บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ ดังนี้
1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80
2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
3) เพื่อศึกษาเจตคติต่อการเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ห้อง 2/1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี จำนวน 50 คน ใช้การสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Samping) ซึ่งผู้วิจัยได้รับมอบหมายให้ทำการสอนอยู่
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาและเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 แผนการจัดการเรียนรู้โดยแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ และ แบบสอบถามเจตคติทางการเรียน จำนวน 20 ข้อ แล้วนำข้อมูลเข้าสู่กระบวนการวิเคราะห์ข้อมูลจำแนกออกเป็นการหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ (E1/E2)
การหาค่าเฉลี่ย ( ) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) และการทดสอบสมมติฐานทางสถิติ
ด้วยการทดสอบที (Dependent Samples t-test)
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ของนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีประสิทธิภาพ 83.47/80.11 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ มีผลสัมฤทธ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีเจตคติต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับมากที่สุด