ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบ
การเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางสมยศ โพธิราช ครูชำนาญการ
โรงเรียนบ้านละเวี้ย (แปลงคุรุราษฎร์บำรุง)
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2557
บทคัดย่อ
จุดมุ่งหมายของการศึกษาในครั้งนี้เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วย
ชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อศึกษาความคงทน
ทางการเรียนรู้ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT
เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ที่เรียนในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 โรงเรียนบ้านละเวี้ย (แปลงคุรุราษฎร์บำรุง)
อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาบุรีรัมย์ เขต 2
ซึ่งผู้รายงานเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) จำนวน 29 คน ดำเนินการศึกษาโดยนำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไปทดสอบกับนักเรียนกลุ่มเป้าหมาย แล้วดำเนินการจัดการเรียนการสอนด้วยชุดฝึกทักษะ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ จำนวน 6 ชุด ประกอบแผนการจัดการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT จำนวน 16 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง รวมเวลา 16 ชั่วโมง นำแบบทดสอบชุดเดิมไปทดสอบหลังเรียน จากนั้นจึงนำผลการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมาวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างคะแนนเฉลี่ยของการทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียน ทดสอบความคงทนในการเรียนหลังจากเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ โดยให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนชุดเดิมแล้วนำคะแนนจากการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนทันทีมาเปรียบเทียบกับคะแนนการทำแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ จากนั้นให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายตอบแบบสอบถามความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์
จากการศึกษาปรากฏว่า
1. ชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตาม
วัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้น
มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.47/85.98 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80
2. นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ทำแบบทดสอบหลังเรียนทันทีมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.79 คิดเป็น
ร้อยละ 85.98 และมีคะแนนทดสอบหลังจากเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 26.79
คิดเป็นร้อยละ 89.31 มีผลต่างค่าเฉลี่ยของคะแนนเพิ่มขึ้น 1.00 คิดเป็นร้อยละ 3.33 สรุปได้ว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความคงทนในการเรียนรู้ เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์ โดยการเรียนด้วยชุดฝึกทักษะประกอบแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT โดยมีค่าเฉลี่ยจากการทดสอบหลังเรียนไปแล้ว 2 สัปดาห์สูงกว่าการทดสอบหลังเรียนทันที มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยชุดฝึกทักษะประกอบการเรียนรู้แบบโครงงานโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนตามวัฏจักร 4 MAT เรื่อง สร้างสรรค์งานศิลป์
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 0.35