ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ
หาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้วิจัย นายประเด็จ แสนเมืองแก้ว
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทศบาล 2 วิภัชศึกษา
เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานและความต้องการสำหรับการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อประเมินและปรับปรุงชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6/2 โรงเรียนเทศบาล 2 วิภัชศึกษา เทศบาลเมืองสุรินทร์ จังหวีดสุรินทร์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 35 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสอบถามความต้องการของนักเรียนในการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 ฉบับ แบบสัมภาษณ์ความต้องการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 1 ฉบับ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัด การเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) 8 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ 16 แผน แบบทดสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัย 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนแบบมาตราส่วน ประมาณค่า 20 ข้อ การวิเคราะห์ข้อมูล โดยการหาค่าเฉลี่ย ( ) ร้อยละ (%) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การทดสอบค่าที่ (t test) แบบ dependent และการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) ตรงกับความต้องการของนักเรียน ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูผู้สอนวิชาวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญ ที่มีความเหมาะสมในการจัดการเรียนรู้ให้กับนักเรียนได้ตรงตามจุดมุ่งหมาย ถูกต้องตามเนื้อหา มีความน่าสนใจ มีภาพประกอบเหมาะสม กิจกรรมสนุกสนาน มีคำแนะนำหรือวิธีการใช้ที่ละเอียด บอกบทบาทหน้าที่ของนักเรียนในการเรียนเป็นรายบุคคลและเป็นกลุ่ม สอดคล้องกับกระบวนการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) คือ ขั้นตรวจสอบความรู้เดิม (Elicitation) ขั้นเร้าความสนใจ (Engagement) ขั้นสำรวจและค้นหา (Exploration) ขั้นอธิบาย (Explanation) ขั้นขยายความรู้ (Elaboration) ขั้นประเมิน (Evaluation) และขั้นนำความรู้ไปใช้ (Extension)
2. ได้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ 7 ขั้น (7E) จำนวน 8 ชุด ได้แก่ ชุดที่ 1 วงจรไฟฟ้า ชุดที่ 2 ตัวนำและฉนวนไฟฟ้า ชุดที่ 3 แหล่งพลังงานไฟฟ้า ชุดที่ 4 การต่อเซลล์ไฟฟ้า ชุดที่ 5 การต่อหลอดไฟ ชุดที่ 6 แม่เหล็กไฟฟ้า ชุดที่ 7 เครื่องใช้ไฟฟ้า และชุดที่ 8 การใช้ไฟฟ้าอย่างประหยัดและปลอดภัย โดยแต่ละชุดประกอบด้วย คำนำ คำชี้แจงในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ คำชี้แจงสำหรับครู คำชี้แจงสำหรับนักเรียน บทบาทของนักเรียน มาตรฐาน การเรียนรู้ ตัวชี้วัด จุดประสงค์การเรียนรู้ บัตรคำสั่ง แบบทดสอบก่อนเรียน บัตรเนื้อหา บัตรกิจกรรม แบบทดสอบหลังเรียน และแนวคำตอบบัตรกิจกรรม มีความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา มีผลการประเมินคุณภาพจากผู้เชี่ยวชาญได้ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.85 อยู่ในระดับคุณภาพดีมาก มีค่าประสิทธิภาพแบบรายบุคคลเท่ากับ 77.92/78.33 มีค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มย่อยเท่ากับ 78.75/78.89 และมีค่าประสิทธิภาพแบบกลุ่มใหญ่เท่ากับ 80.04/80.17 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
3. ผลการทดลองใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง ไฟฟ้าน่ารู้ โดยจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ หาความรู้ 7 ขั้น (7E) ใช้ควบคู่กับแผนการจัดการเรียนรู้ มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ 81.96/82.14 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
4. ผลการประเมินผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน ผลการประเมิน ความพึงพอใจของนักเรียนโดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก และการปรับปรุงแก้ไขเนื้อหาสาระการเรียนรู้ให้กระชับมากยิ่งขึ้น บัตรกิจกรรมที่ให้นักเรียนทำให้มีรูปแบบหลากหลายและไม่ซ้ำกัน ปรับกิจกรรมการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้เพื่อกระตุ้นให้นักเรียนเกิดการอยากเรียนรู้มากยิ่งขึ้น