|
|
ชื่อผลงานวิจัย รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1
ผู้วิจัย ดร.กัมพล เจริญรักษ์
ปีที่ทำวิจัยเสร็จ 2566
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการพัฒนาข้อตกลงใน การพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษา 2) เพื่อสร้างรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษา 3) เพื่อศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษา และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 การดำเนินการวิจัยแบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือขั้นตอนที่ 1 ศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลในการให้สัมภาษณ์ ได้แก่ ประธานกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการศึกษา 10 คน และประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 102 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบสัมภาษณ์และแบบสอบถามความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษาในการกำหนดจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่และร้อยละ ขั้นตอนที่ 2 สร้างรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูลได้แก่ ผู้ทรงคุณวุฒิ 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบบันทึกการจัดสนทนากลุ่ม ขั้นตอนที่ 3 ศึกษาผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 กลุ่มผู้ให้ข้อมูล ได้แก่ ผู้บริหารการศึกษา 3 คน ผู้อำนวยการกลุ่ม/หน่วยในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 10 คน คณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ ประเมินผลและนิเทศการศึกษา (ก.ต.ป.น.) 9 คน ประธานกลุ่มเครือข่ายส่งเสริมประสิทธิภาพการจัดการศึกษา 10 คน ศึกษานิเทศก์ จำนวน 10 คน และประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 102 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ คู่มือการใช้รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา แบบสรุปผลและแบบติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการบริหารจัดการงานตามจุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ความถี่และร้อยละ ขั้นตอนที่ 4 ประเมินรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ประชากร ได้แก่ ผู้บริหารสถานศึกษา 102 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แบบประเมินรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย 4 ด้าน คือด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความเป็นไปได้ ด้านความเหมาะสม และด้านความถูกต้องครอบคลุม ค่าความเชื่อมั่นของแบบประเมินทั้งฉบับเท่ากับ 0.93 มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อระหว่าง 0.250.74 สถิติที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการวิจัย พบว่า
1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบันและปัญหาการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษา พบว่า 1) เป็นการดำเนินงานตามข้อตกลงในการพัฒนางานในปีแรก ทำให้ผู้บริหารสถานศึกษายังขาดความรู้ ความเข้าใจ ขาดความมั่นใจในการเขียนข้อตกลงในการพัฒนางานประเด็นท้าทายไม่ตรงกับปัญหาหรือสภาพบริบทของสถานศึกษา นวัตกรรมหรือวิธีดำเนินการและวิธีการประเมินตามข้อตกลงในการพัฒนางานไม่ชัดเจน ต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเพราะเป็นเรื่องใหม่ เกิดการลองผิดลองถูก วงรอบการทำข้อตกลงในการพัฒนางานไม่สอดคล้องกับปีการศึกษา 2) ผลการกำหนดจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 จำนวน 6 จุดเน้น คือ (1) ความปลอดภัยของสถานศึกษา (2) การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (3) การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ (4) การพัฒนาทักษะอาชีพ (5) การพัฒนาทักษะชีวิต และ (6) การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและทักษะในศตวรรษที่ 21
2. ผลการสร้างรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 พบว่า รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงใน การพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด้วย 1) หลักการและเหตุผล 2) วัตถุประสงค์ 3) รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาฯ 4) วิธีดำเนินการตามรูปแบบ และ 5) การติดตามและประเมินผล
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 พบว่า 1) ผลการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการปฏิบัติงานด้านการบริหารจัดการงานตามจุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ในภาพรวมเฉลี่ยส่วนใหญ่โรงเรียนมีผลการปฏิบัติระดับคุณภาพดีมาก จำนวน 72 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 70.58 ระดับคุณภาพดี จำนวน 23 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 22.55 และระดับคุณภาพปานกลาง จำนวน 6 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 5.89 ตามลำดับ โดยจุดเน้นที่มีผล การปฏิบัติระดับคุณภาพดีมาก 3 ลำดับแรก คือ จุดเน้นที่ 6 การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมและทักษะในศตวรรษที่ 21 รองลงมาคือ จุดเน้นที่ 5 การพัฒนาทักษะชีวิต และจุดเน้นที่ 2 การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามลำดับ จุดเน้นที่มีผลการปฏิบัติระดับคุณภาพดีมากต่ำสุด คือ จุดเน้นที่ 3 การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการบริหารจัดการและการเรียนรู้ 2) ผลการติดตาม ตรวจสอบและประเมินผล การบริหารจัดการงานที่เป็นวิธีปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของสถานศึกษาโดยรวมตามจุดเน้นทั้ง 6 จุดเน้นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 ส่วนใหญ่โรงเรียนมีผลการปฏิบัติอยู่ในระดับคุณภาพดีมาก จำนวน 70 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 68.63 รองลงมาคือ ระดับคุณภาพดี จำนวน 23 โรงเรียน คิดเป็นร้อยละ 22.55 และไม่มีโรงเรียนใดมีคุณภาพระดับคุณภาพปรับปรุง ตามลำดับ
4. ผลการประเมินรูปแบบการพัฒนาข้อตกลงในการพัฒนางานของผู้บริหารสถานศึกษาตามจุดเน้นสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปทุมธานี เขต 1 โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณารายด้าน พบว่า มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน โดยเรียงลำดับจากค่าเฉลี่ยมากไปหาน้อย ได้แก่ ด้านความเป็นประโยชน์ ด้านความเหมาะสม ด้านความเป็นไปได้ และด้านความถูกต้องครอบคลุม ตามลำดับ
|
โพสต์โดย พล : [27 พ.ย. 2566 (12:45 น.)] อ่าน [1283] ไอพี : 1.179.133.170
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 18,529 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,262 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,322 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,440 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,074 ครั้ง
| เปิดอ่าน 13,350 ครั้ง
| เปิดอ่าน 15,602 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,979 ครั้ง
| เปิดอ่าน 48,609 ครั้ง
| เปิดอ่าน 10,129 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,294 ครั้ง
| เปิดอ่าน 14,414 ครั้ง
| เปิดอ่าน 17,629 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,712 ครั้ง
| เปิดอ่าน 9,597 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 38,701 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,957 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,961 ครั้ง
| เปิดอ่าน 61,519 ครั้ง
| เปิดอ่าน 1,148 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|