งอังกฤษ

เปิดอ่าน 7,278 ครั้ง
ออกัสตา แอดา ไบรอน (Augusta Ada Byron) นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก
ออกัสตา แอดา ไบรอน (Augusta Ada Byron) นักคณิตศาสตร์หญิงของโลก

เปิดอ่าน 15,155 ครั้ง
นาคเล่นน้ำ
นาคเล่นน้ำ

เปิดอ่าน 21,501 ครั้ง
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18
ทักษะที่จำเป็นของคนอายุ 18

เปิดอ่าน 17,278 ครั้ง
วัยไหนให้ดูทีวี
วัยไหนให้ดูทีวี

เปิดอ่าน 25,854 ครั้ง
 กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551
กฎ ก.ค.ศ. ว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา รับเงินเดือนในอัตรากำลังทดแทน พ.ศ.2551

เปิดอ่าน 13,523 ครั้ง
ทำไมตัวอักษรในแป้นพิมพ์ถึงไม่เรียงเป็น A B C??
ทำไมตัวอักษรในแป้นพิมพ์ถึงไม่เรียงเป็น A B C??

เปิดอ่าน 97,807 ครั้ง
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น
ดูให้รู้ - วิธีการสอนเพื่อพัฒนาสมองทั้งซีกขวาและซ้ายในญี่ปุ่น

เปิดอ่าน 4,438 ครั้ง
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร
ประวัติ ชัชชาติ สิทธิพันธ์ุ ผู้ชนะการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร

เปิดอ่าน 11,265 ครั้ง
การจัดการความรู้ในโรงเรียน (ศน.ชัด บุญญา)
การจัดการความรู้ในโรงเรียน (ศน.ชัด บุญญา)

เปิดอ่าน 89,440 ครั้ง
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
คู่มือการปฏิบัติงานข้าราชการครู
เปิดอ่าน 7,385 ครั้ง
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย
ทำอย่างไร?...ถึงจะทำให้คนในชาติเกิดค่านิยมไทย
เปิดอ่าน 18,939 ครั้ง
กำเนิดหมากฝรั่ง
กำเนิดหมากฝรั่ง
เปิดอ่าน 10,520 ครั้ง
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
“งานขาย-บริการ-อาหาร” อาชีพที่นายจ้างต้องการคนร่วมงาน
เปิดอ่าน 11,819 ครั้ง
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014
กูเกิล เผยอันดับคำค้นหายอดนิยมของคนไทย ประจำปี 2014

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ