ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพภายในโดยใช้หลัก ปรัชญาเศรษ

การรายงานครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อรายงานกระบวนการการพัฒนาการจัดคุณภาพการศึกษาตามาตรฐานการประกันคุณภาพภายในโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม (สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑ และเพื่อเปรียบเทียบผลการพัฒนาการจัดคุณภาพการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพภายในโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม (สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑

ผลการรายงานพบว่า

๑. เพื่อรายงานกระบวนการการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพภายในโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม(สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑ ดังนี้ ๑. ศึกษาสภาพปัญหาปัจจุบันและความต้องการในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ปัญหาและความต้องการการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียน เกิดขึ้นจากผลการสอบ O – Net ปีการศึกษา ๒๕๕๖ และปีการศึกษา ๒๕๕๗ รวมทั้งผลการประเมินรอบสามของสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา ปี พ.ศ.๒๕๕๕ มาตรฐานการประกันคุณภาพภายใน ผลการประเมินอยู่ในระดับ พอใช้ ทั้งระดับการศึกษาปฐมวัยและการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีบางมาตรฐานผลการประเมินอยู่ในระดับ ดี ดังที่กล่าวมานี้จึงเป็นปัญหาและความต้องการในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ๒. กำหนดประเด็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา มาตรฐานการศึกษาปฐมวัยและมาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ มาเป็นประเด็นในการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา หาสาเหตุของแต่ละมาตรฐานที่ทำให้คุณภาพยังไม่ได้มาตรฐาน สรุปได้ดังนี้ การศึกษาปฐมวัยมีประเด็นในการพัฒนา ๑๑ มาตรฐาน และการศึกษาขั้นพื้นฐานมีประเด็นในการพัฒนา ๑๕ มาตรฐาน ๓. กำหนดวิธีการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา โดยการจัดตั้งโครงการให้สอดรับกับมาตรฐานการศึกษา ทั้งการศึกษาปฐมวัย ๑๑ มาตรฐาน และการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ มาตรฐาน ๔. ดำเนินงานการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา ดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ทั้งการศึกษาปฐมวัย ๑๑ มาตรฐาน และการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ มาตรฐานตลอดปีการศึกษา ทุกโครงการดำเนินงานตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๓ ห่วง ๒ เงื่อนไข คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี และ ๒ เงื่อนไข คือเงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรม การดำเนินงานเป็นไปตามระบบบริหารคุณภาพ PDCA ๕. การนิเทศติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษา การนิเทศติดตามจัดทำในรูปแบบทีมนิเทศในโรงเรียน โดยจัดเป็นทีมนิเทศแบบเพื่อนช่วยเพื่อนเปิดใจรับฟังความคิดเห็นของเพื่อนเพื่อประโยชน์ของผู้เรียน การนิเทศควรเน้นเรื่องการสอนคิดในกระบวนการเรียนรู้ หลังจากนิเทศแล้วก็คอยกำกับติดตามการทำงานเป็นระยะเพื่อให้ความช่วยเหลือ คำแนะนำ ส่วนการประเมินผลเป็นไปตามมาตรฐานการศึกษา คือระดับการศึกษาปฐมวัยดำเนินงานการจัดการศึกษา ๑๑ มาตรฐานในรูป ๑๕ โครงการ และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ๑๕ มาตรฐานในรูป ๑๕ โครงการ ๖. สรุปการพัฒนาการจัดการศึกษา เมื่อการพัฒนาการศึกษาของโรงเรียนดำเนินงานการพัฒนาจนเสร็จสิ้นครบกระบวนการและสิ้นปีการศึกษา โรงเรียนก็จะประเมินตนเองเพื่อเขียนรายงานการประเมินตนเอง(SAR) ส่งเอกสารให้หน่วยงานต้นสังกัด รายงานผลการดำเนินงานการจัดการศึกษาต่อสาธารณะชน และเพื่อพร้อมรับการประเมินจากคณะกรรมงานที่หน่วยงานต้นสังกัดส่งมา

๒. เพื่อเปรียบเทียบการพัฒนาการจัดการศึกษาตามมาตรฐานการประกันคุณภาพการศึกษาภายในโดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม(สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง)สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑ พบว่า การศึกษาปฐมวัย มาตรฐานที่ ๑ เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๒ เด็กมีพัฒนาการด้านอารมณ์และจิตใจ ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๓ เด็กมีพัฒนาการด้านสังคมในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๔ เด็กมีพัฒนาการด้านสติปัญญา ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ และในภาพรวมด้านที่ ๑ เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๕ ครูปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๖ ผู้บริหารปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๗ แนวการจัดการศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๘ สถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ ในภาพรวมด้านที่ ๒ ด้านการจัดการศึกษา ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ ลดลงจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๙ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชนปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ ในภาพรามด้านที่ ๓ ด้านการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๐ การพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุตามปรัชญา วิสัยทัศน์และจุดเน้นของการศึกษาปฐมวัย ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ ในภาพรวมด้านที่ ๔ ด้านอัตลักษณ์ของสถานศึกษาในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๑ การพัฒนาสถานศึกษาตามนโยบายและแนวทางปฏิรูปการศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพให้สูงขึ้น ในภาพรวมด้านที่ ๕ ด้านมาตรการส่งเสริม ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ และในภาพรวมการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาปฐมวัย ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ พบว่า การศึกษาขั้นพื้นฐาน มาตรฐานที่ ๑ ผู้เรียนมีสุขภาวะที่ดีและมีสุนทรียภาพ ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๒ ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึงประสงค์ ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๓ ผู้เรียนมีทักษะในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง รักการเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๔ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างมีสติสมเหตุผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๔ ผู้เรียนมีความสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตัดสินใจแก้ปัญหาได้อย่างมีสติสมเหตุผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๖ ผู้เรียนมีทักษะในการทำงาน รักการทำงาน สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้และมีเจตนคติที่ดีต่ออาชีพสุจริต ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๗ ครูปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๘ ผู้บริหารปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๙ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชนปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ ลดลงจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๐ สถานศึกษามีการจัดหลักสูตร กระบวนการเรียนรู้และกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียนอย่างรอบด้าน ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๑ สถานศึกษามีการจัดสภาพแวดล้อมและการบริการที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนพัฒนาเต็มศักยภาพ ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๒ สถานศึกษามีการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๓ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชนปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล มาตรฐานที่ ๑๓ คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้ปกครองและชุมชนปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผล มาตรฐานที่ ๑๔ การพัฒนาสถานศึกษาให้บรรลุตามปรัชญา วิสัยทัศน์และจุดเน้นของการศึกษาปฐมวัย ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ คงที่เท่ากับปีการศึกษา ๒๕๕๖ มาตรฐานที่ ๑๕ การจัดกิจกรรมตามนโยบาย จุดเน้นแนวทางการปฏิรูปการศึกษาเพื่อพัฒนาและส่งเสริมสถานศึกษาให้ยกระดับคุณภาพสูงขึ้น ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖ และในภาพรวมการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปีการศึกษา ๒๕๕๗ เพิ่มขึ้นจากปีการศึกษา ๒๕๕๖

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง การประเมินโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียน วัดหนองกระทุ่ม (สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑

ผู้วิจัย นางสาวชยาน์ โตวิเศษ

ปีที่ทำ ๒๕๕๘

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ

๑. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ประกอบด้วย หลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์ของโครงการ นโยบายของโรงเรียน

๒. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านปัจจัยเบื้องต้นของโครงการ ประกอบด้วย บุคลากรผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และการบริหารจัดการ

๓. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ ประกอบด้วย การวางแผนโครงการ การมีส่วนร่วม ขั้นตอนการดำเนินงาน การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ

๔. เพื่อประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต ประกอบด้วย การบรรลุวัตถุประสงค์ ความพึงพอใจของนักเรียน การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน

ผลการวิจัยพบว่า

จากการประเมินผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม(สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑ สามารถสรุปผลกาวิจัยได้ดังนี้

๑. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม(Context

Evaluation ) แบ่งเป็น ๒ ส่วน คือ วิเคราะห์ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการกับนโยบายของโรงเรียน และแบบสอบถามบุคลากรผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง การวิเคราะห์ความสอดคล้องของวัตถุประสงค์โครงการกับนโยบายของโรงเรียน พบว่ามีความสอดคล้องกัน คือ วัตถุประสงค์โครงการข้อที่ ๑ เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเรื่องไตรสิกขาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อนำสู่ความเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สอดคล้องกับนโยบายข้อที่ ๓ นักเรียนมีคุณธรรม จริยธรรม ศีลธรรม และคุณลักษณะที่พึงประสงค์ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัตถุประสงค์โครงการข้อที่ ๒ เพื่อให้ผู้เรียน ครูและบุคลากร ผู้บริหารและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เกิดความภาคภูมิใจในโรงเรียนของตนและมีความภูมิใจในความเป็นไทย สอดคล้องกับนโยบายข้อที่ ๔ มีความสำนึกในความเป็นไทยและมีวิถีชีวิตตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง วัตถุประสงค์โครงการข้อที่ ๓ เพื่อสนับสนุนการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ให้มีผลสัมฤทธิ์ในเกณฑ์ที่ดีขึ้น สอดคล้องกับนโยบายข้อที่ ๖ ส่งเสริมให้ครูและบุคลากรมีการพัฒนาการเรียนการสอนของตนเองและนักเรียนเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในส่วนของแบบสอบถามการประเมินในด้านบริบท(Context Evaluation ) ได้แก่ หลักการและเหตุผล และวัตถุประสงค์ของโครงการเหมาะสมกับนโยบายของโรงเรียน พบว่า โรงเรียนได้กำหนดหลักการและเหตุผลสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ สอดคล้องกับนโยบายของโรงเรียน หลักไตรสิกขาเป็นฐานในการกำหนดหลักการ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม และศีลธรรมให้แก่นักเรียน ช่วยพัฒนานักเรียนให้มีวินัยในตนเองและมีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ โรงเรียนเสริมความรู้ความเข้าใจหลักการและเหตุผล วัตถุประสงค์และนโยบายของโครงการให้คณะครู หลักการและเหตุผลมีความชัดเจน วัตถุประสงค์ชัดเจน มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของโรงเรียน ผู้บริหารสถานศึกษาเห็นความสำคัญของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๖, ๔.๕๓, ๔.๕๓, ๔.๕๒, ๔.๕๒, ๔.๕๒, ๔.๕๑, ๔.๕๑, ๔.๕๑ และ ๔.๕๑ ตามลำดับ ประชุมชี้แจงวัตถุประสงค์ของโครงการ และคณะครูให้การสนับสนุนโครงการ อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๔๙ และ ๔.๔๙ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านบริบท วัตถุประสงค์ของโครงการเป็นการฝึกนักเรียนให้เป็นคนดี มีความประพฤติเรียบร้อย มีวินัย มีความรักความสามัคคีในหมู่คณะ อยู่ในศีลธรรมอันดี และมีคุณลักษณะของนักเรียนที่ดี

๒. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านด้านปัจจัยเบื้องต้น(Input Evaluation) ได้แก่ ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง วัสดุอุปกรณ์ งบประมาณ และการบริหารจัดการ พบว่า จำนวนบุคลากรในการดำเนินงานมีเพียงพอ มีการแต่งตั้งคณะกรรมการและบทบาทหน้าที่ ให้ความรู้แก่คณะกรรมการ ครูเป็นอย่างดี กำหนดขั้นตอนและวิธีการดำเนินโครงการ ระยะเวลาที่จัดโครงการมีความเหมาะสม โรงเรียนสนับสนุนงบประมาณอย่างเหมาะสมและเพียงพอ คณะกรรมการดำเนินงานมีความรู้ความเข้าใจโครงการ วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำเนินงานโครงการมีความเหมาะสมและเพียงพอ กิจกรรมมีอย่างหลากหลาย มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพของโรงเรียน อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๗๐, ๔.๕๗, ๔.๕๖, ๔.๕๖, ๔.๕๔, ๔.๕๔, ๔.๕๓, ๔.๕๓, ๔.๕๓ และ ๔.๕๑ ตามลำดับ กิจกรรมเหมาะสมและชัดเจน ชี้แจงเป้าหมายในการจัดกิจกรรมให้คณะครูทราบ เอกสารที่ใช้ประกอบเป็นคู่มือในการดำเนินกิจกรรมมีความชัดเจน การจัดกิจกรรมเป็นไปตามแผนที่กำหนด และทุกกิจกรรมมีบุคลากรรับผิดชอบ อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๔๘, ๔.๔๖, ๔.๔๓, ๔.๔๒ และ ๔.๓๕ ตามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านปัจจัยเบื้องต้น ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายของโครงการมีความรับผิดชอบ และเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความเต็มใจพร้อมทั้งหาและให้วัสดุอุปกรณ์และเงินในการจัดกิจกรรมด้วย การบริหารจัดการเป็นไปแบบมีส่วนร่วมของทุกฝ่ายทุกกิจกรรม

๓. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ(Process Evaluation)

ได้แก่ การดำเนินโครงการ กิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ พบว่า ดำเนินงานโครงการตามแผนที่วางไว้ ประสานงานกับบุคคลภายนอกและองค์กรภายนอกทั้งก่อนและเริ่มดำเนินงาน มีการประเมินผลการดำเนินงานโครงการอย่างมีระบบ คณะกรรมการวางแผนหรือเตรียมการก่อนเริ่มดำเนินกิจกรรมทุกครั้ง คณะกรรมการดำเนินงานจัดเตรียมสถานที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรม ครูได้ร่วมการวิเคราะห์ทางเลือกในการวางแผนการดำเนินงานและการจัดกิจกรรมในโครงการ มีการนำข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะของบุคลากรที่เกี่ยวข้องมาปรับปรุงโครงการ มีการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การดำเนินงานให้กับผู้เกี่ยวข้องได้รับทราบ มีการนิเทศติดตามผลการดำเนินงาน ครูมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน มีการวางแผนการดำเนินงานที่ชัดเจน และนำผลการประเมินมาทบทวนหรือปรับปรุงแก้ไขพัฒนาการดำเนินงานโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๒, ๔.๕๘, ๔.๕๘, ๔.๕๘, ๔.๕๗, ๔.๕๗, ๔.๕๖, ๔.๕๖, ๔.๕๔, ๔.๕๔, ๔.๕๓ และ ๔.๕๓ ตามลำดับ การดำเนินงานปฏิบัติตามแผนและปฏิบัติงานที่กำหนดไว้ตามขั้นตอน แผนหรือปฏิทินการปฏิบัติงานของแต่ละกิจกรรมมีความชัดเจนเหมาะสม คณะกรรมการได้สรุปรายงานผลการดำเนินงานของโครงการต่อผู้บริหารและคณะครูให้ได้รับทราบ และมีการวางแผนการดำเนินงานโครงการโดยระดมความคิดเห็นจากหลาย ๆ ฝ่าย อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๔๙, ๔.๔๙, ๔.๔๗ และ ๔.๔๔ ตามลำดับ วามคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านกระบวนการ มีคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานโครงการ การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง นักเรียนเกิดความรักความชอบในการมาโรงเรียน การปฏิบัติกิจกรมต่างๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติ เมื่อถึงเวลานักเรียนจะพร้อมใจกันปฏิบัติ ผู้บริหารเอาใจใส่คอยดูแลนิเทศติดตามกำกับ

๔. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต(Product Evaluation) ได้แก่

การบรรลุวัตถุประสงค์ ความพึงพอใจของนักเรียน และการนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน พบว่า ทำให้นักเรียนมีวินัยในตนเอง พัฒนาคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะที่พึงประสงค์อย่างชัดเจนให้แก่นักเรียน ช่วยเสริมความสามัคคีให้แก่นักเรียนและคณะครู ทำให้นักเรียนมีคุณธรรมและจริยธรรมมากขึ้น และทำให้มีบรรยากาศที่ดีเอื้อต่อการพัฒนาด้านการเรียนการสอนและการทำกิจกรรมเพื่อพัฒนา อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๑, ๔.๕๖, ๔.๕๖, ๔.๕๑ และ ๔.๕๑ ตามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านผลผลิต นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีศีลธรรม(ศีล ๕) และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ ข้อ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ข้อ ๓.มีวินัย ข้อ ๔.ใฝ่เรียนรู้ ข้อ ๕.อยู่อย่างพอเพียง ข้อ ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อ ๗. รักความเป็นไทย ข้อ ๘.มีจิตสาธารณะ

จากการประเมินนักเรียนโครงการโรงเรียนวิถีพุทธตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนวัดหนองกระทุ่ม(สังฆรักษ์ราษฎร์บำรุง) สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาราชบุรี เขต ๑ สามารถสรุปผลกาวิจัยได้ดังนี้

๑. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านกระบวนการ(Process Evaluation)

ได้แก่ การดำเนินโครงการ กิจกรรมการดำเนินงานตามโครงการ การนิเทศติดตามกำกับ และการประเมินผลในกระบวนการ พบว่า นักเรียนได้มีส่วนร่วมแสดงความคิดเห็นในระหว่างการปฏิบัติกิจกรรมของโครงการ อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๕๐ นักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดการประเมินผลโครงการ ประชาสัมพันธ์โครงการให้นักเรียนได้รับทราย นักเรียนเข้าร่วมประชุมชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจในหลักการ วัตถุประสงค์และการดำเนินงานในกิจกรรม นักเรียนมีส่วนร่วมในการวางแผนดำเนินงาน นักเรียนมีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหาในการดำเนินงานโครงการ และนักเรียนมีส่วนร่วมในการกำหนดกิจกรรมของโครงการอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๔๗, ๔.๔๗, ๔.๔๗ และ ๔.๔๕, ๔.๔๒ และ ๔.๓๙ ตามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านกระบวนการ มีการวางแผนโดยทุกฝ่ายมีส่วนร่วม มีคณะกรรมการรับผิดชอบการดำเนินงานโครงการ การดำเนินงานเป็นไปอย่างต่อเนื่อง เป็นขั้นเป็นตอน นักเรียนเกิดความรักความชอบในการมาโรงเรียน การปฏิบัติกิจกรมต่าง ๆ เป็นไปโดยอัตโนมัติเมื่อถึงเวลานักเรียนจะพร้อมใจกันปฏิบัติ มีการบริหารคุณภาพผู้บริหารคอยดูแลให้การนิเทศติดตามกำกับ มีการปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาทุกกิจกรรม

๒. การประเมินความเหมาะสมของโครงการในด้านผลผลิต(Product Evaluation) ได้แก่ การบรรลุวัตถุประสงค์ ความพึงพอใจของนักเรียน และการนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันของนักเรียน พบว่า ทำให้เกิดความรักชาติ ศาสตร์ กษัตริย์ นักเรียนมีวินัยในตนเอง นักเรียนสามารถนำข้อคิดต่างๆที่ได้จากการเขาร่วมกิจกรรมมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน นักเรียนได้พัฒนาตนเอง นักเรียนได้ข้อคิดจากการนำหลักธรรมในพุทธศาสนามาประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิต และนักเรียนเกิดความรู้ความเข้าใจและศรัทธาต่อพุทธศาสนามากยิ่งขึ้น อยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๖๖, ๔.๕๘, ๔.๕๘, ๔.๕๕, ๔.๕๕ และ ๔.๕๐ ตามลำดับ กิจกรรมฝึกสมาธิทำให้นักเรียนมีสมาธิดีขึ้น เกิดการเปลี่ยนแปลงทางความคิดเห็นหรือพฤติกรรมของนักเรียนไปในทางที่ดีขึ้น รักและภาคภูมิใจในความเป็นไทย ทำให้นักเรียนมีคุณธรรมจริยธรรมมากขึ้น กิจกรรมช่วยเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเรียนกับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และบุคคลทั่วไป นักเรียนรู้จักความพอเพียงคือมีความรู้คู่คุณธรรม ช่วยเสริมความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวให้แก่นักเรียนและคณะครู และนักเรียนเห็นคุณค่าของหลักธรรมของพุทธศาสนาและนำมาเป็นหลักปฏิบัติในการอยู่ร่วมกัน อยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๔๗, ๔.๔๕, ๔.๔๕, ๔.๔๒, ๔.๔๒, ๔.๓๙, ๔.๓๔ และ ๔.๒๙ ตามลำดับ ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะด้านผลผลิต ผู้เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม มีจริยธรรม มีศีลธรรม(ศีล ๕) และมีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ๘ ประการ ได้แก่ ข้อ ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ข้อ ๒. ซื่อสัตย์สุจริต ข้อ ๓.มีวินัย ข้อ ๔.ใฝ่เรียนรู้ ข้อ ๕.อยู่อย่างพอเพียง ข้อ ๖. มุ่งมั่นในการทำงาน ข้อ ๗. รักความเป็นไทย ข้อ ๘.มีจิตสาธารณะ การเรียนรู้มีการพัฒนาและสามาถนำหลักไตรสิกขาไปใช้ในการดำเนินชีวิตประจำวันได้

โพสต์โดย แต๋ว : [2 ม.ค. 2559 เวลา 12:31 น.]
อ่าน [5440] ไอพี : 125.26.40.228
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โพสต์โดย

คุณ -

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 5,263 ครั้ง
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา คัดเลือก บรรจุ และแต่งตั้งบุคลากร
กฎ ระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการสรรหา คัดเลือก บรรจุ และแต่งตั้งบุคลากร

เปิดอ่าน 18,785 ครั้ง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง
ขจัดไขมันบนพุงด้วยการแขม่วท้อง

เปิดอ่าน 15,638 ครั้ง
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม
โรคฉี่หนู เชื้อร้ายที่มากับน้ำท่วม

เปิดอ่าน 24,202 ครั้ง
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"
ประวัติ ความเป็นมาของ "วันเด็กแห่งชาติ"

เปิดอ่าน 18,845 ครั้ง
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่
ชนชาติแรกที่สูบบุหรี่

เปิดอ่าน 71,032 ครั้ง
วิธีลดธงครึ่งเสาที่ถูกต้อง
วิธีลดธงครึ่งเสาที่ถูกต้อง

เปิดอ่าน 12,488 ครั้ง
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด
สาว 6 อาชีพกับเส้นเลือดขอด

เปิดอ่าน 44,423 ครั้ง
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี
"วันครูโลก" 5 ตุลาคมของทุกปี

เปิดอ่าน 8,794 ครั้ง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง
บริหารงานอย่างไร จึงจะครองใจลูกน้อง

เปิดอ่าน 15,014 ครั้ง
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก
เตือนใช้ "บิททอร์เรนท์" โหลดคลิปโป๊มีโทษติดคุก

เปิดอ่าน 20,176 ครั้ง
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน
รู้หรือไม่ ที่ฟินแลนด์ ยกระดับการศึกษา ต้องเริ่มที่พัฒนาครูผู้สอน

เปิดอ่าน 111,201 ครั้ง
อักษรไทย ภาษาไทย รูปแบบการเขียนตัวอักษร แบบอักษรไทย
อักษรไทย ภาษาไทย รูปแบบการเขียนตัวอักษร แบบอักษรไทย

เปิดอ่าน 8,474 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี
กรมอนามัย แนะ 10 วิธี ช่วยผู้สูงอายุนอนหลับดี เสริมสร้างสุขภาพที่ดี

เปิดอ่าน 4,420 ครั้ง
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!
เปิดรายชื่อ 203 แอพอันตราย เตือนประชาชน อย่าโหลด!

เปิดอ่าน 15,933 ครั้ง
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก
เลิกตามใจลูก ปลูกวินัยวัยเด็ก

เปิดอ่าน 9,093 ครั้ง
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู
ปฏิรูปผู้บริหารสถานศึกษาก่อน ผลจะย้อนมาถึงคุณภาพครู
เปิดอ่าน 13,691 ครั้ง
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
รับประทาน "ไก่พื้นเมือง" ดีต่อสุขภาพอย่างไร
เปิดอ่าน 20,965 ครั้ง
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ
"พลูด่าง" ไม้มงคลเสริมโชคลาภ
เปิดอ่าน 100,415 ครั้ง
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
การใช้ประโยชน์จากแหล่งการเรียนรู้ในสถานศึกษา
เปิดอ่าน 16,252 ครั้ง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง
ผลิตพืชอินทรีย์ / สมุนไพรกำจัดโรคและแมลง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ