ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนบ้านโคกสิเหรง ปีการศึกษา 2565

บทสรุป

ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก

(Active Learning) โรงเรียนบ้านโคกสิเหรง ปีการศึกษา 2565

ผู้รายงาน : นายศราวุธ สุวรรณวรบุญ

หน่วยงาน : โรงเรียนบ้านโคกสิเหรง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3

ปีที่รายงาน : 2566

การประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนบ้านโคกสิเหรง ปีการศึกษา 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบท (Context Evaluation) ประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) และประเมินผลผลิต (Product Evaluation) ของโครงการ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้มีจำนวน 164 คน ประกอบด้วย ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียนโรงเรียนบ้านโคกสิเหรง ปีการศึกษา 2565 กำหนดขนาดกลุ่มตัวอย่างโดยใช้สูตรยามาเน่ สุ่มกลุ่มตัวอย่างแบบชั้นภูมิตามสถานะของกลุ่มตัวอย่างโดยกำหนดสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างตามสถานะครบทั้ง 4 ประเภท คือ ครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียน จากนั้นสุ่มอย่างเป็นระบบในสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครองนักเรียน สำหรับสัดส่วนกลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนกำหนดกลุ่มตัวอย่างแบบเจาะจงโดยใช้นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลสำหรับการประเมินโครงการในครั้งนี้ประกอบไปด้วยแบบสอบถามฉบับที่ 1 - 6 และแบบตรวจสอบรายการปริมาณแหล่งเรียนรู้ซึ่งเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูลผ่านกระบวนการหาคุณภาพก่อนนำไปใช้ในการเก็บข้อมูล วิเคราะห์ผลการประเมินโครงการด้านบริบท ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการและด้านผลผลิตโดยการหาค่าเฉลี่ย ("X" ̅) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)

ผลการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โรงเรียนบ้านโคกสิเหรง ปีการศึกษา 2565 สรุปได้ดังนี้

1. ผลการประเมินบริบท (Context Evaluation) ของโครงการซึ่งเป็นการประเมินความสอดคล้องของวัตถุประสงค์ของโครงการกับการแก้ปัญหา ความต้องการและนโยบายระดับต่าง ๆ ตามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยภาพรวมมีความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.83, S.D.= 0.37) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ทุกข้อคำถามมีความสอดคล้องอยู่ในระดับมากที่สุดทุกข้อ ข้อที่มีค่าเฉลี่ยของระดับความสอดคล้องมากที่สุดคือข้อที่ 4 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสถานศึกษา ปี พ.ศ. 2565 ("X" ̅ = 5.00, S.D.= 0.00) รองลงมาคือข้อที่ 2 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ. 2565 และข้อที่ 3 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับนโยบายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3 ปี พ.ศ. 2565 ("X" ̅ = 4.93, S.D.= 0.26) และข้อที่น้อยที่สุดคือข้อ 7 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครองและคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และข้อ 8 วัตถุประสงค์ของโครงการสอดคล้องกับแนวทางในการแก้ไขปัญหาตามบริบทของสถานศึกษา ("X" ̅ = 4.67, S.D.= 0.49)

2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation) ของโครงการซึ่งเป็นการประเมินความพร้อมด้านบุคลากร งบประมาณ วัสดุ อุปกรณ์และสถานที่ รวมถึงความพร้อมด้านการบริหารจัดการตามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยภาพรวมมีพร้อมอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.66, S.D.= 0.47) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีค่าเฉลี่ยของความพร้อมมากที่สุดคือความพร้อมด้านการบริหารจัดการอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.90, S.D.= 0.42) รองลงมาคือความพร้อมด้านบุคลากร ("X" ̅ = 4.71, S.D.= 0.46) และด้านที่น้อยที่สุดคือความพร้อมด้านวัสดุ อุปกรณ์และสถานที่อยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.44, S.D.= 0.50)

3. ผลการประเมินกระบวนการ (Process Evaluation) ของโครงการซึ่งเป็นการประเมินความเหมาะสมของกระบวนการในการดำเนินโครงการ 4 ขั้นตอนประกอบด้วย การวางแผน (Plan) การลงมือปฏิบัติ (Do) การตรวจสอบ (Check) และการปรับปรุง (Act) ตามความคิดเห็นของครูและบุคลากรทางการศึกษาโดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.63, S.D.= 0.52) เมื่อพิจารณาเป็นรายขั้นตอนทั้ง 4 ขั้นตอนมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกขั้นตอน ขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยของความเหมาะสมของกระบวนการในการดำเนินโครงการมากที่สุดคือขั้นตอนการวางแผน (Plan) อยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.88, S.D.= 0.33) รองลงมาคือขั้นตอนการตรวจสอบ (Check) ("X" ̅ = 4.75, S.D.= 0.44) และขั้นตอนที่มีค่าเฉลี่ยของความเหมาะสมของกระบวนการในการดำเนินโครงการน้อยที่สุดคือการปรับปรุง (Act) อยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.57, S.D.= 0.50)

4. ผละการประเมินผลผลิต (Product Evaluation) แบ่งเป็น 2 รายการดังนี้

4.1 ปริมาณแหล่งเรียนรู้

ผลการประเมินโครงการด้านผลผลิต (Product Evaluation) ในส่วนของปริมาณแหล่งเรียนรู้ที่กำหนดเป็นเป้าหมายในการดำเนินโครงการจำนวน 16 แหล่งเรียนรู้ พบว่า แหล่งเรียนรู้ได้รับการพัฒนาเพื่อส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกทั้งหมด 16 แหล่งเรียนรู้ เป็นไปตามเป้าเหมายที่กำหนดไว้ในโครงการ คิดเป็นร้อยละ 100

4.2 ความพึงพอใจของครูและบุคลากรทางการศึกษา คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองนักเรียนและนักเรียน โดยจำแนกผลการประเมินรายสถานะดังนี้

4.2.1 ผลการประเมินความพึงพอใจของครูและบุคลากรทางการศึกษาที่มีต่อโครงการโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.60, S.D.= 0.49) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจมากที่สุดคือข้อ 13 แหล่งเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นสร้างการรับรู้ทางกายภาพที่ส่งผลต่อเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้นักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.93, S.D.= 0.27) รองลงมาคือข้อ 2 แหล่งเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นสามารถบูรณาการการจัดการเรียนรู้ได้หลากหลายสาระวิชามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.86, S.D.= 0.36) และน้อยที่สุดคือข้อ 14 แหล่งเรียนรู้ที่พัฒนาขึ้นส่งเสริมบรรยากาศการมีส่วนร่วมในการอภิปราย มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.36, S.D.= 0.50)

4.2.2 ผลการประเมินความพึงพอใจของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อโครงการโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.58, S.D.= 0.54) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจมากที่สุดคือข้อ 1 ท่านมีความพึงพอใจแหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 5.00, S.D.= 0.00) รองลงมาคือข้อ 2 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นมีความสวยงามเหมาะสมและเอื้อต่อการเรียนเรียนรู้ของนักเรียนและข้อ 5 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นอำนวยความสะดวกให้ผู้เรียนในการค้นคว้าหาความรู้มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.80, S.D.= 0.45) และน้อยที่สุดคือข้อ 6 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นส่งผลดีต่อการเรียนรู้ของนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.20, S.D.= 0.45) และข้อ 8 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นมีผลทำให้นักเรียนมีความเข้าใจในบทเรียนเป็นอย่างดีและมีความกระตือรือร้นในการทำกิจกรรมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.20, S.D.= 0.84)

4.2.3 ผลการประเมินความพึงพอใจของผู้ปกครองนักเรียนที่มีต่อโครงการโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.51, S.D.= 0.64) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจมากที่สุดคือข้อ 1 ท่านมีความพึงพอใจแหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.83, S.D.= 0.38) รองลงมาคือข้อ 2 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นมีความสวยงามเหมาะสมและเอื้อต่อการเรียนเรียนรู้ของนักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.80, S.D.= 0.40) และน้อยที่สุดคือข้อ 3 แหล่งเรียนรู้ที่โรงเรียนพัฒนาขึ้นสามารถเร้าความสนใจให้นักเรียนของท่านอยากมาเรียนที่โรงเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.23, S.D.= 0.83)

4.2.4 ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อโครงการโดยภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.55, S.D.= 0.57) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อคำถามที่มีค่าเฉลี่ยของความพึงพอใจมากที่สุดคือข้อ 13 นักเรียนมีความพึงพอใจกับการได้เรียนรู้และปฏิบัติจริงในการดำเนินกิจกรรมที่ห้องคอมพิวเตอร์มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.92, S.D.= 0.27) รองลงมาคือข้อ 3 นักเรียนรู้สึกพึงพอใจกับบรรยากาศห้องเรียนของนักเรียนได้รับการตกแต่งจากป้ายนิเทศ แผนภาพความรู้หรือการมีมุมความรู้ในห้องเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ("X" ̅ = 4.78, S.D.= 0.42) และน้อยที่สุดคือข้อ 8 นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นจากป้ายนิเทศ แผนภาพความรู้ต่าง ๆ หรือมุมความรู้ที่อยู่ภายในห้องเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก ("X" ̅ = 4.25, S.D.= 0.78)

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

ผลการประเมินโครงการพัฒนาแหล่งเรียนรู้เพื่อส่งเสริมจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดซึ่งถือว่าโครงการประสบความสำเร็จและมีประสิทธิภาพดังนั้นโรงเรียนต่าง ๆ สามารถนำโครงการและรูปแบบการประเมินไปปรับประยุกต์ใช้ในการพัฒนาแหล่งเรียนรู้ในสถานศึกษาตามความเหมาะกับบริบทแต่ละโรงเรียน

การดำเนินการในการประเมินโครงการในแต่ละด้านควรมีการแต่งตั้งผู้รับผิดชอบและกำหนดขอบข่ายหน้าที่ในการดำเนินงานอย่างชัดเจนเพื่อให้การประเมินโครงการในแต่ละด้านมีแนวปฏิบัติที่ชัดเจนและการดำเนินงานเป็นไปด้วยความราบรื่น

การดำเนินโครงการและการประเมินโครงการจะมีโอกาสประสบความสำเร็จมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยสองส่วนที่สำคัญคือบุคลากรมีความรู้ความเข้าใจและมีความพร้อมในการดำเนินโครงการ และปัจจัยที่สำคัญอีกประการก็คืองบประมาณที่เพียงพอและบุคลากรฝ่ายบริหารงานงบประมาณมีความรู้ความสามารถด้านการเงินและงบประมาณและมีความพร้อมในการเบิกจ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามระเบียบของทางราชการเพื่อให้การดำเนินงานขับเคลื่อนไปได้อย่างรวดเร็วและบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ

ข้อเสนอแนะในการประเมินครั้งต่อไป

ควรมีการนำรูปแบบการประเมินโครงการแบบ CIPP Model ไปใช้ในการประเมินกับโครงการอื่น ๆ ในแผนปฏิบัติการของโรงเรียนเพื่อให้ได้มาซึ่งสารสนเทศเชิงลึกในการตัดสินใจและใช้เป็นแนวทางในการดำเนินโครงการให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลกับโรงเรียน ใช้ทรัพยากรที่ได้รับจัดสรรจากรัฐในการดำเนินโครงการอย่างคุ้มค่าและโรงเรียนมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง

ควรมีการสร้างเครือข่ายความร่วมมือจากหน่วยงานอื่นในระดับเดียวกัน อาทิ โรงเรียนข้างเคียงหรือโรงเรียนทั่วไปทั้งในสังกัดเดียวกันหรือต่างสังกัด หน่วยงานต้นสังกัด รวมถึงสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษา อาทิ อาจารย์มหาวิทยาลัย เป็นต้น ในการร่วมกันจัดทำโครงการและประเมินโครงการเพื่อให้เกิดความหลากหลายทางความคิดและมุมมองในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาในแต่ละมิติที่มีความครอบคลุม ต่อเนื่องและยั่งยืน

โพสต์โดย แพรวา : [5 ก.พ. 2566 เวลา 04:17 น.]
อ่าน [1668] ไอพี : 171.7.248.55
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 10,454 ครั้ง
8 สิ่งต่อไปนี้ดีต่อผิวจริง ๆ
8 สิ่งต่อไปนี้ดีต่อผิวจริง ๆ

เปิดอ่าน 138,002 ครั้ง
ศาสตราจารย์ศิลป์  พีระศรี
ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี

เปิดอ่าน 23,763 ครั้ง
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”
“อ่านคล่อง เขียนคล่อง คิดเลขเป็น”

เปิดอ่าน 12,300 ครั้ง
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ
แนะปรับกระจก-ท่านั่งเหมาะสม ลดเสี่ยงอุบัติเหตุ

เปิดอ่าน 9,194 ครั้ง
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557
สภาวการณ์การศึกษาไทยในเวทีโลก ปี 2557

เปิดอ่าน 20,629 ครั้ง
ปฏิรูปการศึกษา เรียนรู้จากผู้ประสบผลสำเร็จ : "เกาหลีใต้"
ปฏิรูปการศึกษา เรียนรู้จากผู้ประสบผลสำเร็จ : "เกาหลีใต้"

เปิดอ่าน 18,967 ครั้ง
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน
ร่างหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินการปฏิบัติงานของข้าราชการ และ[คำสั่งมอบอำนาจการสั่งเลื่อนขั้นเงินเดือน

เปิดอ่าน 29,267 ครั้ง
ดื่ม"ชามะเขือพวง" ต้านเบาหวาน-มะเร็ง
ดื่ม"ชามะเขือพวง" ต้านเบาหวาน-มะเร็ง

เปิดอ่าน 18,738 ครั้ง
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน
ปลูกมะนาวนอกฤดู 1 ไร่ ได้ 1 แสน

เปิดอ่าน 58,555 ครั้ง
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?
ที่ราชพัสดุ คืออะไร?

เปิดอ่าน 16,017 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 31,261 ครั้ง
พายุไต้ฝุ่น
พายุไต้ฝุ่น

เปิดอ่าน 40,641 ครั้ง
ทำไมขี้จิ้งจกถึงมีสองสี
ทำไมขี้จิ้งจกถึงมีสองสี

เปิดอ่าน 17,534 ครั้ง
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite
สร้าง logo Icon ใส่ใน Favorite

เปิดอ่าน 10,291 ครั้ง
พสกนิกร..สุดปีติ ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ จาก รพ.ศิริราช
พสกนิกร..สุดปีติ ในหลวงทรงโบกพระหัตถ์ จาก รพ.ศิริราช

เปิดอ่าน 16,382 ครั้ง
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่
หมอชี้ "มะเร็งตับอ่อน" ไม่กินเหล้าสูบบุหรี่ก็เป็นได้ แนะ 5 ทำ 5 ไม่
เปิดอ่าน 4,434 ครั้ง
ภาษาอีสานน่ารู้
ภาษาอีสานน่ารู้
เปิดอ่าน 12,013 ครั้ง
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
โลโก้ วันเด็กแห่งชาติ ปี 2563
เปิดอ่าน 18,438 ครั้ง
อาร์คิมีดีส
อาร์คิมีดีส
เปิดอ่าน 17,709 ครั้ง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง
ฮาอึแตก! คลิปชายเปลือยออกจากห้องในโรงแรม แต่ประตูห้องดันล็อกอัตโนมัติ เป็นท่านจะทำยังไง

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ