ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน Smart Book

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ

ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book)

เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ผู้วิจัย นางวิชญะวรากร ไชยสวาสดิ์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ

ปีการศึกษา 2565

บทคัดย่อ

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาบริบทความพร้อมของโรงเรียนและความต้องการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ในการประดิษฐ์ท่ารำ 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 3) เพื่อทดลองใช้และหาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่พัฒนาขึ้น 3.1) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการก่อนเรียนและหลังเรียน หลังการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3.2) เพื่อประเมินความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวคิดทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ 3.3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวคิดทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 จำนวน 35 คน ที่ศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนขุนหาญ

วิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์

ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบประเมินความคิดสร้างสรรค์ แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบสอบถามความคิดเห็นผู้ปกครอง ผู้บริหาร ครู ด้านบริบทความพร้อมของโรงเรียนและความต้องการของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบสัมภาษณ์ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ(Percentages) ค่าเฉลี่ย x ̅ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน S.D.

สถิติทดสอบ t แบบไม่อิสระ (Dependent Samples)

ผลการวิจัย พบว่า

1. บริบทของโรงเรียน ความต้องการและข้อมูลพื้นฐานในการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด และความต้องการของนักเรียนและข้อมูลพื้นฐาน

ในการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 อยู่ในระดับมากที่สุด

2. ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ซึ่งมี 5 องค์ประกอบได้แก่ 1) หลักการและแนวคิดของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) กระบวนการจัดการเรียนรู้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอน คือ (1) ขั้นเตรียมความพร้อม (2) ขั้นสาธิตทักษะ (3) ขั้นเข้าและปฏิบัติตาม (4) ขั้นฝึกฝนเกิดความชำนาญ (5) ขั้นคิดริเริ่มและประยุกต์การแสดง 4) ผลที่ผู้เรียนได้รับจากการเรียนตามรูปแบบ 5) ข้อเสนอแนะในการนำรูปแบบไปใช้ โดยพบว่าประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน

(Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.92/83.81 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้

3. ประสิทธิผลของรูปแบบพบว่า 3.1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง นาฏศิลป์พื้นเมืองสร้างสรรค์ ของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนใช้รูปแบบอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.5 3.2) ความคิดสร้างสรรค์ของนักเรียนที่เกิดจากการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 5 โดยภาพรวมมีความเหมาะสมในระดับ มากที่สุด 3.3) ผลของความพึงพอใจของนักเรียน

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้นาฏศิลป์ ตามแนวทฤษฎีทักษะปฏิบัติ ร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนการสอน (Smart Book) เพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์

ในการประดิษฐ์ท่ารำ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมาก

โพสต์โดย ครูวาว : [26 มี.ค. 2566 เวลา 10:43 น.]
อ่าน [1645] ไอพี : 49.230.178.243
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 29,804 ครั้ง
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล
12 เรื่องน่ารู้ การถ่ายภาพ ด้วยกล้องดิจิตอล

เปิดอ่าน 12,354 ครั้ง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง
โรคกระดูกพรุน..ภัยเงียบที่คาดไม่ถึง

เปิดอ่าน 19,620 ครั้ง
เรียนรู้จากนิราศ
เรียนรู้จากนิราศ

เปิดอ่าน 9,795 ครั้ง
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม
เปิดม่านการศึกษา : 2 พ.ค. 59 : โดย...ครูแจ่ม

เปิดอ่าน 24,667 ครั้ง

'ฟ้าทะลายโจร' สุดยอดสมุนไพรแห่งปี

เปิดอ่าน 55,168 ครั้ง
กษัตริย์อาร์เธอร์ กับอัศวินโต๊ะกลม
กษัตริย์อาร์เธอร์ กับอัศวินโต๊ะกลม

เปิดอ่าน 17,601 ครั้ง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง
ดื่มล้างพิษ เพิ่มพลัง ตับ แข็งแรง

เปิดอ่าน 65,405 ครั้ง
ลักษณะของแสงเงาที่ใช้ในการวาดเขียน
ลักษณะของแสงเงาที่ใช้ในการวาดเขียน

เปิดอ่าน 9,594 ครั้ง
จริง...หรือ ?
จริง...หรือ ?

เปิดอ่าน 18,073 ครั้ง
คํานาม
คํานาม

เปิดอ่าน 13,104 ครั้ง
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7
น้ำประปาที่ใช้ในบ้าน สารานุกรมไทยสำหรับเยาวชนฯ เล่มที่ 7

เปิดอ่าน 27,627 ครั้ง
หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ การเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ การเปลี่ยนชื่อโรงเรียน

เปิดอ่าน 16,717 ครั้ง
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี
วิธีดูแลริมฝีปากให้สวยแดงเป็นระเรื่อ แลดูสุขภาพดี

เปิดอ่าน 10,633 ครั้ง
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด
Powerpoint บรรยายพิเศษ ดร.ชัยพฤษ์ เสรีรักษ์ ปลัดศธ. ในโครงการพัฒนาผู้บริหารสำนักงานศึกษาธิการภาค และสำนักงานศึกษาธิการจังหวัด

เปิดอ่าน 36,013 ครั้ง
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)
เอกภพสัมพัทธ์ (Relative Universe)

เปิดอ่าน 1,673 ครั้ง
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน
กรดไหลย้อน และการรักษากรดไหลย้อน
เปิดอ่าน 157,813 ครั้ง
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
ระบบข้อมูลที่มีประโยชน์สำหรับข้าราชการ สำหรับตรวจสอบวันเดือนปีที่ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์
เปิดอ่าน 13,295 ครั้ง
Google ฉลองครบรอบ 189 ปี เกรเกอร์ เมนเดล
Google ฉลองครบรอบ 189 ปี เกรเกอร์ เมนเดล
เปิดอ่าน 13,338 ครั้ง
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เทคนิคการบันทึกเบอร์โทรศัพท์ ที่มีเบอร์ต่อ
เปิดอ่าน 206,554 ครั้ง
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี
สรุปสูตรการคำนวณของสารละลาย : เคมี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ