ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียน

การวิจัยเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะ

การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน

ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางบุญทิวา ธีระนังสุ

ปีการศึกษา 2557

บทคัดย่อ

การวิจัยเรื่องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะ

การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครั้งนี้

มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) วิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขการจัดการเรียนรู้

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้าน

ศรีมหาราชา 2) พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะ

การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา 3) ศึกษาประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถม

ศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา และ 4) ประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระ

การเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา

โดยใช้กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/2 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา

สังกัดเทศบาลเมืองศรีราชา จังหวัดชลบุรี จำนวน 43 คน เครื่องมือในการวิจัย 1) รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐาน เพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ และชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ จำนวน 3 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐาน

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการวิเคราะห์สภาพปัญหาและแนวทางแก้ไขการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา เรียงลำดับ

จากมากไปหาน้อย พบว่า รูปแบบของการสอนมีปัญหามากที่สุด รองลงมา คือ ปัญหาด้านการเรียนของนักเรียน ความต้องการสื่อการเรียนรู้ และลักษณะเนื้อหาของรูปแบบที่ต้องการตามลำดับ

2. ผลการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะ

การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 7 ขั้น ดังนี้

ขั้นที่ 1 นำเข้าสู่บทเรียน ครูวางแผนสนทนากับนักเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมให้เข้าใจ

ในสิ่งที่จะเรียนและสามารถเชื่อมโยงไปสู่เรื่องที่จะเรียน

ขั้นที่ 2 ตกลงกระบวนการเรียนรู้ ครูและนักเรียนร่วมกันตกลงเกี่ยวกับกิจกรรมที่ต้อง

ปฏิบัติ ให้นักเรียนนั่งรวมกันเป็นกลุ่ม

ขั้นที่ 3 เสนอความรู้ ครูเชื่อมโยงประสบการณ์เดิมของนักเรียนมาสร้างองค์ความรู้ใหม่ คือ การสอนหรือการสร้างความคิดรวบยอดให้แก่นักเรียนจนเกิดความรู้ความเข้าใจในสิ่งที่เรียน

ขั้นที่ 4 ฝึกทักษะ นักเรียนแต่ละกลุ่มเตรียมนำเสนอผลงาน

ขั้นที่ 5 แลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป็นขั้นที่ตัวแทนแต่ละกลุ่ม ออกมานำเสนอผลงานเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนเรียนรู้

ขั้นที่ 6 สรุปความรู้ ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ แล้วให้นักเรียนทำใบงานเป็นรายบุคคลแล้วเปลี่ยนกันตรวจโดยครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย ให้นักเรียนแต่ละคนปรับปรุงผลงานของตนเองให้ถูกต้อง

ขั้นที่ 7 กิจกรรมเกม แจ้งคะแนนที่ประเมิน ให้รางวัล ให้นักเรียนทำแบบทดสอบย่อย

หลังเรียน

3. ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

พบว่า คะแนนทำกิจกรรมในแต่ละชุดรวมทั้ง 3 เล่ม มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 144.79 คิดเป็นร้อยละ 87.22 และคะแนนทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 25.12 คิดเป็น

ร้อยละ 83.73 แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ โดยใช้ชุดกิจกรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 87.22/83.73 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้

4. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีมีต่อรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบเน้นสมองเป็นฐานเพื่อพัฒนาทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาลบ้านศรีมหาราชา พบว่า ในภาพรวมมีค่าเฉลี่ย ( = 4.13) อยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย บุญทิวา ธีระนังสุ : [10 ก.พ. 2559 เวลา 18:31 น.]
อ่าน [4573] ไอพี : 223.204.250.160
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,583 ครั้ง
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด
คอกาแฟมีหวังอายุยืนกว่าคนไม่ดื่ม ช่วยป้องกันภัยโรคหัวใจหลอดเลือด

เปิดอ่าน 1,371 ครั้ง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง
3 สัญญาณ บ่งบอกอาการวัยทอง

เปิดอ่าน 75,860 ครั้ง
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่
DIY วิธีทำหน้ากากอนามัยแบบมีช่องใส่แผ่นกรอง สามารถซักแล้วนำกลับมาใช้ได้ใหม่

เปิดอ่าน 6,224 ครั้ง
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่
"หรือฉันจะเป็นแม่ที่แย่ที่สุด" คลิปดูแล้วอาจจะน้ำตาไหล โดยเฉพาะคนเป็นแม่

เปิดอ่าน 25,376 ครั้ง
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"

เปิดอ่าน 14,826 ครั้ง
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552
7 รายชื่อ นวนิยายเข้ารอบสุดท้ายซีไรต์ 2552

เปิดอ่าน 11,138 ครั้ง
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?
จะเลือกแปรงสีฟันแบบไหนดี ?

เปิดอ่าน 173,809 ครั้ง
20 บุคคลสำคัญของไทยที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก
20 บุคคลสำคัญของไทยที่ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญของโลก

เปิดอ่าน 12,675 ครั้ง
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร
สภาวะการศึกษาไทย ปี 2557/2558 จะปฏิรูปการศึกษาไทยให้ทันโลกในศตวรรษที่ 21 ได้อย่างไร

เปิดอ่าน 16,631 ครั้ง
วันออกพรรษา
วันออกพรรษา

เปิดอ่าน 201,387 ครั้ง
บทบาทของครู
บทบาทของครู

เปิดอ่าน 50,438 ครั้ง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง
10 อันดับของผลไม้ที่มี "วิตามินอี" สูง

เปิดอ่าน 10,191 ครั้ง
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี
สตอเรจแก้วเก็บข้อมูลได้หลายร้อยล้านปี

เปิดอ่าน 12,806 ครั้ง
 วางมินวู (Hwang Min Woo) หนูน้อยกังนัม ที่ชาวเน็ตต่างพากันหลงรัก และกล่าวถึงมากที่สุดในตอนนี้
วางมินวู (Hwang Min Woo) หนูน้อยกังนัม ที่ชาวเน็ตต่างพากันหลงรัก และกล่าวถึงมากที่สุดในตอนนี้

เปิดอ่าน 13,348 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่

เปิดอ่าน 19,831 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
เปิดอ่าน 21,929 ครั้ง
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
วิธีปฐมพยาบาล เมื่อของติดคอเด็ก
เปิดอ่าน 3,244 ครั้ง
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
4 เรื่องไม่จริงเกี่ยวกับ PDPA พรบ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
เปิดอ่าน 23,882 ครั้ง
ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ
ทายนิสัยจากฤดูที่ชอบ
เปิดอ่าน 31,025 ครั้ง
ธุรกิจเทคโนโลยีกับการคืนกำไรสู่สังคม
ธุรกิจเทคโนโลยีกับการคืนกำไรสู่สังคม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ