ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เรื่อง รายงานวิจัย เรื่อง ผลของการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาที่มีต่อพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยชั้นนอนุบาล 2 โรงเรียนวัดหนา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566

ชื่อเรื่อง ผลของการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาที่มีต่อพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย

ชื่อผู้วิจัย นางสาวกรกมล หนูจันทร์ โรงเรียนวัดหนา อำเภอร่อนพิบูลย์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3

ปีที่วิจัย 2566

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

การพัฒนาพฤติกรรมทางสังคมต้องเริ่มจากการศึกษาพฤติกรรมทางสังคมของบุคคลที่อยู่ในสังคมด้านต่างๆ ให้เข้าใจแล้วเริ่มปลูกฝังและให้ความรู้ในทางที่ถูกต้องให้เกิดขึ้นกับเด็กตั้งแต่ก่อนวัยเรียน เพราะสามารถสร้างลักษณะนิสัยและวิถีชีวิตที่ดีแก่เด็กบุคคลนั้นได้ (มหาวิยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช. 2536:724–725) ซึ่งการศึกษาคือเครื่องมือที่สำคัญในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะในช่วงปฐมวัยซึ่งเป็นวัยรากฐานของการพัฒนาทั้งปวง ซึ่งเป็นการพัฒนามนุษย์ที่ยั่งยืนและป้องกันปัญหาสังคมในระยะยาว (สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษากระทรวงศึกษาธิการ.2550:7) การพัฒนาทางสังคมของเด็กในวัยนี้ต้องฝึกให้เด็กเกิดความไว้วางใจในผู้อื่นเมื่ออยู่ร่วมกันทำงานและเล่นร่วมกับผู้อื่นได้มีความรับผิดชอบในงานต่างๆ ร่วมกับผู้อื่นอย่างง่ายๆ ให้เด็กเข้าใจข้อตกลงและเกณฑ์ต่างๆ ฝึกให้รู้จักอดทนรอคอยให้ถึงโอกาสของตน หัดให้เด็กรับฟังผู้อื่นชมเชยผู้อื่น (เยาวพา เดชะคุปต์. 2542:85) และการจัดการศึกษาในระดับปฐมวัยเป็นการจัดการศึกษาที่มีความสำคัญมาก เพราะเด็กในระดับปฐมวัยเป็นวัยที่มีความเฉพาะและเป็นวัยที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการที่จะได้รับการอบรมเลี้ยงดู และการดูแลเอาใจใส่ควรได้รับการศึกษาให้สอดคล้องกับธรรมชาติ และความต้องการของเด็กในวัยนี้ โดยเฉพาะพฤติกรรมทางสังคม (สิริมา ภิญโญอนันตพงษ์. 2550:1–2) นอกจากนี้ บลูม (Bloom.1964: 215) ได้กล่าวว่า ความสำคัญในการจัดประสบการณ์ทางสังคมกับเด็กในช่วงปฐมวัยมีอิทธิพลต่อบุคลิกภาพของคนเราเป็นอย่างมาก โดยการพัฒนาการทางสังคมสำหรับเด็กในวัยนี้ ต้องฝึกเด็กให้เกิดความไว้วางใจในผู้อื่นเมื่ออยู่ร่วมกัน ทำงานและเล่นกับผู้อื่นได้ มีความรับผิดชอบในการทำงานต่างๆ ร่วมกับผู้อื่นอย่างง่ายๆให้เด็กเข้าใจข้อตกลงและเกณฑ์ต่างๆ ฝึกให้รู้จักอดทนรอคอยให้ถึงโอกาสของตน หัดให้เด็กรับฟังผู้อื่น ชมเชยผู้อื่น เยาวพา เดชะคุปต์ (2542: 85) และ สิริมา ภิญโญอนันตพงษ์ (2545: 26) กล่าวว่า เด็กวัย 3 – 6 ปี เป็นวัยที่เรียนรู้เกี่ยวกับการอยู่กับผู้อื่นและสิ่งรอบตัว เด็กวัยนี้จึงชอบเล่นเป็นกลุ่มมากกว่าเล่นคนเดียวต้องการตัวแบบด้านสังคมและจริยธรรม เพื่อเป็นสมาชิกที่ดีของสังคมนั้นจึงควรส่งเสริมให้เด็กปฐมวัยมีพฤติกรรมทางสังคมที่เหมาะสม เพื่อช่วยให้เด็กมีพัฒนาการสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมและอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นได้อย่างมีความสุข

ออร์ลิค (Orlick. 1979: 157 – 161) มีความเห็นว่า การปลูกฝังพฤติกรรมทางสังคม โดยให้เด็กมีพฤติกรรมทางสังคมด้าน การร่วมมือ การแบ่งปัน การเสียสละ ควรปลูกฝังได้โดยผ่านการเล่น และเชื่อว่า การเล่นมีศักยภาพอย่างมากที่จะช่วยให้เด็กได้เรียนรู้เกี่ยวกับตนเอง และผู้อื่นตลอดจนการเรียนรู้ เพื่อที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมได้ อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น การเล่น จึงเป็นสื่อกลางที่ดีที่จะสอนให้เด็กได้เรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม เพราะการเล่นสามารถจูงใจให้เด็กกระทำสิ่งต่างๆได้และสอดคล้องกับ เฟอเบล (Froebel) ซึ่งเชื่อว่า การเล่นเป็นพัฒนาการขั้นสูงสุดของเด็กและพัฒนาการตามธรรมชาติจะเกิดขึ้นโดยการเล่นถือเป็นกิจกรรมส่วนใหญ่ในชีวิตเด็กช่วยให้เด็กเรียนรู้สิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมพัฒนาการทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา (หรรษา นิลวิเชียร. 2535: 65) การเล่นช่วยสร้างสรรค์บรรยากาศความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ในขณะที่เด็กเล่นด้วยกัน เด็กจะเรียนรู้ การช่วยเหลือ การแบ่งปัน การยอมรับกันในการปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เรียนรู้การระวังรักษาของเล่น และการเรียนรู้การเข้าสังคมกับเพื่อน (หรรษานิลวิเชียร. 2535: 85) และการเล่นเป็นสิ่งสำคัญในชีวิตเด็ก เพราะในขณะที่เด็กเล่นนอกจากจะได้รับความสนุกสนานแล้ว ยังเป็นโอกาสให้เด็กได้แสวงหาความรู้ความเข้าใจในสิ่งต่างๆ ด้วยตนเองการที่เด็กได้ทำ ได้สัมผัส ได้ลองผิดลองถูก ได้สังเกต จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เด็กค่อยๆ เกิดความเข้าใจตนเองและผู้อื่น เด็กได้ใช้ความคิดริเริ่ม ปล่อยความคิดคำนึงไปตามเหตุการณ์ ในขณะที่เล่น นอกจากนี้การเล่นยังส่งเสริมความเจริญงอกงามทางสังคมของเด็ก ช่วยให้เด็กรู้จักควบคุมตนเองคิดถึงผู้อื่นรู้จักหน้าที่ความรับผิดชอบต่างๆ ทำให้เด็กเป็นคนที่มีวินัยรักหมู่คณะช่วยเหลือ แบ่งปันผู้อื่น การเล่นจึงเป็นการเรียนรู้สำหรับเด็กเป็นงานสำหรับเด็ก เป็นความสุขในชีวิตของเด็กเป็นสิทธิที่ทุกคนพึงจะมี (ศิริกาญจน์ โกสุมภ์. 2521: 20 – 22) นอกจากนี้การเล่นมีหลายวิธี การจัดกิจกรรมการเล่น ก็มีหลายรูปแบบ ได้แก่ การจัดกิจรรมการเล่นเสรี การเล่นกลางแจ้ง หรือการจัดกิจกรรมการเล่นเกมการศึกษา ดังนั้น การจัดกิจกรรมต่างๆ จึงควรจัดให้เหมาะสมและสอดคล้องกับพัฒนาการ และความสนใจของเด็กเพื่อส่งเสริมให้เด็กได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพ

เกมการศึกษาเป็นกิจกรรมการสอนชนิดหนึ่งที่สนับสนุนทฤษฎีการเรียนรู้ของเด็ก คือ จัดให้เด็กได้เรียนรู้จากการเล่น และเล่นจากสิ่งที่เป็นรูปธรรม เกมการศึกษาจึงเป็นกิจกรรมการเล่นที่ช่วยฝึกทักษะด้านต่างๆ อันเป็นพื้นฐานการเรียนในระดับประถมศึกษา ซึ่งมุ่งให้เด็กได้ใช้ทักษะการคิดในการสังเกตคิดหาเหตุผล และแก้ปัญหา โดยใช้เวลาสั้นที่สุด (สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ. 2527: 5) ดังนั้น เกมการศึกษาจึงเป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญยิ่งต่อการฝึกทักษะ และช่วยให้เกิดความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียน การเล่นเกมการศึกษาจึงเป็นวิธีการอย่างหนึ่งที่ส่งเสริมให้เด็กเกิดการเรียนรู้ และช่วยพัฒนาทักษะต่างๆ รวมทั้งช่วยส่งเสริมกระบวนการในการทำงานและการอยู่ร่วมกันในสังคม (เยาวพา เดชคุปต์. 2528: 36) ซึ่งเกมการศึกษาเป็นกิจกรรมที่มีคุณค่าแก่เด็กทั้งทางด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม ช่วยสร้างบรรยากาศที่ดีในการเรียน (วรรณพร ศิลาขาว. 2538: 35) นอกจากนี้การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ยังช่วยให้เด็กเพลิดเพลินผ่อนคลายความตึงเครียด เร้าความสนใจของเด็กและเรียนรู้พฤติกรรมทางสังคม รู้จักความรับผิดชอบ ส่งเสริมให้เด็กมีความสามัคคี รู้จักการเอื้อเฟื้อช่วยเหลือ แบ่งปัน ยอมรับกันและรู้จักการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ (อัจฉรา ชีวพันธ์. 2526: 3)

ถึงแม้เกมการศึกษาจะมีความสำคัญต่อการส่งเสริมพัฒนาการทางการเรียนรู้ และพัฒนาการด้านต่างๆ ของเด็กปฐมวัยแต่การใช้เกมการศึกษาประกอบการเรียนการสอน ยังเป็นเรื่องที่ครูผู้สอน จำเป็นที่จะต้องคำนึงถึงการจัดกิจกรรม และวิธีการเล่นที่จะส่งผลให้เกิดพฤติกรรมทางสังคม ได้อย่างสมบรูณ์มากที่สุด โดยเฉพาะการจัดกิจกรรมการเล่นเกมการศึกษาในห้องเรียนที่ยังขาดกระบวนการเล่นที่ให้เด็กได้เล่นเกมเป็นกลุ่ม โดยมีครูคอยเป็นผู้กำกับดูแลเอาใจใส่ กระตุ้นและชี้แนะให้แรงเสริม เพื่อส่งเสริมพฤติกรรมทางสังคมให้กับเด็ก

จากการสังเกตนักเรียนชั้นอนุบาล 2 โรงเรียนวัดหนา อำเภอร่อนพิบูลย์ จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อให้ทำกิจกรรมเกมการศึกษา พบว่าการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาในห้องเรียนไม่มีความเป็นระเบียบ เด็กมักจะยึดชิ้นเกมเป็นของตัวเอง ไม่แบ่งปันให้เพื่อน และไม่ทำตามกฎกติกาในการเล่น พฤติกรรมการเล่นไม่ทะนุถนอม เด็กบางคนแสดงความเป็นผู้นำแต่เพียงผู้เดียว ชอบใช้คำสั่งให้เพื่อนทำตาม หากไม่มีใครทำตามจะใช้น้ำเสียงดังขู่เพื่อน พฤติกรรมทางสังคมในด้านการช่วยเหลือ การแบ่งปัน การยอมรับผู้อื่น จึงไม่ได้รับการส่งเสริมให้เกิดขึ้นในตัวเด็ก

ดังนั้น ผู้วิจัยจึงมีความสนใจในการที่ศึกษาว่า การจัดกิจกรรมเกมการศึกษาจะส่งผลต่อพฤติกรรมทาง

1. เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาในช่วงระยะเวลาที่แตกต่างกัน

2. เพื่อศึกษาการเปลี่ยนแปลงที่เพิ่มขึ้นของพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

สมมติฐานของการวิจัย

เด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษามีการเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมทางสังคมสูงขึ้น

กรอบแนวคิดในการวิจัย

ขอบเขตของการวิจัย

ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย

ประชากร

ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชาย – หญิง ที่มีอายุระหว่าง 3-5 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวัดหนา อำเภอร่อนพิบูลย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชาย – หญิง ที่มีอายุระหว่าง 3-5 ปี ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โรงเรียนวัดหนา อำเภอร่อนพิบูลย์ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 จำนวน 15 คน โดยใช้วิธีการเจาะจง

ตัวแปรที่ศึกษา

1. ตัวแปรต้น คือ การจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

2. ตัวแปรตาม คือ พฤติกรรมทางสังคม

ระยะเวลาที่ใช้ในการทดลอง

การศึกษาครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ทำการทดลองในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ทำการทดลองเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ๆ ละ 5 ครั้งๆ ละ 30 นาที กลุ่มตัวอย่างได้รับการทดลองทั้งสิ้น 20 ครั้ง ตามแผนการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา

ประโยชน์ที่ได้รับในการวิจัย

ผลการวิจัยครั้งนี้สามารถใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน สำหรับครูและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาปฐมวัย ในการจัดการศึกษาระดับปฐมวัย ที่ใช้เป็นแนวทางส่งเสริมพัฒนาการทางด้านสังคมแก่เด็กปฐมวัยจากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา เพื่อจัดการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับเด็ก

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย

1. แผนการจัดกิจกรรมการเล่นเกมการศึกษา

2. แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคมของเด็กปฐมวัย ได้แก่

2.1 การช่วยเหลือ

2.2 การแบ่งปัน

2.3 การยอมรับ

3. เกมการศึกษ

วิธีการดำเนินการทดลอง

การทดลองครั้งนี้ดำเนินการในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 เป็นเวลา 4 สัปดาห์โดยมีขั้นตอนดังนี้ สร้างความคุ้นเคยกับเด็กกลุ่มตัวอย่างเป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ โดยการจัดเตรียมสภาพแวดล้อมภายในสถานศึกษาที่ทำการทดลอง ให้เหมาะสม หลังจากนั้นได้ จัดเก็บข้อมูลพื้นฐานทุกด้าน (Beseline Data) โดยการสังเกตพฤติกรรมทางสังคมจากการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาของกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 15 คน เป็นระยะเวลา 1 สัปดาห์ ได้แก่ วันอังคาร พุธ พฤหัสบดี วันละ 30 นาที โดยใช้แบบสังเกตพฤติกรรมทางสังคม ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น และทำการบันทึกการสังเกตโดยผู้วิจัย หลังจากนั้น ผู้วิจัยดำเนินการทดลองด้วยตนเอง โดยทำการทดลองในกิจกรรมเกมการศึกษาใช้เวลาในการทดลองเป็นระยะ 4 สัปดาห์ๆ ละ 5 วัน ได้แก่ จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัสบดี ศุกร์ ในเวลา 15.00 – 15.30 น. และทำการสังเกตพฤติกรรมทางด้านสังคมในด้านการช่วยเหลือ แบ่งปัน การยอมรับผู้อื่น ขณะที่เด็กทำกิจกรรมเล่นเกมการศึกษา

การวิเคราะห์ข้อมูล

คำชี้แจง ให้ผู้ประเมินกาเครื่องหมายถูก / ลงในช่องคะแนนที่กำหนดดังนี้

เกณฑ์การให้คะแนน

3 คะแนน หมายถึง ดี

2 คะแนน หมายถึง ปานกลาง

1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

สรุปผลการวิจัย

1. เด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา ในแต่ละช่วงสัปดาห์ มีผลต่อพฤติกรรมทางสังคม ก่อนและหลังการทดลอง มีคะแนนพฤติกรรมทางสังคมโดยรวมเฉลี่ยร้อยละ 67.9 และ 91

2. เด็กปฐมวัย ที่ได้รับการจัดกิจกรรมเกมการศึกษา มีพฤติกรรมทางสังคมเพิ่มขึ้น ทุกด้าน ได้แก่ ด้านการช่วยเหลือ ด้านการแบ่งปัน ด้านการยอมรับ มีค่าเฉลี่ยสูงขึ้นร้อยละ 91 แสดงว่าการจัดกิจกรรมเกมการศึกษาส่งเสริมให้เด็กปฐมวัย มีพฤติกรรมทางสังคมสูงขึ้นอย่างชัดเจน

ผลการวิจัยในครั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า การจัดกิจกรรมเกมเล่นเกมการศึกษาส่งเสริมพฤติกรรมทางสังคมให้เด็กได้ ทั้งนี้ ถ้าเด็กได้รับการสนับสนุนและส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ดังเห็นได้จาก ผลการวิจัยทดลองช่วงระยะเวลา 4 สัปดาห์ ที่เด็กได้รับการจัดกิจกรรมอย่างต่อเนื่องทำให้เด็กได้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมทางสังคมของเด็กสูงขึ้น ดังนั้น ผู้ที่เกี่ยวข้องและสนใจในการนำกิจกรรมเกมการศึกษาที่ส่งเสริมพฤติกรรมทางสังคม สามารถศึกษาและเป็นแนวทาง ในการจัดกิจกรรมสำหรับเด็กปฐมวัย โดยการใช้การจัดกิจกรรมเล่นเกมการศึกษา เป็นวิธีการที่จะช่วยให้จัดการเรียนการสอนได้ สอดคล้องกับช่วงอายุของเด็ก

โพสต์โดย หญิง : [6 มี.ค. 2567 (13:28 น.)]
อ่าน [1112] ไอพี : 118.173.55.87
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,785 ครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ร่างพระราชบัญญัติการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....

เปิดอ่าน 10,369 ครั้ง
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา
เปิดกลุ่มงานเงินเดือนดี๊ดีสำหรับคนเก่งภาษา

เปิดอ่าน 28,184 ครั้ง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง
9 อาการป่วยเพราะน้ำ(ในตัว) ขึ้น-ลง

เปิดอ่าน 16,916 ครั้ง
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://
ความแตกต่างระหว่าง http:// กับ https://

เปิดอ่าน 13,988 ครั้ง
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่
ลี กวน ยู บุรุษผู้ยิ่งใหญ่

เปิดอ่าน 7,996 ครั้ง
4 ขั้นตอน วิธีปลูกผักสลัดลงดิน สีสันน่ากิน ปลูกง่าย
4 ขั้นตอน วิธีปลูกผักสลัดลงดิน สีสันน่ากิน ปลูกง่าย

เปิดอ่าน 16,965 ครั้ง
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย
ติดตั้งสายดินปักขวด อันตราย

เปิดอ่าน 9,252 ครั้ง
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!
Robovi-nano สุดยอดหุ่นยนต์จิ๋ว!!!

เปิดอ่าน 10,908 ครั้ง
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์
ทำไมจึงตื่นเต้นกันนักหนาเมื่อญี่ปุ่นค้นพบ แหล่งแร่โลหะหายาก ที่เกาะมินามิโตริ โดย โกวิท วงศ์สุรวัฒน์

เปิดอ่าน 19,478 ครั้ง
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?
ของพรีเมี่ยมคืออะไร ?

เปิดอ่าน 33,819 ครั้ง
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ
การลาศึกษาต่อต่างประเทศ

เปิดอ่าน 26,685 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556
ดาวน์โหลดเอกสารมาตรฐานห้องสมุดโรงเรียน ฉบับใหม่ ปี 2556

เปิดอ่าน 11,519 ครั้ง
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"
"ครู" ผู้เปลี่ยนชีวิต "ศิษย์"

เปิดอ่าน 9,673 ครั้ง
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู
อัตลักษณ์ของคนกระทรวงเสมา : อัตลักษณ์วิชาชีพครู

เปิดอ่าน 12,432 ครั้ง
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ
ซึ้งมาก! บัณฑิตจุฬาฯ ก้มกราบพ่อพนง.ขับรถเก็บขยะทั้งชุดครุย พร้อมเล่าเรื่องประทับใจ

เปิดอ่าน 82,353 ครั้ง
สรุปสูตรวงรี
สรุปสูตรวงรี
เปิดอ่าน 12,906 ครั้ง
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน
คลิปการทำให้เสื้อที่ซักเรียบเหมือนรีด ด้วยน้ำแข็งเพียง 3ก้อน
เปิดอ่าน 9,690 ครั้ง
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
เปิดอ่าน 642 ครั้ง
"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?
"สูงวัย เนือยนิ่ง ทอดหุ่ยกับสมองเสื่อม" พฤติกรรมแบบไหน ทำให้เกิดความเสี่ยง?
เปิดอ่าน 11,548 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ