ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียน บ้านพรุแชง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียน

บ้านพรุแชง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินบริบทของโครงการ เกี่ยวกับความสอดคล้องของความต้องการจำเป็น วัตถุประสงค์โครงการ และความเป็นไปได้ของโครงการ ประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการเกี่ยวกับความเพียงพอของบุคลากร งบประมาณ และทรัพยากรต่าง ๆ ประเมินกระบวนการดำเนินโครงการเกี่ยวกับการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และประเมินผลผลิตของโครงการเกี่ยวกับปริมาณและคุณภาพของผลผลิตผู้เข้าร่วมโครงการ โดยใช้รูปแบบการประเมินแบบ CIPP Model กลุ่มเป้าหมายของการประเมินโครงการครั้งนี้คือประชากรทั้งหมด ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา จำนวน 1 คน ครูผู้สอน จำนวน 16 คน กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 138 คน และผู้ปกครองนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-มัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 138 คน ได้มาโดยการเลือกแบบแบบเจาะจง ( Purposive Selection )

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล จำนวน 6 ฉบับ ผ่านการตรวจสอบความตรงของเนื้อหาโดยผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน จากนั้นนำไปหาค่าอำนาจจำแนกและค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นทั้งฉบับก่อนนำไปใช้ โดยค่าสัมประสิทธิ์ความเชื่อมั่นของแบบประเมินด้านบริบท เท่ากับ 0.97 แบบประเมินด้านปัจจัยเบื้องต้น เท่ากับ 0.95 แบบประเมินด้านกระบวนการ เท่ากับ 0.90 แบบประเมินด้านผลผลิต เท่ากับ 0.97 และแบบประเมินความพึงพอใจต่อโครงการ จำนวน 2 ฉบับ ฉบับที่ 1 เท่ากับ 0.99 ฉบับที่ 2 เท่ากับ 0.93 การเก็บรวบรวมข้อมูลโดยผู้ประเมินเก็บรวบรวมเอง วิเคราะห์ข้อมูลด้วยโปรแกรมสำเร็จรูป โดยใช้สถิติ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) เปรียบเทียบกับเกณฑ์ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ ดังนี้

ผลการประเมิน

ผลการประเมินโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านพรุแชง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 3 โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับ

มาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้

1. ด้านบริบท (Context) ของโครงการ ภาพรวมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด โดยมีความสอดคล้องกับความต้องการจำเป็น วัตถุประสงค์ของหน่วยงานต้นสังกัดและโรงเรียน รวมทั้งมีความเป็นไปได้ อยู่ในระดับมาก

2. ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ของโครงการ ภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด ได้แก่ ความเพียงพอของบุคลากร งบประมาณ สื่อ เอกสาร วัสดุต่าง ๆ และการมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย

3. ด้านกระบวนการ (Process) ของโครงการ ภาพรวมมีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด โดยการดำเนินงานตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน และการนิเทศ กำกับ ติดตาม ประเมินผลพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน มีระดับการปฏิบัติอยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนการวางระบบการบริหารจัดการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน การให้บริการแนะแนวในโรงเรียน การมีส่วนร่วมของภาคีเครือข่าย และการผดุงรักษา อยู่ในระดับมาก

4. ด้านผลผลิต (Product) ของโครงการโดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยนักเรียน ได้รับการพิทักษ์ คุ้มครอง และดูแลช่วยเหลืออย่างทั่วถึงทันเวลาและถูกวิธี ได้รับการส่งเสริมให้มีทักษะชีวิตและมีความสามารถในการปรับตัว ได้รับการพัฒนาในด้านคุณลักษณะ มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด ตามลำดับ

ความพึงพอใจต่อโครงการพัฒนาระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนบ้านพรุแชง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 3 โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ใน ระดับมากที่สุด ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยนักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด คือการให้ความรู้แก่นักเรียนเรื่องสารเสพติดและการป้องกันตนเองจากสารเสพติด กรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครองนักเรียนมีความพึงพอใจมากที่สุด คือการช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กิจกรรมโฮมรูมในทุกเช้าก่อนเข้าเรียน การเสริมสร้างทักษะชีวิตและการคุ้มครองนักเรียน ตามระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน 5 ขั้นตอน

นักเรียนที่มีพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ ลดลงทุกรายการ ผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดไว้ โดยรายการที่ลดลงมากที่สุดคือ ไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงกฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคับ ไม่มีการวางแผนการเรียน และการใช้ ชีวิตประจำวัน และไม่ยอมรับข้อบกพร่องของตนเอง

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะในการนำผลการประเมินไปใช้

1. ควรกำหนดหลักการและเหตุผลของโครงการให้สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการและหน่วยงานต้นสังกัดมากยิ่งขึ้น

2. ผู้บริหารและครูผู้รับผิดชอบควรศึกษาหาความรู้ความเข้าใจและความสามารถในการดำเนินโครงการเพิ่ม

3. ควรให้การสนับสนุนจัดงบประมาณจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนานักเรียนตามความเหมาะสม โดยการขอความร่วมมือกับคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและภาคีเครือข่ายเพื่อ

สนับสนุนกิจกรรม

4. การจัดกิจกรรมส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน ควรสำรวจความต้องการของนักเรียน สร้างบรรยากาศที่ดี และควรมีการประชาสัมพันธ์และการสื่อสารที่รวดเร็วระหว่างโรงเรียนและผู้ปกครอง

นักเรียน

5. การจัดกิจกรรมการป้องกันและแก้ไขปัญหาผู้เรียน ควรจัดกิจกรรมที่สอดคล้องกับ

ปัญหาของนักเรียน ส่งเสริมสนับสนุนการจัดกิจกรรมตามความสนใจและความถนัดของผู้เรียนตาม

ขอบข่ายคุณลักษณะอันพึงประสงค์ และควรชี้แจงและทำความเข้าใจกับผู้ปกครองนักเรียนอย่างเป็น

ขั้นตอนถึงแนวทางและวิธีการแก้ปัญหาผู้เรียน

6. ควรนิเทศ ติดตาม และประเมินผลตามกระบวนการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้เทคโนโลยีหรือนวัตกรรมเพื่อได้สารสนเทศมาใช้ในการพัฒนาการดูแลช่วยเหลือนักเรียนอย่างต่อเนื่องมากยิ่งขึ้น

ข้อเสนอแนะในการประเมินโครงการครั้งต่อไป

1. ควรศึกษากลยุทธ์การดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อพัฒนาคุณภาพผู้เรียนในศตวรรษที่ 21

2. ควรศึกษาการพัฒนารูปแบบการดำเนินงานระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (COVID-19)

3. ควรศึกษาแนวทางการช่วยเหลือและแก้ไขปัญหาพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ของนักเรียนโดยใช้หลักการมีส่วนร่วม

โพสต์โดย โอ๋ : [8 ธ.ค. 2565 เวลา 08:47 น.]
อ่าน [1900] ไอพี : 119.42.95.168
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,115 ครั้ง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาระดับภูมิภาค สะท้อนความล้มเหลวของใคร หรือจะหนีเสือปะจระเข้ โดย ณรงค์ ขุ้มทอง
ปฏิรูปโครงสร้างการศึกษาระดับภูมิภาค สะท้อนความล้มเหลวของใคร หรือจะหนีเสือปะจระเข้ โดย ณรงค์ ขุ้มทอง

เปิดอ่าน 9,384 ครั้ง
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข
ปัญหาทั่วไปในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่และวิธีการแก้ไข

เปิดอ่าน 18,497 ครั้ง
ดอกไม้ 5 ชนิด พิชิตโรค
ดอกไม้ 5 ชนิด พิชิตโรค

เปิดอ่าน 18,048 ครั้ง
กระเจี๊ยบเขียว
กระเจี๊ยบเขียว

เปิดอ่าน 6,597 ครั้ง
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ
คู่มือการสอนอ่านเขียนโดยการแจกลูกสะกดคำ

เปิดอ่าน 27,387 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 38,336 ครั้ง
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก
โอลิมปิก : ประวัติกีฬาโอลิมปิก

เปิดอ่าน 3,653 ครั้ง
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ
ปลูก กล้วยน้ำว้านวลจันทร์ สายพันธุ์ดี สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ

เปิดอ่าน 54,633 ครั้ง
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการปฏิรูปการศึกษา

เปิดอ่าน 9,429 ครั้ง
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว
ออกกำลังหนักช่วงสั้นๆ หนีโรคหัวใจได้ดีกว่าออกกำลังระยะยาว

เปิดอ่าน 79,545 ครั้ง
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม
เสียงทุ้ม-เสียงแหลม

เปิดอ่าน 13,254 ครั้ง
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก
ชมคลิป ครูนครสวรรค์ แปลงร่างเป็นฮีโร่ เด็กๆ ชอบมาก

เปิดอ่าน 90,703 ครั้ง
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ

เปิดอ่าน 11,908 ครั้ง
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ
เครื่องดื่มยามเช้าที่เหมาะกับตัวคุณ

เปิดอ่าน 11,072 ครั้ง
เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)
เผยแพร่แนวทางการจัดทำรายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา SAR (ไฟล์ Word)

เปิดอ่าน 17,932 ครั้ง
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที
สอนประวัติศาสตร์ภายใน 7 นาที
เปิดอ่าน 7,960 ครั้ง
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
อย. ยัน ไม่มีน้ำว่านหางจระเข้รักษาอีโบลาได้
เปิดอ่าน 942 ครั้ง
ENNXO ชวนอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง ปี 2024 ที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิต
ENNXO ชวนอ่านหนังสือพัฒนาตนเอง ปี 2024 ที่ต้องอ่านสักครั้งในชีวิต
เปิดอ่าน 291,811 ครั้ง
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
โปรแกรมการวิเคราะห์การหาค่า t score เหมาะสำหรับทำผลงานวิชาการเกณฑ์ใหม่
เปิดอ่าน 11,847 ครั้ง
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี
8 วินัยใหม่เพิ่มเงินเก็บทั้งปี

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ