ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564

บทสรุปของผู้บริหาร

รายงานการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564 มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564 โดยใช้โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ประเมินทั้ง 4 ด้าน ดังนี้ ด้านสภาวะแวดล้อม (Context Evaluation : C) ด้านปัจจัยนำ (Input Evaluation : I) ด้านกระบวนการ (Process Evaluation : P) ด้านผลผลิต (Product Evaluation : P) 2) เพื่อประเมินด้านความพึงพอใจในการดำเนินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564 ประชากรในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ คณะครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ถึง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 รวมทั้งสิ้น จำนวน 97 คน เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการ 7 ตอน คือ ตอนที่ 1 ข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถามเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับข้อมูลทั่วไปของผู้ตอบแบบสอบถาม มีลักษณะเป็นแบบตรวจสอบรายการ (Check List) ตอนที่ 2 - 7 แบบสอบถามเป็นแบบมาตราประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 120 ข้อ ตอนที่ 7 แบบสอบถามแบบปลายเปิด การวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

สรุปผลการประเมิน

1. ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบซิปป์ (CIPP Model) ของแดเนียล แอล สตัฟเฟิลบีม (Daneil L. Stufflebeam) ในการประเมิน 4 ด้าน ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่า ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ ด้านผลิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.25 σ = 0.27 ) รองลงมา คือ ด้านสภาวะแวดล้อม มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.24 σ = 0.25 ) และค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ ด้านปัจจัยนำเข้า มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.00 σ = 0.28 )

2. ผลการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากำแพงเพชร เขต 2 ปีการศึกษา 2564 ผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.31 σ = 0.29 )โดย ค่าเฉลี่ยสูงที่สุด คือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาให้เกิดคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตรงตามเป้าหมายของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.47 σ = 0.52 ) รองลงมา คือ นักเรียนได้รับการส่งเสริมพัฒนาเต็มตามศักยภาพให้สมบูรณ์ทั้งอารมณ์ สังคม และสติปัญญามีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.44 σ = 0.52 ) และค่าเฉลี่ยต่ำสุด คือ โรงเรียนส่งเสริมให้ผู้ปกครองชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมของระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( μ = 4.14 σ = 0.58 )

ข้อเสนอแนะ

จากผลการศึกษาครั้งนี้ผู้ศึกษามีข้อเสนอแนะสำหรับการพัฒนาโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านศรีไพศาล ปีการศึกษา 2564 ในครั้งต่อไปดังนี้

1.1 การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนควรทำอย่างจริงจัง และต่อเนื่องให้เป็นระบบ โดยผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องได้มีส่วนร่วมวางแผน ร่วมคิดร่วมทำในทุกขั้นตอนให้มากยิ่งขึ้น

1.2 การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเป็นงานที่ทุกฝ่ายต้องให้ความสำคัญและให้ความร่วมมือในการดำเนินงาน โดยต้องสร้างความเข้าใจให้ตระหนักถึงความสำคัญและ ปรับทัศนคติ เพื่อให้เกิดเป้าหมายเดียวกัน

1.3 สถานศึกษาควรมีวิธีการในการเสริมสร้างขวัญและกำลังใจที่ดี มีการยกย่อง เชิดชูเกียรติแก่ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ในโอกาสสำคัญของโรงเรียน เพื่อเน้นให้เห็นความสำคัญของ ผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีต่อการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน อันจะก่อให้เกิดความรัก ความศรัทธา ความเชื่อมั่น และกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเท เต็มใจ จริงจัง และต่อเนื่องตลอดไป

1.4 การดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนต้อง ได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครอง ชุมชน และหน่วยงานภายนอกเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา และพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนของ โรงเรียนต่อ ไปเพื่อการดูแล ป้องกัน และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน

ข้อเสนอแนะในการศึกษาครั้งต่อไป

2.1 ควรมีการประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่อง 3 - 5 ปี เพื่อนำข้อมูลสารสนเทศที่ได้มาเปรียบเทียบผลการดำเนินการ ในด้านของการสร้างความยั่งยืน และต่อเนื่องของกิจกรรม

2.2 ควรมีการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา โดยการใช้รูปแบบการวิจัย ในรูปแบบผสม คือ การนำวิจัยเชิงปริมาณและการวิจัยเชิงคุณภาพ มาประเมินเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการประเมินโครงการให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

2.3 ควรทำการศึกษาความสัมพันธ์การมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือ นักเรียนระหว่างสถานศึกษาและชุมชน

2.4 ควรมีการศึกษาการเปรียบเทียบการดำเนินงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนจากสถานศึกษาของรัฐและเอกชน

โพสต์โดย นนท์ : [10 ก.พ. 2566 เวลา 08:56 น.]
อ่าน [1789] ไอพี : 113.53.44.229
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 8,635 ครั้ง
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้
ฟังเอ็มพี 3 ดังสุดๆ วันละแค่ 1 ชม. อันตรายร้ายแรงถึงหูดับได้

เปิดอ่าน 46,510 ครั้ง
ศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์
ศ.ดร.ชัยยงค์ พรหมวงศ์

เปิดอ่าน 18,630 ครั้ง
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ
คุณครูที่กำลังมองหาวิธีเพิ่มความน่าสนใจของนักเรียนในห้องเรียน ลองใช้วิธีนี้ดูสิ

เปิดอ่าน 59,312 ครั้ง
5 เกมส์ฝึกพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skills) ในห้องเรียน
5 เกมส์ฝึกพูดภาษาอังกฤษ (Speaking Skills) ในห้องเรียน

เปิดอ่าน 26,096 ครั้ง
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.
ผู้มีสิทธิรับเงินสงเคราะห์ครอบครัวสมาชิก ช.พ.ค.

เปิดอ่าน 13,003 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

เปิดอ่าน 10,126 ครั้ง
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"
"เผยแผ่" กับ "เผยแพร่"

เปิดอ่าน 12,115 ครั้ง
แก้อาการนอนไม่หลับโดยใช้เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8
แก้อาการนอนไม่หลับโดยใช้เทคนิคการหายใจแบบ 4-7-8

เปิดอ่าน 11,788 ครั้ง
ขั้วโลกเหนือจะหมดสิ้นทะเลน้ำแข็ง ใน 20-30 ปีหน้า
ขั้วโลกเหนือจะหมดสิ้นทะเลน้ำแข็ง ใน 20-30 ปีหน้า

เปิดอ่าน 35,487 ครั้ง
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ
1 กรกฎาคม วันสถาปนาลูกเสือแห่งชาติ

เปิดอ่าน 12,905 ครั้ง
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ
สมองเสื่อมหรือ... ขี้ลืมธรรมดาๆ

เปิดอ่าน 30,021 ครั้ง
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)
การคูณด้วยไม้ตะเกียบแบบบูรณาการ (ชมคลิป)

เปิดอ่าน 10,284 ครั้ง
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้
วิธีเอาตัวรอดจากไฟไหม้

เปิดอ่าน 30,883 ครั้ง
กระบี่กระบอง
กระบี่กระบอง

เปิดอ่าน 7,960 ครั้ง
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้

เปิดอ่าน 15,533 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
ปฏิรูปการศึกษาไทย เป็นเรื่องที่เหลวไหลและเลื่อนลอย
เปิดอ่าน 15,927 ครั้ง
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
การประยุกต์ทฤษฎีการเรียนรู้ในระบบการศึกษาทางไกลอิเล็กทรอนิกส์
เปิดอ่าน 35,669 ครั้ง
น้ำข้าวกล้องงอก ของดีทำง่าย
น้ำข้าวกล้องงอก ของดีทำง่าย
เปิดอ่าน 20,806 ครั้ง
ประโยชน์ของมะระ
ประโยชน์ของมะระ
เปิดอ่าน 16,396 ครั้ง
แนะนำ 5 เทคนิคดีๆ ในการฝึก
แนะนำ 5 เทคนิคดีๆ ในการฝึก 'อ่านภาษาอังกฤษ' ให้เก่งขั้นเทพ…!!

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ