บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์ และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (2) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 (3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน จากการทดลองใช้รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ (4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนสำหรับประเมินรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดแก้ปัญหาและทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่าง
ที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/6 จำนวน 38 คน โรงเรียนราชสีมาวิทยาลัย จังหวัดนครราชสีมา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 31 ได้มาจากการสุ่มกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมีจำนวน 5 ชนิด คือ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 10 แผน (2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.67 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่ากับ 0.81
(3) แบบทดสอบวัดความสามารถในการคิดวิเคราะห์ ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่ากับ 0.75 (4) แบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งเป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.33-0.78 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (KR-20) เท่ากับ 0.75
และ (5) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.33-0.71 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α) เท่ากับ 0.91 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t test for Dependent Sample)
ผลการวิจัยปรากฏ ดังนี้
1. ผลการศึกษาข้อมูลพื้นฐานพบว่าหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนทุกคน ให้พึงรู้ ปฏิบัติได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และมีค่านิยมที่พึงประสงค์ หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ มุ่งให้มนุษย์ ได้พัฒนาวิธีคิด ทั้งความคิดเป็นเหตุเป็นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์วิจารณ์ มีทักษะสำคัญในการค้นคว้าหาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ สามารถตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลที่หลากหลายและมีประจักษ์พยานที่ตรวจสอบได้ ดังนั้นทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้วิทยาศาสตร์ เพื่อที่จะมีความรู้ความเข้าใจในธรรมชาติและเทคโนโลยีที่มนุษย์สร้างสรรค์ขึ้น สามารถนำความรู้ไปใช้อย่างมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม สำหรับแนวคิดในการพัฒนารูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์นั้น มีแนวคิดในการเรียนรู้ร่วมกันเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดกัน ฝึกทักษะร่วมกัน ตรวจสอบซึ่งกันและกัน และใช้เทคนิคในการคิดวิเคราะห์ที่มีขั้นตอน เพื่อนำไปสู่การคิดแก้ปัญหาได้
2. ผลการพัฒนาได้รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่มีองค์ประกอบอยู่ 5 องค์ประกอบ ได้แก่ 1) หลักการ , 2) จุดประสงค์ , 3) เนื้อหาสาระ , 4) กระบวนการเรียนรู้ ที่มีการจัดกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นเตรียมความพร้อม (2) ขั้นนำเสนอบทเรียน (3) ขั้นกลุ่มสืบเสาะอธิบายลงข้อสรุปและตรวจสอบ (4) ขั้นยายความรู้ และ (5) ขั้นประเมินผลและสรุปบทเรียน และ
5) ประเมินผลและสรุปบทเรียน สำหรับรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 นี้
มีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.46) มีประสิทธิภาพเท่ากับ 85.38/83.52
ตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80 /80
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ทำให้ (1) นักเรียน
มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 (2) นักเรียนมีความสามารถในการคิดแก้ปัญหา หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และ (3) นักเรียนมีทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
ที่ระดับ .01
4. การประเมินรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการสอนวิทยาศาสตร์ ที่ส่งเสริมความสามารถในการคิดวิเคราะห์และทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 อยู่ในระดับมากที่สุด