ชื่อผู้วิจัย นางเฉลิมศรี ทองจีน
ศึกษานิเทศก์ชำนาญการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3
ชื่อหน่วยงาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3
ปีที่วิจัย พ.ศ. 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของครูผู้สอนในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วม ก่อนและหลังใช้ชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วม ที่มีต่อ ชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) และ 4) เพื่อศึกษาผลการนิเทศการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ของครูผู้สอนในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3
การสร้างและพัฒนาชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ของครูผู้สอนในโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 มีการดำเนินงาน 4 ขั้นตอน ดังนี้ ขั้นที่ 1 สร้างและหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรม เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบประเมินความเหมาะสม แต่ละส่วนประกอบของร่างหลักสูตรการฝึกอบรม และแบบประเมิน ความสอดคล้องระหว่างส่วนประกอบของร่างชุดฝึกอบรม ขั้นที่ 2 การพัฒนาบุคลากร กลุ่มตัวอย่างได้แก่ ครูผู้สอนในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วมในโรงเรียน สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 จำนวน 50 คน เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบทดสอบวัดความรู้ความเข้าใจการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จำนวน 30 ข้อ และแบบประเมินความพึงพอใจ ในการพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)เป็นแบบมาตรประเมินค่า 5 ระดับ
ขั้นที่ 3 การนิเทศ ติดตามผล เครื่องมือที่ใช้ได้แก่ แบบบันทึกการนิเทศการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) เป็นแบบมาตรประเมินค่า 5 ระดับ ขั้นที่ 4 การสรุปและรายงานผล การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t- test แบบ Dependent Samples Test
ผลการวิจัยสรุปได้ดังนี้
1. ผลการสร้างชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ได้ชุดฝึกอบรม ที่ประกอบด้วย 3 ส่วน คือ
ส่วนที่ 1 ส่วนนำ ประกอบด้วยรายละเอียดของ ความสำคัญและความเป็นมา จุดประสงค์ ขอบข่ายเนื้อหา โครงสร้างหลักสูตร กิจกรรมการเรียนรู้ วิธีการเรียนรู้ สื่อการเรียนรู้
การประเมินผล และตารางฝึกอบรม
ส่วนที่ 2 รูปแบบการพัฒนาและสื่อประกอบชุดฝึกอบรมการพัฒนาการจัดการศึกษาพิเศษ ประกอบด้วย รูปแบบการพัฒนา สื่อประกอบชุดพัฒนา และการนำไปใช้
ส่วนที่ 3 หน่วยฝึกอบรม ประกอบด้วย รายละเอียดของหน่วยฝึกอบรม 5 หน่วย ได้แก่ หน่วยที่ 1 แนวคิดเกี่ยวกับการจัดการศึกษาพิเศษ หน่วยที่ 2 รูปแบบการจัดการศึกษาพิเศษของโรงเรียนแกนนำจัดการเรียนร่วม หน่วยที่ 3 การคัดแยก/คัดกรองนักเรียนพิการ 9 ประเภท หน่วยที่ 4 การช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ (LD) และหน่วยที่ 5 การจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)
การหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) แบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอน คือการทดลองแบบเดี่ยว การทดลองแบบกลุ่ม และการทดลองภาคสนาม สรุปได้ดังนี้
1.1 ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองแบบเดี่ยว (1:1)
ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองแบบเดี่ยว พบว่า ชุดฝึกอบรมที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพเฉลี่ย 70.67/72.22 ซึ่งจะเห็นได้ชัดว่าต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จึงทำการปรับปรุงแก้ไขโดยการตรวจสอบคำผิด การฉีกคำ การเว้นวรรค ปรับปรุงแก้ไขการใช้สำนวนภาษา ปรับขนาดตัวอักษรให้เหมาะสมกับเนื้อหา และปรับปรุงภาพประกอบและแผนภูมิในบางหัวข้อให้สอดคล้องกับเนื้อหา
1.2 ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองแบบกลุ่ม (1:10)
ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองแบบกลุ่ม พบว่า ชุดฝึกอบรม มีประสิทธิภาพเฉลี่ย 77.11/77.77 ซึ่งยังต่ำกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ จึงนำไปปรับปรุงในเรื่องภาษา ให้ใช้ภาษา ที่สามารถสื่อความหมายได้ชัดเจน ปรับปรุงความถูกต้องของการพิมพ์ การฉีกคำ การเว้นวรรค และเน้น การพิมพ์หัวข้อเรื่องให้มีสีสันสวยงามและน่าสนใจ
1.3 ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองภาคสนาม (1 : 100)
ผลการหาประสิทธิภาพของชุดฝึกอบรมจากการทดลองภาคสนาม พบว่า ชุดฝึกอบรมที่สร้างขึ้น มีประสิทธิภาพเฉลี่ย 80.20/82.77ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ E1/ E2 = 80/80
2. ผลการเปรียบเทียบความรู้ความเข้าใจของครูผู้สอนก่อนและหลังการใช้ชุดฝึกอบรมพัฒนา
ครูผู้สอนในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) พบว่า คะแนนเฉลี่ยก่อนและหลังการใช้ชุด ฝึกอบรมของครูผู้สอน แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยครูผู้สอนมีคะแนนเฉลี่ยหลังใช้ชุดฝึกอบรม ( = 25.46, S.D. = 1.62) สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนใช้ชุดฝึกอบรม ( = 23.46, S.D. = 1.91)
3. ผลการศึกษาความพึงพอใจของครูผู้สอนที่มีต่อชุดฝึกอบรมพัฒนาครูผู้สอนในการจัดทำ
แผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) มีความคิดเห็นในภาพรวม อยู่ในระดับมาก ( = 3.56,SD. =0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า
ด้านเนื้อหาสาระในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.65,SD= 0.49) เมื่อพิจารณาเป็น รายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ และรายการประเมินความสอดคล้องระหว่างเนื้อหากับจุดประสงค์ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ( = 3.69, SD= 0.58)
ด้านประโยชน์ในการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.59,SD=0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่าอยู่ในระดับมาก 7 รายการ ส่วนอีก 2 รายการ อยู่ในระดับปานกลาง และชุดฝึกอบรมทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจแนวคิดเกี่ยวกับการจัดการศึกษาพิเศษ มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด( = 3.79,SD. =0.65) รองลงมาคือชุดฝึกอบรมทำให้ครูมีความรู้ความสามารถนำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP)ไปใช้สอนเด็ก ( = 3.78,SD. =0.64) ส่วนรายการประเมินที่ค่าเฉลี่ย ต่ำที่สุดคือชุดฝึกอบรมทำให้ครูมีความรู้ความเข้าใจการช่วยเหลือนักเรียนที่มีปัญหาทางการเรียนรู้ ( = 3.28,SD. = 0.80)
ด้านรูปแบบชุดฝึกอบรมในภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 3.45,SD. =0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่าอยู่ในระดับมากทุกข้อ และรายการประเมินความเหมาะสมของขนาดชุดฝึกอบรม มีค่าเฉลี่ย สูงที่สุด ( = 3.69, SD. =0.63) รองลงมาคือความเหมาะสมของเนื้อหาสาระ ( = 3.49, SD. =0.59) ส่วนรายการประเมินความชัดเจนของตัวอักษรมีค่าเฉลี่ย ต่ำที่สุด ( = 3.34, SD. =0.78)
4. ผลการนิเทศระดับการปฏิบัติการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล(IEP)
ผลการนิเทศระดับการปฏิบัติการจัดทำแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล(IEP) ของครูผู้สอนในโรงเรียนต้นแบบเรียนรวม/แกนนำจัดการเรียนร่วม สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 3 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก ( = 4.26,SD. =0.73)
เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่ารายการประเมินด้านความคิดเห็นของบิดา มารดา หรือผู้ปกครอง มีค่าเฉลี่ยสูงที่สุด ( =4.70 ,SD.=0.61) รองลงมาคือรายการประเมินด้านคณะกรรมการ จัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล ( = 4.54 ,SD. =0.71) ส่วนรายการประเมินด้านข้อมูล ด้านการวางแผนการจัดการศึกษา มีค่าเฉลี่ยต่ำที่สุด ( = 3.45,SD. =0.52