|
|
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย (2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย (3) เพื่อศึกษาความคงทนของการเรียนรู้ของนักเรียนที่ได้รับการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย หลังจากการเรียนแล้ว 5 สัปดาห์ และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย หลังจากที่ผู้ศึกษาได้นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปปรับปรุงแก้ไขแล้วจึงนำไปทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4.4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย ปีการศึกษา 2557 จำนวน 40 คน ซึ่งได้มาโดยวีธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลครั้งนี้ ประกอบด้วย (1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ (3) แผนการจัดการเรียนรู้เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ (4) แบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ซึ่งวิเคราะห์ข้อมูลโดย (1) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ของแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ ด้วยการหาค่าเฉลี่ยและร้อยละของนักเรียนเป็นรายบุคคลเปรียบเทียบความแตกต่างของการทดสอบก่อนเรียนกับหลังเรียนด้วยการทดสอบที แบบ 2 กลุ่มสัมพันธ์ (t-test dependent Samples) และนักเรียนทุกคนจะต้องผ่านเกณฑ์ของโรงเรียนที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
(3) วิเคราะห์หาความคงทนของการเรียนรู้จากการทดสอบหลังเรียน 2 ครั้ง เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์หลังเรียนครั้งที่ 1 และครั้งที่ 2 ด้วยการหาค่าเฉลี่ย (x̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. )และทดสอบที แบบ 2 กลุ่มสัมพันธ์ (t-test dependent Samples) (4) วิเคราะห์ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 อัตราส่วนตรีโกณมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ภายหลังดำเนินการสอนเรียบร้อยแล้วด้วยแบบวัดความพึงพอใจที่ ผู้ศึกษาสร้างขึ้นโดยหาค่าเฉลี่ย (x̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D. )
สรุปผลการศึกษา
1. ผลการหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงราย คะแนนเฉลี่ยของกลุ่มเป้าหมายจำนวน 40 คน ได้คะแนนเฉลี่ยของแบบทดสอบระหว่างเรียนและแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีประสิทธิภาพ 82.53/82.63ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ 80/80
2. ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง อัตราส่วนตรีโกณมิติ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนเทศบาล ๖ นครเชียงรายพบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และมีคะแนนเฉลี่ยสูงกว่าเกณฑ์ที่โรงเรียนที่ตั้งไว้ร้อยละ 70
3. ผลการศึกษาความคงทนของการเรียนของนักเรียนจากการทดสอบหลังเรียน 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 5 สัปดาห์ พบว่า ไม่แตกต่างกัน
4. ความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า ในภาพรวมนักเรียน มีความพึงพอใจในระดับมาก
|
โพสต์โดย นางสาวสมใจ แรงสิงห์ : [20 ม.ค. 2559 เวลา 20:25 น.] อ่าน [5481] ไอพี : 223.204.133.157
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 19,962 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,204 ครั้ง
| เปิดอ่าน 22,914 ครั้ง
| เปิดอ่าน 18,196 ครั้ง
| เปิดอ่าน 107,863 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,902 ครั้ง
| เปิดอ่าน 63,434 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,687 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,224 ครั้ง
| เปิดอ่าน 29,698 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,104 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,303 ครั้ง
| เปิดอ่าน 24,073 ครั้ง
| เปิดอ่าน 41,892 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,730 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 38,012 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,470 ครั้ง
| เปิดอ่าน 35,010 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,480 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,636 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|