ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ คณิตศาสตร์ ม.2

การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ครั้งนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 2 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้นตามรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์ พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนกีฬาองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2564 ที่กำลังเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 จำนวน 38 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ที่ออกแบบตามรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 3) แบบวัดความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ 4) แบบวัดความพึงพอใจสำหรับนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ 5) แบบประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิเกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้น เครื่องมือวัด และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน 6) แบบรับรองรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บของผู้ทรงคุณวุฒิ การวิเคราะห์หาคุณภาพ ของเครื่องมือ โดยหาการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (Needs Assessment) โดยผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้ มาหาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (Priority Needs Index) เพื่อจัดลำดับความต้องการจำเป็น ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) โดยใช้วิธีของโรวิเนลลี (Rovinelli) และแฮมเบิลตัน(R.H.Hambleton) หาค่าความยาก (P) และค่าอำนาจจำแนก (B) โดยหาค่าความเชื่อมั่นโดยวิธีของ โลเวทท์ (Lovett) หาคุณภาพของแบบสอบถาม หาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ( -Coefficient) โดยหาค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของครอนบาค Cronbach) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการเรียนรู้บนเว็บ (E1/E2) ตามเกณฑ์ 80/80 สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้บนเว็บ โดยใช้วิธีของกูดแมน,เพลคเทอร์ และ ชไนเดอร์

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ปีที่ 2

1.1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบของครูผู้สอน โดยการสอบถามจากครูผู้สอนรายวิชาคณิตศาสตร์ ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่จัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 6 คน พบว่า

ผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ อยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 2.64 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.23

ผู้สอนมีความต้องการรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยรวมเท่ากับ 4.61 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.34

มีค่า PNI modified อยู่ระหว่าง 0.346-0.533 ซึ่งครูมีความต้องการจำเป็น ในเรื่อง มีเนื้อหาการจัด การเรียนการสอนบนเว็บ ในรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 มากที่สุด (PNI modified = 0.533) อันดับที่ 2 รองลงมา คือ มีการวัดและการประเมินผลบนเว็บ (PNI modified= 0.517) และ อันดับที่ 3 รองลงมา คือ มีการออกแบบเป็นระบบนำเสนอถูกต้องตามลำดับขั้นของการเรียนรู้บนเว็บ และ มีกิจกรรมการเรียนรู้แต่ละแผนสอดคล้องผลการเรียนรู้ (PNI modified= 0.519)

1.2 ผลการสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีดังนี้

1.2.1 องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ Vishwanath (2006 : 115 - 116), Joyce, B. and M. Weil (2011 : 159-388), ทิศนา แขมมณี (2557 : 222) ซึ่งสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการเรียนรู้ มีองค์ประกอบสำคัญ 6 องค์ประกอบ ซึ่งประกอบด้วย 1) หลักการแนวคิด ทฤษฎี 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน

1.2.2 องค์ประกอบของการเรียนรู้บนเว็บ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ รัฐกรณ์ คิดการ (2551 : 15-20), วิชุดา รัตนเพียร(2545 : 29-35) , ใจทิพย์ ณ สงขลา (2561 : 18-28) , ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2561 : 87-94), สิรีธร ชูเผ่า และคณะ (2554 : 38), ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2554 : 91-92), สุมาลี ชัยเจริญ (2557 : 23 -25). เป็นบทเรียนบนเว็บ วิชาคณิตศาสตร์ ในรายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยอาศัยคุณลักษณะของบทเรียนบนเว็บในการออกแบบการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งมีองค์ประกอบ 4 องค์ประกอบ คือ 1) การบริหารจัดการ (Learning Management) 2) การจัดการเนื้อหา (Content Management) 3) การติดต่อสื่อสาร (Communications) 4) การประเมินผล (Evaluation)

1.2.3 องค์ประกอบของเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ โดยมีกิจกรรมเพื่อฝึกการคิดนอกกรอบ ตามแนวคิดของ Edward De Bono ซึ่งใช้เทคนิคในการฝึก 5 เทคนิค ดังนี้ 5.1) เทคนิคการท้าทายสมมติฐาน (Challenging Assumptions) 5.2) เทคนิคสร้างทางเลือก (The Generation of Alternatives) 5.3) เทคนิคการกระตุ้นสุ่ม (Random stimulation) 5.4) เทคนิคระดมสมอง (Brainstorming) 5.5) เทคนิคการคิดแบบแยกส่วน (Fractionation) แล้วใช้แบบทดสอบของ Torrance แบบ ก โดยการวัดแบ่งเป็น 4 องค์ประกอบ ได้แก่

1. ความคิดคล่อง (Fluency)

2. ความคิดยืดหยุ่น (Flexibility)

3. ความคิดริเริ่ม (Originality) และ

4. ความคิดละเอียดลออ (Elaboration)

2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชาพื้นฐานคณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยผู้ทรงคุณวุฒิได้ประเมินความเหมาะสมของร่างรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยรวม มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.77 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.15

3. ผลการใช้รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2

3.1. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาขึ้นตาม

รูปแบบการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วย

การคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้น มีค่าเท่ากับ 81.84/80.26 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3.2 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6753 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 67.53

3.3 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ด้านความคิดคล่องแคล่ว มีค่าเท่ากับ 0.6900 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทาง การเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 69.00 ความคิดยืดหยุ่น มีค่าเท่ากับ 0.5333 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 53.33 ความคิดริเริ่ม มีค่าเท่ากับ 0.6142 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 61.42 และความคิดละเอียดลออ มีค่าเท่ากับ 0.6478 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียน 64.78 ตามลำดับ

3.4 ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ

การเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ด้วยการคิดนอกกรอบ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า มีความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ตุ๊กติ๊ก : [25 มี.ค. 2566 เวลา 07:07 น.]
อ่าน [1577] ไอพี : 223.24.169.21
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 15,103 ครั้ง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง
7 เคล็ดลับเพิ่มความสูงให้กับตัวเอง

เปิดอ่าน 12,706 ครั้ง
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน
เรื่องที่คุณครูต้องอ่าน

เปิดอ่าน 12,266 ครั้ง
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน
"กะเพรา" ราชินีสมุนไพร โบราณเชื่อช่วยให้อายุยืน

เปิดอ่าน 17,627 ครั้ง
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้
มติ ครม. ให้หยุดยาว ช่วงเข้าพรรษา 4-8 ก.ค.นี้

เปิดอ่าน 17,434 ครั้ง
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551
ฤกษ์ดี ฤกษ์มงคล เดือนธันวาคม 2551

เปิดอ่าน 32,339 ครั้ง
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ
ทำไมแมลงปอต้องบินไปแตะผิวน้ำ

เปิดอ่าน 12,698 ครั้ง
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม
การจัดโต๊ะหมู่บูชา ที่ถูกต้องในพิธีต่างๆ โดยกรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรม

เปิดอ่าน 13,194 ครั้ง
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"
เรียนยังไงให้ "เก่ง" และต้องเก่งกว่าครูบาอาจารย์ คำแนะนำจากนักเรียนทุนชื่อ "ดร.ป๋วย"

เปิดอ่าน 19,254 ครั้ง
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน

เปิดอ่าน 77,764 ครั้ง
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย
ประโยชน์ของ "หอยขม" ตามตำราแพทย์แผนไทย

เปิดอ่าน 28,885 ครั้ง
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)
SCORM (Shareable Content Object Reference Model)

เปิดอ่าน 14,521 ครั้ง
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA
เอกสารแนบคำขอในระบบ DPA

เปิดอ่าน 10,563 ครั้ง
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่
ทำความรู้จัก Education3.0 เทคโนโลยี เพื่อการศึกษายุคใหม่

เปิดอ่าน 9,517 ครั้ง
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์
ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับโครงงานวิทยาศาสตร์

เปิดอ่าน 15,757 ครั้ง
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร
1 กันยายน วันรำลึกถึง สืบ นาคะเสถียร

เปิดอ่าน 17,651 ครั้ง
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
ด้วยหน้าที่ ด้วยหัวใจ "ชีวิตครูบนดอย" โรงเรียนแม่สะเต เชียงใหม่ เรือจ้างผู้ไม่ท้อถอย
เปิดอ่าน 81,706 ครั้ง
ละครสังคีต
ละครสังคีต
เปิดอ่าน 11,762 ครั้ง
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
ฉาวอีก! คลิปตำรวจไทย... "มาๆๆ ร้อยเดียวพอ"
เปิดอ่าน 17,972 ครั้ง
การบริหารกล้ามเนื้อตา
การบริหารกล้ามเนื้อตา
เปิดอ่าน 825 ครั้ง
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38
ผลวิจัยชี้การมีกิจกรรมทางกายทั้งวันธรรมดาและวันหยุด ช่วยลดการเจ็บป่วยโรคหัวใจและสมอง มากถึงร้อยละ 38

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ