โรคเกาต์ คืออะไร หลายท่านที่ยังไม่เคยเป็นอาจยังสงสัย โรคเกาต์ เป็นกลุ่มอาการที่เกิดจากภาวะกรดยูริกในเลือดสูง ร่วมกับมีอาการที่เกิดจากการตกผลึกของกรดยูริก ในรูปแบบผลึกยูเรตในข้อหรือเนื้อเยื่อรอบๆ ข้อ ซึ่งจะทำให้เกิดการอักเสบเฉียบพลันของข้อหรือเนื้อเยื่อรอบข้อ หรือเกิดปุ่มก้อนของผลึกยูเรตภายในข้อและใต้ชั้นผิวหนังรอบๆ ข้อ ถ้าเป็นมากทำให้เกิดนิ่วในไตร่วมด้วย
สาเหตุของการเกิดโรคเกาต์
โรคเกาต์ มีสาเหตุมาจากความผิดปกติของการสะสมกรดยูริก (Uric acid) ในร่างกาย กรดยูริกได้จากการเผาผลาญสารพิวรีน ซึ่งเป็นธาตุอาหารที่ร่างกายสังเคราะห์เองได้และ พบได้ทั่วไปในอาหารหลายชนิด โดยปกติพิวรีนที่ร่างกายได้รับจะถูกย่อย และกลายเป็นกรดยูริก ในคนปกติไตจะทำหน้าที่ขับกรดยูริกออกให้ทันต่อการสร้างใหม่ การสะสมของกรดยูริกทำให้เกิด อาการปวดรุนแรง ในกระดูกและรอบๆ ข้อกระดูก
ซึ่งในผู้ชาย Uric ไม่ควรที่จะเกิน 8 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร และในผู้หญิงยูริก ไม่ควรเกิน 6 มิลลิกรัมต่อเดซิลิตร โรคนี้สามารถติดต่อได้ทางกรรมพันธุ์
อาการของโรคเกาต์ เป็นอย่างไร
** ข้อที่พบการอักเสบของเกาต์ได้บ่อย ได้แก่ ข้อนิ้วหัวแม่เท้า ข้อเท้า ข้อเข่า ข้อมือ และข้อศอกเรียงตามลำดับ พบว่าข้อที่เป็นจะบวม แดง กดเจ็บ ในรายที่เป็นเรื้อรังจะมีการรวมตัวของกรดยูริกเกิดเป็นก้อนที่ข้อ
การรักษาโรคเกาต์ ช่วงที่มีข้ออักเสบ
การปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์
ผู้ป่วยโรคเกาต์กินอะไรได้บ้าง และไม่ควรกินอะไร
อาหารสำหรับผู้ป่วยโรคเกาต์
อาหารที่รับประทานสามารถแบ่งได้เป็น 3 กลุ่ม ตามปริมาณของสารพิวรีนในอาหาร
1. อาหารที่มีสารพิวรีนมากมากกว่า 150 มิลลิกรัม ผู้ป่วยโรคเกาต์ควรงดเว้นหรือหลีกเลี่ยง
ตับ น้ำต้มเนื้อ น้ำเกาเหลา ไต น้ำสกัดจากเนื้อเข้มข้น ปลาไส้ตัน น้ำปลาและกะปิจากปลาไส้ตัน ปลาซาร์ดีน ยีสต์และอาหารหมักจากยีสต์ เช่น เบียร์ หอยเซลล์ ปลาทู ปลารัง เนื้อไก่ เป็ด นก ไข่ปลา
ควรงดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เด็ดขาด เช่น เบียร์ , เหล้า เพราะแอลกอฮอล์ทำให้ยูริคสูงขึ้น
2. อาหารที่มีสารพิวรีนปานกลาง (พิวรีนอยู่ 50-150 มก.) ผู้ป่วยโรคเกาต์ทานได้ในปริมาณจำกัด
เนื้อวัว กระเพาะ ผ้าขี้ริ้ว เอ็น เนื้อหมู เนื้อปลา ปู กุ้ง หอย ถั่วเหลือง ถั่วดำ ถั่วแดง ถั่วเขียว ผัก หน่อไม้ฝรั่ง ผักขม เห็ด ดอกกะหล่ำ ชะอม กระถิน
3. อาหารที่มีสารพิวรีนน้อย หรือเกือบไม่มีเลย (0-50 มิลลิกรัม) ผู้ป่วยโรคเกาต์ทานได้โดยไม่แสลง
ข้าว ขนมจีน เส้นก๋วยเตี๋ยวทุกชนิด วุ้นเส้น บะหมี่ เส้นหมี่ ขนมปังปอนด์ มักกะโรนี ข้าวโพด แคร็กเกอร์สีขาว ไข่ นมและผลิตผลจากนม (เนยแข็ง ไอศกรีม) น้ำมันพืช กะทิ เนย น้ำมันหมู ผัก ผลไม้ทุกชนิด เกาลัด เม็ดมะม่วงหิมพานต์ ขนมหวานต่างๆ ทองหยิบ ทองหยอด ฝองทอง เค้ก คุกกี้ เครื่องดื่ม กาแฟ ชา โกโก้ ช็อกโกแลต
ขอบคุณข้อมูลจาก โรงพยาบาลวิภาวดี
โพสต์เมื่อ 3 ม.ค. 2568 อ่าน 49 | 0 ความเห็น
·····
·····
จัดทำเว็บไซต์โดย นายอดิศร ก้อนคำ (ครูโจ้)