ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ชื่อเรื่อง : รายงานการประเมินโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ชื่อผู้รายงาน : จันทนา แจ้งประจักษ์

ปีที่ประเมิน : 2563

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model มีวัตถุประสงค์ของการประเมิน ดังนี้ 1) ประเมินด้านบริบท (Context Evaluation: C) 2) ประเมินด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I) 3) ประเมินด้านกระบวนการ (Process Evaluation: P) 4) ประเมินด้านผลผลิต (Product Evaluation: P) 5) ประเมินโครงการ ด้านผลกระทบ (Impact Evaluation: I) 6) ประเมินโครงการด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation: E) 7) ประเมินโครงการด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation: S) และ 8) ประเมินโครงการด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportability Evaluation: T) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการ มีจำนวนทั้งสิ้น 311 คน ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษา ครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และนักเรียน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลมี 8 ฉบับ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ผลการประเมินและการหาคุณภาพเครื่องมือ ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าความเชื่อมั่น ค่าความตรงเชิงเนื้อหา และวิเคราะห์เนื้อหา

สรุปผล

การประเมินโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST สรุปผล ดังนี้

การประเมินโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model ทั้ง 8 ด้าน เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน เรียงลำดับจากมากไปน้อย ได้แก่ ด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation: S) ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด และด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportability Evaluation: T) ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation: E) ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด และ ด้านกระบวนการ (Process Evaluation: P) ผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด

ส่วนการประเมินด้านผลผลิต ผู้ประเมินได้ประเมินจากวัตถุประสงค์ของโครงการ 3 ข้อ ดังนี้ 1) นักเรียนมีความรู้เรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 – 6 มีผลการทดสอบผ่านร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด 2) สังเกตการปฏิบัติใน การป้องกันตนเองจากอุบัติเหตุและอุบัติภัย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีการปฏิบัติ ในระดับปฏิบัติเป็นประจำ และ 3) มีเจตคติที่ดีต่อการปฏิบัติกิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัย มีการปฏิบัติในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ตอนที่ 1 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบท (Context Evaluation: C) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบท (Context Evaluation: C) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีความสอดคล้องในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมินพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน มีความสอดคล้องในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความสอดคล้อง ในระดับมาก

ตอนที่ 2 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้า (Input Evaluation: I) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวมมีความเพียงพอในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมินพบว่า ผู้บริหารสถานศึกษาและครูผู้สอน มีความเพียงพอในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความเพียงพอในระดับมากที่สุด

ตอนที่ 3 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการ (Process Evaluation: P) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการ (Process Evaluation: P) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และนักเรียน โดยรวม มีความสอดคล้องในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมินพบว่า ผู้ปกครองนักเรียน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ นักเรียน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด และครูผู้สอน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด

ตอนที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลผลิต (Products Evaluation: P) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

4.1 ผลการทดสอบความรู้ความเข้าใจเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 3 โดยรวมผลการทดสอบก่อนเรียน ได้คะแนน 1,427 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 60.52 ของคะแนนเต็ม หลังเรียนได้คะแนน 1,941 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 82.39 ของคะแนนเต็ม และคะแนนและค่าเฉลี่ยร้อยละของความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 จำนวน 144 คน โดยรวมผลการทดสอบก่อนเรียนได้คะแนน 1,821 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 63.25 ของคะแนนเต็ม หลังเรียนได้คะแนน 2,391 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.04 ของคะแนนเต็ม

4.2 ผลการสังเกตพฤติกรรมที่แสดงออกในการปฏิบัติตนถึงความปลอดภัยในสถานศึกษา

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีการปฏิบัติเป็นประจำ ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด

4.3 ผลการวิเคราะห์เจตคติต่อการปฏิบัติกิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัย

นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 – 6 มีเจตคติต่อการปฏิบัติกิจกรรมสถานศึกษาปลอดภัย ในระดับเห็นด้วยอย่างยิ่ง

ตอนที่ 5 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลกระทบ (Impact Evaluation: I) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านผลกระทบ (Impact Evaluation: I) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมิน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ผู้ปกครองนักเรียน มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูผู้สอน มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความคิดเห็นในระดับมาก

ตอนที่ 6 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation: E) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประสิทธิผล (Effectiveness Evaluation: E) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมิน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ผู้ปกครองนักเรียน มีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูผู้สอน มีความพึงพอใจ ในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีความพึงพอใจในระดับมาก ตามลำดับ

ตอนที่ 7 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation: S) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านประเมินด้านความยั่งยืน (Sustainability Evaluation: S) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมิน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ครูผู้สอน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ผู้ปกครองนักเรียน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด ตามลำดับ

ตอนที่ 8 ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportability Evaluation: T) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model

ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportability Evaluation: T) ของโครงการส่งเสริมสถานศึกษาปลอดภัย โดยใช้ CIPPIEST Model โดยการประเมินของครูผู้สอน ผู้ปกครองนักเรียน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยรวม มีความคิดเห็นในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาตามสถานภาพของผู้ประเมิน โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย ดังนี้ ผู้ปกครองนักเรียน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด รองลงมา คือ ครูผู้สอน มีการปฏิบัติ ในระดับมากที่สุด และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการปฏิบัติในระดับมากที่สุด ตามลำดับ

โพสต์โดย krueast : [25 ก.ย. 2565 เวลา 08:45 น.]
อ่าน [1987] ไอพี : 182.232.62.204
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,012 ครั้ง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง
ปี 2558 จะยาวขึ้น 1 วินาที เพราะโลกหมุนช้าลง

เปิดอ่าน 8,774 ครั้ง
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?
ระบบประกันคุณภาพทางการศึกษา ถึงเวลาทบทวนวิธีการแล้วหรือยัง?

เปิดอ่าน 14,772 ครั้ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง
กิน เบต้าแคโรทีน มากไป เสี่ยงมะเร็ง

เปิดอ่าน 452,011 ครั้ง
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับสมบูรณ์(4 สี)
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับสมบูรณ์(4 สี)

เปิดอ่าน 15,546 ครั้ง
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ
เทคนิคซ้อนฉากหลังของหนังฮอลลีวูด เจ๋งจริงๆ

เปิดอ่าน 76,452 ครั้ง
รู้ยังหมากัดคน บางกรณีฟ้องเจ้าของหมาไม่ได้นะ
รู้ยังหมากัดคน บางกรณีฟ้องเจ้าของหมาไม่ได้นะ

เปิดอ่าน 53,822 ครั้ง
หนังสือดี 100 เล่ม ที่ควรอ่าน-มีไว้ในห้องสมุด
หนังสือดี 100 เล่ม ที่ควรอ่าน-มีไว้ในห้องสมุด

เปิดอ่าน 9,954 ครั้ง
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21
ราชภัฏมหาวิทยาลัยในศตวรรษที่ 21

เปิดอ่าน 11,239 ครั้ง
สิทธิบัตร อัจฉริยะ
สิทธิบัตร อัจฉริยะ

เปิดอ่าน 12,041 ครั้ง
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้
การถ่ายภาพอาหารด้วยสมาร์ทโฟนช่วยลดน้ำหนักได้

เปิดอ่าน 27,377 ครั้ง
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"
วิวัฒนาการของ "บัตรประจำตัวประชาชน"

เปิดอ่าน 15,390 ครั้ง
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล
ทำไมคนไทยปฏิรูปการศึกษาไม่ได้ผล

เปิดอ่าน 8,123 ครั้ง
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม
โลกกำลังก้าวสู่อินเทอร์เน็ตที่ปลอดภัยกว่าเดิม

เปิดอ่าน 84,216 ครั้ง
"สมุยหอม หรือ หมุย" พืชสารพัดประโยชน์
"สมุยหอม หรือ หมุย" พืชสารพัดประโยชน์

เปิดอ่าน 36,018 ครั้ง
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ
หลักเกณฑ์การคำนวณค่าเสื่อมราคาสินทรัพย์ถาวรสำหรับหน่วยงานภาครัฐ

เปิดอ่าน 19,830 ครั้ง
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
มือถือและคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กควรอยู่ในห้องเรียนหรือไม่? โดย : ทีปกร วุฒิพิทยามงคล
เปิดอ่าน 12,583 ครั้ง
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
ปิดเทอมเพิ่มทักษะประสบการณ์อยู่ที่บ้านได้ความรู้คู่เพลิดเพลิน แหล่งเรียนรู้ออนไลน์ เที่ยวไป เรียนไปกับ สสวท.
เปิดอ่าน 9,686 ครั้ง
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
แนะพ่อแม่ติดโปรแกรมไอซีทีเฮาส์คีปเปอร์
เปิดอ่าน 8,559 ครั้ง
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว
เตรียมตัวไว้! "เฟซบุ๊ก" จะให้ใช้รูปโปรไฟล์เป็นวีดีโอสั้นๆได้แล้ว
เปิดอ่าน 7,521 ครั้ง
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก
รื้อระบบ - แก้ยกแผงดันมหาวิทยาลัยไทยสู่ระดับโลก

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ