ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้

ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา

ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง

ชื่อผู้วิจัย นางวราภรณ์ มโนรัตน์ ตำแหน่ง ผู้อำนวยการสถานศึกษา

วิทยฐานะ ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ

ปีที่วิจัย 2564 - 2565

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้ ใช้วิธีวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาแนวทางในการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง 2) เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง วิธีดำเนินการวิจัย แบ่งออกเป็น 4 ขั้นตอน คือ ขั้นตอนที่ 1 การศึกษาแนวทางในการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก ขั้นตอนที่ 2 การสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก ขั้นตอนที่ 3 การทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน จำนวน 10 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 43 คน รวมจำนวน 53 คน ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง ในปีการศึกษา 2565 ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) และขั้นตอนที่ 4 การประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยศึกษาจากกลุ่มตัวอย่าง คือ ครูผู้สอน จำนวน 10 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 - 6 จำนวน 43 คน รวมจำนวน 60 คน ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบสัมภาษณ์ แบบบันทึกการสนทนากลุ่ม แบบประเมินรูปแบบการบริหาร และแบบสอบถามความพึงพอใจ วิเคราะห์ข้อมูลเชิงคุณภาพโดยการวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis) วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณโดยใช้สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย (x̄) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการวิจัยพบว่า

1. ผลการศึกษาแนวทางในการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง พบว่า การบริหารที่ผู้บริหารและครูเห็นความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา โดยมุ่งเน้นผลผลิตที่เกิดขึ้นกับนักเรียนเป็นสำคัญ บนพื้นฐานการส่วนร่วมของบุคลากรทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารมีความเป็นผู้นำ มีบทบาทในการนำกระบวนการชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพให้เกิดขึ้นในสถานศึกษา การพัฒนาวิชาชีพครู ส่งเสริมให้ครูในโรงเรียนมีการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง พัฒนาวิธีการสอนและนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่หลากหลาย มีกระบวนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สนองตอบตามศักยภาพผู้เรียน โดยมีการรวมกลุ่มกันทำงาน ร่วมกันคิดค้นการแก้ปัญหาการเรียนการสอนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การสะท้อนผลการปฏิบัติงานทางวิชาชีพ เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา อันจะส่งผลต่อคุณภาพนักเรียน

2. ผลการสร้างและตรวจสอบรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็ก โดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง พบว่า ได้รูปแบบที่ชื่อว่า 3E & Q Model มี 5 องค์ประกอบหลัก ได้แก่ 1) หลักการของรูปแบบ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) วิธีดำเนินงานของรูปแบบ (3E & Q Model) ประกอบด้วย Envision (การมีวิสัยทัศน์ชัดเจน) Efficiency & Effectiveness (การทำงานที่มุ่งเน้นประสิทธิภาพและประสิทธิผล) Enjoy (การมีความสุขในงานที่ทำร่วมกัน) และ QUALITY (เป้าหมายคุณภาพโรงเรียน) 4) เงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ และ 5) แนวทางการประเมินรูปแบบ ผลการตรวจสอบคุณภาพของรูปแบบ โดยผู้ทรงคุณวุฒิ พบว่า รูปแบบการบริหารมีความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.53, S.D. = 0.55)

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง พบว่า

3.1 คุณภาพนักเรียนโดยการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระหว่างปีการศึกษา 2564-2565 พบว่า นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ปีการศึกษา 2565 สูงกว่าปีการศึกษา 2564 จำนวน 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ โดยมีคะแนนเพิ่มขึ้น 1.17 คิดเป็นร้อยละ 1.87 และนักเรียนมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตรสถานศึกษา ในระดับดี–ดีเยี่ยม ปีการศึกษา 2565 สูงกว่าปีการศึกษา 2564 เพิ่มขึ้นทั้ง 8 ประการ คิดเป็นร้อยละ 3.91

3.2 คุณภาพครู พบว่า ครูโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง ได้รับรางวัล เกียรติบัตรหรือประกาศเกียรติคุณ ระดับจังหวัดขึ้นไป ในปีการศึกษา 2564-2565 จำนวน 9 รายการ เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือไม่น้อยกว่า 5 รายการ

4. ผลการประเมินรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษา ของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง พบว่า

4.1 บุคลากรครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน มีความเห็นว่ารูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง มีความเป็นประโยชน์ ความเป็นไปได้ ความเหมาะสม และความถูกต้องในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D. = 0.52)

4.2 บุคลากรครูผู้สอน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารสถานศึกษาขนาดเล็กโดยใช้กระบวนการชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) และการบริหารแบบมีส่วนร่วม เพื่อพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๖ มิ่งเมือง ในภาพรวม อยู่ในระดับมากที่สุด (x̄ = 4.52, S.D. = 0.52)

โพสต์โดย ญา : [15 มี.ค. 2567 (09:29 น.)]
อ่าน [640] ไอพี : 27.145.136.233
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 12,809 ครั้ง
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร
ไฟหมุนร้านตัดผมมีที่มาอย่างไร

เปิดอ่าน 13,005 ครั้ง
infoGraphics เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพ.ร.บ.การตั้งท้องในวัยรุ่น
infoGraphics เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจพ.ร.บ.การตั้งท้องในวัยรุ่น

เปิดอ่าน 119,618 ครั้ง
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย
บทความพิเศษ : การศึกษา 4.0 / ดร.โพยม จันทร์น้อย

เปิดอ่าน 11,409 ครั้ง
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ
นักเขียนไทยเจ๋ง คว้าแชมป์การ์ตูนนานาชาติ

เปิดอ่าน 277,903 ครั้ง
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550
บัญชีอัตราเงินเดือนข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาฯแนบท้าย พ.ร.บ.เงินเดือน 2550

เปิดอ่าน 21,736 ครั้ง
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู
การศึกษาประชารัฐ FOCUS ที่พัฒนาครู

เปิดอ่าน 14,526 ครั้ง
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม
เทคนิคการนำเสนอเรื่องในที่ประชุม

เปิดอ่าน 16,063 ครั้ง
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน
เวลาที่ไม่ควรแปรงฟัน

เปิดอ่าน 13,344 ครั้ง
การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง
การออกกำลังกายเพิ่มภูมิต้านทานความเครียดให้กับสมอง

เปิดอ่าน 8,396 ครั้ง
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต
17 วิธี Refresh สุขภาพแบบฮอต ฮอต

เปิดอ่าน 15,018 ครั้ง
ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56
ขนส่งฯ แจ้ง เปลี่ยนทะเบียนแตกลายงา ฟรี! วันนี้ - 30 ก.ย. 56

เปิดอ่าน 13,232 ครั้ง
การเลี้ยงไก่ไข่
การเลี้ยงไก่ไข่

เปิดอ่าน 15,777 ครั้ง
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์
แอปเปิ้ลหลากสีหลากประโยชน์

เปิดอ่าน 4,315 ครั้ง
10 ข้อเสนอจากเวทีระดมสมอง "เปิดเทอมใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม"
10 ข้อเสนอจากเวทีระดมสมอง "เปิดเทอมใหม่ที่ไม่เหมือนเดิม"

เปิดอ่าน 126,655 ครั้ง
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล
เช็คให้ดี! "ฮวงจุ้ยห้องพระ" วางตรงไหนเหมาะ วางไม่ดีอาจทำเงินทองรั่วไหล

เปิดอ่าน 11,774 ครั้ง
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
ทำอย่างไรให้ลูกมีความจำดี : ดร.สุพาพร เทพยสุวรรณ
เปิดอ่าน 17,346 ครั้ง
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
ใช้ข้อสอบเดียวกันตัดสินเด็กทั้งประเทศ ยุติธรรมแล้วหรือ!
เปิดอ่าน 4,096 ครั้ง
อาหารแสลง คืออะไร
อาหารแสลง คืออะไร
เปิดอ่าน 11,548 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
เปิดอ่าน 52,021 ครั้ง
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน
แจก code นำวิดีโอความรู้ จาก "ทรูปลูกปัญญา" ไปติดในเว็บท่าน

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ