|
|
บทคัดย่อ
การวิจัยและพัฒนา เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ Inquiry Cycle และ Active Learning เพื่อสร้างเสริมทักษะการคิดวิเคราะห์และคุณลักษณะจิตวิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เกี่ยวกับการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ inquiry cycle และ active learning 2) พัฒนาและประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ inquiry cycle และ active learning 3) ทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ inquiry cycle และ active learning และ 4) ประเมินประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ inquiry cycle และ active learning กลุ่มตัวอย่างแยกเป็น ผู้ให้ข้อมูลพื้นฐาน ได้แก่ ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์ 7 คน ผู้ทรงคุณวุฒิ 5 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ) 12 คน ผู้ทดลองใช้รูปแบบ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านบ่อ) ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 32 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย คือ ประเด็นสนทนากลุ่ม แบบสอบถาม รูปแบบการจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดการสอนแบบ Inquiry Cycle และ Active Learning แบบประเมินทักษะ การคิดวิเคราะห์ แบบประเมินคุณลักษณะจิตวิทยาศาสตร์ และแบบสอบถามความคิดเห็น วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าสถิติร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน หาค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และการวิเคราะห์เนื้อหา
สรุปผลการวิจัย
1. ผลการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน พบว่า การจัดการเรียนรู้โดยใช้กระบวนการวัฏจักร การสืบเสาะหาความรู้ (inquiry cycle) และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (active learning) เป็นวิธีการจัดการเรียนการสอนที่ใช้กิจกรรมที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ กิจกรรมที่ใช้จะต้องเป็นกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้ผู้เรียนแก้ปัญหาด้วยวิธีการและการหาคำตอบที่เกิดจากการศึกษาค้นคว้า โดยผู้เรียนจะแสวงหาความรู้และลงมือปฏิบัติหรือกระทำจริงจนเกิดความรู้ด้วยตนเอง ทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ ทักษะการจำแนก ทักษะการจัดหมวดหมู่ ทักษะการเชื่อมโยง ทักษะการสรุปความ และ ทักษะการประยุกต์ โดยนักเรียนต้องการให้เน้นการทำกิจกรรมเป็นกลุ่ม และให้มีกิจกรรมปฏิบัติมากกว่าการบรรยาย เมื่อนักเรียนเกิดข้อสงสัยต้องอนุญาตให้สอบถามครูได้ทั้งในและนอกห้องเรียน ด้านครูและผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้เห็นว่า เมื่อนักเรียนเกิดข้อสงสัยต้องสามารถสอบถามครูได้ทั้งในและนอกห้องเรียน ส่วนความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้ เห็นว่ารูปแบบที่ออกแบบไว้มีความเหมาะสม เห็นควรให้มีการดำเนินการได้
2. ผลการพัฒนาและประเมินประสิทธิภาพของรูปแบบ พบว่า รูปแบบฉบับร่าง มีองค์ประกอบสำคัญ คือ 1) องค์ประกอบเชิงโครงสร้าง ได้แก่ หลักการ และ วัตถุประสงค์ 2) องค์ประกอบเชิงกระบวนการ ได้แก่ การจัดการเรียนการสอนโดยใช้ชุดการสอนแบบกระบวนการวัฏจักรการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้นตอน (inquiry cycle : 5Es) และการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (active learning) มีส่วนประกอบสำคัญคือ แผนการจัดการเรียนรู้ ใบความรู้ ใบงานหรือใบกิจกรรม แบบทดสอบการเรียนรู้ และ 3) องค์ประกอบด้านเงื่อนไขในการนำรูปแบบไปใช้ ผลการประเมินประสิทธิภาพโดยผู้เชี่ยวชาญ ปรากฏว่า รูปแบบมีค่าความสอดคล้องเชิงโครงสร้างและกระบวนการด้านความสมเหตุสมผล เชิงทฤษฎี ด้านความเป็นไปได้ และด้านความสอดคล้องเชิงโครงสร้างของรูปแบบในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน และประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบจากการทดลองแบบภาคสนามผ่านเกณฑ์คุณภาพตามที่กำหนด
3. ผลการทดลองใช้ พบว่า ประสิทธิภาพ (E1/E2) ของรูปแบบการจัดการเรียนการสอนโดยใช้วิธีแบบเปิด (Open Approach) เพื่อส่งเสริมทักษะภูมิศาสตร์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด
4. ผลการประเมินประสิทธิผลของรูปแบบ พบว่า ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ในภาพรวมอยู่ในระดับสูง นักเรียนมีคุณลักษณะจิตวิทยาศาสตร์อยู่ในระดับมากที่สุด และความคิดเห็นของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบในภาพรวมอยู่ในระดับเห็นด้วยมาก
|
โพสต์โดย kai : [4 ม.ค. 2566 เวลา 06:20 น.] อ่าน [1775] ไอพี : 125.25.69.238
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก
|
|
|
|
|
|
|
โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2. ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป
3. สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น
7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป
** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**
|
|
|
≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡ เปิดอ่าน 11,229 ครั้ง
| เปิดอ่าน 44,158 ครั้ง
| เปิดอ่าน 21,006 ครั้ง
| เปิดอ่าน 32,714 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,234 ครั้ง
| เปิดอ่าน 52,469 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,814 ครั้ง
| เปิดอ่าน 16,506 ครั้ง
| เปิดอ่าน 51,351 ครั้ง
| เปิดอ่าน 67,715 ครั้ง
| เปิดอ่าน 26,892 ครั้ง
| เปิดอ่าน 8,683 ครั้ง
| เปิดอ่าน 20,376 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,438 ครั้ง
| เปิดอ่าน 12,440 ครั้ง
| |
|
เปิดอ่าน 76,544 ครั้ง
| เปิดอ่าน 19,226 ครั้ง
| เปิดอ่าน 25,435 ครั้ง
| เปิดอ่าน 7,959 ครั้ง
| เปิดอ่าน 11,954 ครั้ง
|
|
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด
|