ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

1. นวัตกรรม รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

2. ชื่อผู้สร้าง

ชื่อ..............พิศสมัย.......... นามสกุล.............วงษา.................ตำแหน่ง.......ผู้อำนวยการโรงเรียน...........................

โรงเรียน.........วัดบ้านสระ................เขต/อำเภอ......สามชุก......จังหวัด....สุพรรณบุรี.....

3. แนวทางการคิดค้นนวัตกรรม การสร้างนวัตกรรมใหม่

4. ประเภทของนวัตกรรม การนิเทศการจัดการศึกษา

5. ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

การพัฒนาคุณภาพการศึกษาและมาตรฐานในการจัดการศึกษาเพื่อให้มีสอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม ตามที่ราชกิจจานุเบกษา (2561: 34) ระบุถึงยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติฉบับแรกของประเทศไทยตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยจะต้องนำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้ประเทศไทยบรรลุวิสัยทัศน์ที่ว่า “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วย การพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนเพื่อต้องการที่จะยกระดับการพัฒนาประเทศในทุกมิติไปสู่เป้าหมายการเป็นประเทศที่พัฒนาแล้วที่ถูกขับเคลื่อนโดยภูมิปัญญาและนวัตกรรมในอีก 20 ปีข้างหน้า ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการวางรากฐานการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของประเทศอย่างเป็นระบบโดยจำเป็นต้องมุ่งเน้น การพัฒนาและยกระดับคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ดี เก่งและมีคุณภาพพร้อมที่จะพัฒนาและขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้าได้อย่างเต็มศักยภาพ “คนไทยในอนาคตจะต้องมีความพร้อมทั้งด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านสติปัญญา มีจิตสาธารณะ มีความรับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น เป็นผู้มัธยัสถ์ อดออม โอบอ้อมอารี มีวินัย รักษาศีลธรรม มีพัฒนาการที่ดีรอบด้านและมีสุขภาวะที่ดีในทุกช่วงวัย รวมทั้งเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลัก การคิดที่ถูกต้อง มีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 มีทักษะสื่อสารภาษาอังกฤษและภาษาที่ 3 และอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรักการเรียนรู้และการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตสู่การเป็นคนไทยที่มีทักษะสูง เป็นนวัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่และอื่น ๆ โดยมีสัมมาชีพตามความถนัดของตนเอง”

นอกจากนี้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 แก้ไขเพิ่มเติม ได้กำหนดจุดมุ่งหมายและหลักการของการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นในเรื่องของคุณภาพและมาตรฐานการศึกษา และบัญญัติสาระในหมวดที่ 1 มาตรา 6 ว่าด้วยการจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและวัฒนธรรมในการดำรงชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ในหมวด 4 มาตรา 22 กล่าวว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่านักเรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่านักเรียนมีความสำคัญที่สุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้นักเรียนสามารถพัฒนาตามธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการจัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของนักเรียน โดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล ฝึกทักษะ กระบวนการคิดการจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา จัดกิจกรรมให้นักเรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น ทำเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ ให้มีสัดส่วนสมดุลกัน รวมทั้งปลูกฝังคุณธรรม ค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ในทุกวิชา ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยความสะดวกเพื่อให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้และมีความรอบรู้ รวมทั้งสามารถใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้ ทั้งนี้ ผู้สอนและนักเรียนอาจเรียนรู้ไปพร้อมกันจากสื่อการเรียนการสอนและแหล่งวิทยาการประเภทต่าง ๆ จัดการเรียนรู้ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่ที่มีการประสานความร่วมมือกับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่าย เพื่อร่วมกันพัฒนานักเรียนตามศักยภาพ มาตรา 30 ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมให้ผู้สอนสามารถวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละระดับการศึกษา ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (2560: 122) กล่าวว่ากระทรวงศึกษาธิการได้เห็นความสำคัญในการพัฒนาคน อันเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของประเทศ จึงได้กำหนดนโยบายแผนการดำเนินงานเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้นักเรียนได้รับการพัฒนาให้มีศักยภาพสู่มาตรฐานสากลในการจัดการศึกษาให้นักเรียนบรรลุตามมาตรฐานเป็นที่ยอมรับและสะท้อนถึงคุณภาพของการจัดการศึกษาอย่างแท้จริง

การนำหลักสูตรสู่การปฏิบัติมีความคาดหวังที่สำคัญในการยกระดับคุณภาพการศึกษาของประเทศไทยสู่ความเป็นสากล มีศักยภาพทัดเทียมนานาประเทศในศตวรรษที่ 21 ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน (2561: 1) ได้กำหนดจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายในด้านทักษะและความสามารถ คือ ชั้น ป. 1 - 3 นักเรียนมีทักษะความสามารถในการอ่านออก เขียนได้ คิดเลขเป็น มีทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ป. 4 - 6 อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขคล่อง ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ม. 1 - 3 แสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ใช้เทคโนโลยี เพื่อการเรียนรู้ มีทักษะการคิดขั้นสูง ทักษะชีวิต ม. 4 - 6 แสวงหาความรู้เพื่อแก้ปัญหาใช้เทคโนโลยี เพื่อการเรียนรู้ใช้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) มีทักษะการคิดขั้นสูง รวมทั้งมีทักษะชีวิต ทักษะการสื่อสารตามช่วงวัยในทุกช่วงชั้น ประกอบกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. 2560) และมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัดและสาระการเรียนรู้ที่ได้กำหนดให้การวัดและประเมินผลการเรียนรู้เป็นส่วนหนึ่งของการประกันคุณภาพการศึกษา เพื่อให้ได้ข้อมูลสารสนเทศที่จำเป็นใน การพิจารณาว่านักเรียนเกิดคุณภาพการเรียนรู้ตามผลการเรียนรู้ของหลักสูตร สะท้อนจุดเน้น การพัฒนานักเรียนหรือไม่ ซึ่งกำหนดให้มีการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ใน 4 ระดับ ได้แก่ ระดับชั้นเรียน ระดับสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษาและระดับชาติ โดยมีเจตนารมณ์เช่นเดียวกัน คือ ต้องการสะท้อนภาพการจัดการศึกษาว่าสามารถพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามมาตรฐานที่กำหนดได้มากน้อยเพียงใด การวัดและประเมินผลการเรียนรู้ทั้ง 4 ระดับ จึงเป็นกิจกรรมที่สำคัญยิ่งที่จะสะท้อนถึงผลการจัดการศึกษา ช่วยให้ผู้เรียนได้รู้ถึงศักยภาพในสมรรถนะความสามารถหรือผลสัมฤทธิ์ของตนเองได้เป็นอย่างดี ตลอดจนศักยภาพที่ตนมีว่าต้องได้รับ การปรับปรุงแก้ไข หรือเรื่องใดที่สมควรได้รับการพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนได้พัฒนาตนเองได้เต็มตามศักยภาพ รวมทั้งยังมุ่งพัฒนานักเรียนให้เป็นคนเก่ง คนดี และมีความสุข มีศักยภาพในการศึกษาต่อและประกอบอาชีพ เป้าหมายและตัวบ่งชี้การปฏิรูปการศึกษาในทศวรรษที่สอง คือ เป้าหมายที่ 1 ให้คนไทยและการศึกษาไทยมีคุณภาพและได้มาตรฐานระดับสากล โดยมีตัวบ่งชี้และค่าเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน คือ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในวิชาหลักจากการทดสอบระดับชาติมีคะแนนเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 50 จากเป้าหมายและตัวบ่งชี้ดังกล่าว จุดเน้นของการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจะประเมินเพื่อศึกษาและพัฒนาผลสัมฤทธิ์นักเรียนให้เข้าสู่มาตรฐาน เพื่อเป็นหลักประกันการเรียนรู้ (Accountability) และเตรียมการให้ผู้เรียนมีความพร้อมสำหรับรองรับการประเมิน ทั้งการทดสอบระดับชาติหรือระดับนานาชาติ โดยจะมุ่งประเมินผลสัมฤทธิ์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิชาหลัก เพื่อเป็นการกระตุ้นและเตรียม ความพร้อมให้กับนักเรียนล่วงหน้าในการรองรับการทดสอบระดับชาติที่มีรูปแบบการประเมินที่หลากหลาย ตอบสนองตามเป้าหมายของการปฏิรูปในทศวรรษที่สอง ผลการประเมินที่ได้จะเป็นข้อมูลสำคัญที่สะท้อนคุณภาพการดำเนินงานการจัดการศึกษาของสถานศึกษา เขตพื้นที่การศึกษา และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่จำเป็นต้องมีข้อมูลผลการเรียนรู้ เพื่อปรับปรุง พัฒนาและการเตรียมความพร้อมของนักเรียน และเป็นตัวบ่งชี้คุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานในภาพรวม เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการกำหนดนโยบาย และ การวางแผนในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา

จากความสำคัญในการแก้ไขสภาพปัญหาดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าการนิเทศเป็นกระบวนการที่สามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมครูได้ รวมถึงยังเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เกิดการยอมรับการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาความร่วมมือ มีความรับผิดชอบร่วมกันในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของโรงเรียน ดังนั้นผู้วิจัยในฐานะผู้บริหารสถานศึกษามีหน้าที่รับผิดชอบการบริหารงานวิชาการ ซึ่งการนิเทศเป็นหนึ่งในงานฝ่ายบริหารงานวิชาการ ได้เห็นถึงความสำคัญของรูปแบบการนิเทศที่มีความเหมาะสมกับสภาพและบริบทของโรงเรียน

ผู้วิจัยในฐานะเป็นผู้บริหารสถานศึกษาที่มีหน้าที่โดยตรงในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอนของครู โดยนำสาเหตุของปัญหาและแนวทางการแก้ไขมาพัฒนารูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

6. วัตถุประสงค์

1. เพื่อศึกษาสภาพปัญหา สาเหตุ และแนวทางแก้ปัญหา

2. เพื่อสร้างและตรวจสอบรูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

3. เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

7. ขอบเขตการดำเนินงาน

7.1 กลุ่มเป้าหมาย

กลุ่มเป้าหมาย คือ ครูผู้สอน โรงเรียนวัดบ้านสระ จำนวน 6 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (purposive sampling)

7.2 ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรต้น คือ รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps

ตัวแปรตาม คือ พฤติกรรมการจัดการเรียนรู้ของครูและผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน

7.3 เนื้อหา/สาระ

รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง แบบแผนที่แสดงถึง การดำเนินงานตามขั้นตอนการนิเทศอย่างเป็นระบบที่ผสมผสานแนวคิด ทฤษฎีหลัก ประกอบด้วย การนิเทศแบบชี้แนะและการเป็นพี่เลี้ยง (Coaching and Mentoring) การนิเทศแบบกัลยาณมิตร (Friend Supervision) การนิเทศออนไลน์ (Online Supervision) และการนิเทศโดยการสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ซึ่งมีองค์ประกอบของรูปแบบการนิเทศแบบผสมผสาน ประกอบด้วยหลักการ วัตถุประสงค์ กระบวนการนิเทศ และการวัดประเมินผล โดยมีกระบวนการนิเทศ 5F’Steps ดังนี้

ขั้นตอนที่ 1 การสร้างศรัทธา (F1 – Focus on Faith)

ขั้นตอนที่ 2 วางแผนพัฒนา (F2 - Form Plan)

ขั้นตอนที่ 3 นำพาปฏิบัติ (F3 - Familiar Practice)

ขั้นตอนที่ 4 กำกับ ติดตามและประเมินผล (F4 – Follow Up)

ขั้นตอนที่ 5 พาชื่นชมยินดี สะท้อนคิด (F5 – Feedback and Feedforward)

7.4 ระยะเวลา

ระยะเวลาดำเนินการตั้งแต่ 1 ตุลาคม พ.ศ.2565 ถึง 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

8. วิธีดำเนินการ

8.1 เครื่องมือ

1) นวัตกรรม รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีองค์ประกอบสำคัญ แบ่งออกเป็น 4 ส่วน ได้แก่ 1) วัตถุประสงค์ 2) หลักการ 3) กระบวนการ 4) การวัดผลประเมินผลของรูปแบบ

2) คู่มือนวัตกรรม รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ประกอบด้วย 4 ส่วน ดังนี้ ส่วนที่ 1 บทนำ ส่วนที่ 2 หลักการ ทฤษฎี รูปแบบและเทคนิคการนิเทศ ส่วนที่ 3 รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ส่วนที่ 4 แผนการนิเทศ ส่วนที่ 5 เครื่องมือการนิเทศการศึกษา

3) เครื่องมือประเมิน ได้แก่ ฉบับที่ 1 แบบบันทึกข้อมูลจากเอกสาร ฉบับที่ 2 แบบบันทึกการประชุมสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ (PLC) ฉบับที่ 3 แบบสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ ฉบับที่ 4 แบบสังเกตพฤติกรรมการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอน ฉบับที่ 5 แบบบันทึกการประชุมสัมมนาทางวิชาการเกี่ยวกับการหลอมรวมรูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ฉบับที่ 6 แบบประเมินความถูกต้องของร่างรูปแบบฯและเอกสารประกอบร่างฯ คือ คู่มือการใช้รูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ฉบับที่ 7 แบบประเมินความเหมาะสม ความเป็นไปได้ และความเป็นประโยชน์ของร่างรูปแบบการนิเทศ 5F’Steps เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน

โพสต์โดย แวว : [19 ก.ค. 2566 เวลา 12:31 น.]
อ่าน [1865] ไอพี : 125.27.13.17
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 21,454 ครั้ง
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ
ปลูกต้นไม้เหมาะกับทิศ

เปิดอ่าน 24,589 ครั้ง
"เพกา" คืออะไร
"เพกา" คืออะไร

เปิดอ่าน 9,255 ครั้ง
ออกกำลังกายตามอารมณ์
ออกกำลังกายตามอารมณ์

เปิดอ่าน 12,798 ครั้ง
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?
"เด็กรุ่นใหม่" ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่คิด?

เปิดอ่าน 27,240 ครั้ง
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม
วันพ่อแห่งชาติ 5 ธันวาคม

เปิดอ่าน 12,876 ครั้ง
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"
รู้ไว้จะได้ไม่พลาด! ไขข้อข้องใจ "มนุษย์เงินเดือน" ในการกรอก "ภาษี"

เปิดอ่าน 16,933 ครั้ง
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ
4 เกาะที่น่าไป หลังเกษียณอายุ

เปิดอ่าน 30,829 ครั้ง
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553
พ.ร.บ.บำเหน็จบำนาญข้าราชการ (ฉบับที่ 26)พ.ศ. 2553

เปิดอ่าน 72,589 ครั้ง
World Wide Web คืออะไร
World Wide Web คืออะไร

เปิดอ่าน 2,538 ครั้ง
ใช้ถุงพลาสติกผิดประเภท…เสี่ยงมะเร็ง
ใช้ถุงพลาสติกผิดประเภท…เสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 22,404 ครั้ง
ถอนผมหงอก...ดีไหม
ถอนผมหงอก...ดีไหม

เปิดอ่าน 16,552 ครั้ง
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน
งานประจำ 7 ประการของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน

เปิดอ่าน 11,610 ครั้ง
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี
กระบวนการในการใช้หนังสือเพื่อการพัฒนาเด็กวัย 0-3 ปี

เปิดอ่าน 8,559 ครั้ง
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว

เปิดอ่าน 13,101 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 25,962 ครั้ง
คำศัพท์ OOP
คำศัพท์ OOP
เปิดอ่าน 3,116 ครั้ง
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ
วิธีจัดฮวงจุ้ยห้องนอน เสริมพลังงานดีๆ
เปิดอ่าน 9,454 ครั้ง
คลิป สวัสดีปีใหม่ จากใจ บุคลากร รพ.ตำรวจ
คลิป สวัสดีปีใหม่ จากใจ บุคลากร รพ.ตำรวจ
เปิดอ่าน 14,770 ครั้ง
30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์
30 ทริคออมเงิน ประหยัดรายจ่าย ปลดหนี้ก็ง่ายเว่อร์
เปิดอ่าน 10,051 ครั้ง
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59
เอกสารประกอบคำบรรยายประชุมขับเคลื่อนการปฏฺิรูปการศึกษาฯ โรงแรมแอมบาสเดอร์ ซิตี้ จอมเทียน พัทยา เมื่อวันที่ 11-13 พ.ค. 59

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ