ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
เผยแพร่ผลงาน ประเมินโครงการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม

ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นายปรีชา อิสสระ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) เป็นกรอบแนวคิดในการประเมินโดยประเมิน 4 ด้าน มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการของโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการ กลุ่มตัวอย่างในการประเมินประกอบด้วย ผู้บริหารและครู จำนวน 84 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 335 คน และผู้ปกครอง จำนวน 306 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน โดยยกเว้นผู้บริหาร และตัวแทนครู เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมีจำนวน 4 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ พร้อมคาถามปลายเปิด (Open-Ended Questionair) เพื่อทราบข้อเสนอแนะทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .93 - .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินพบว่า

การประเมินโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 สรุปผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู พบว่า โดยภาพรวม มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณา ในแต่ละด้าน พบว่าด้านความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( = 4.57, S.D. = .36) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ( ชื่อเรื่อง รายงานการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564

ผู้รายงาน นายปรีชา อิสสระ รองผู้อำนวยการโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์”

ปีที่รายงาน ปีการศึกษา 2564

บทสรุป

รายงานการประเมินโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้ระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 โดยใช้รูปแบบการประเมินรูปแบบซิปป์ (CIPP Model) ของสตัฟเฟิลบีม (Stufflebeam) เป็นกรอบแนวคิดในการประเมินโดยประเมิน 4 ด้าน มีวัตถุประสงค์ เพื่อประเมินด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อม ด้านปัจจัยนำเข้า ด้านกระบวนการของโครงการ และด้านผลผลิตของโครงการ กลุ่มตัวอย่างในการประเมินประกอบด้วย ผู้บริหารและครู จำนวน 84 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 335 คน และผู้ปกครอง จำนวน 306 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 13 คน โดยยกเว้นผู้บริหาร และตัวแทนครู เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินมีจำนวน 4 ฉบับ มี 2 ลักษณะ ได้แก่ แบบสอบถามที่มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ พร้อมคาถามปลายเปิด (Open-Ended Questionair) เพื่อทราบข้อเสนอแนะทุกฉบับมีการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือได้ค่าความเชื่อมั่นระหว่าง .93 - .98 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และ ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)

ผลการประเมินพบว่า

การประเมินโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 สรุปผลตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ดังนี้

1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านบริบทหรือสภาพแวดล้อมของโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมโรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู พบว่า โดยภาพรวม มีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณา ในแต่ละด้าน พบว่าด้านความต้องการจำเป็นในการดำเนินโครงการ มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( x̄ = 4.57, S.D. = .36) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ ( x̄ = 4.55, S.D. = .34) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านความสอดคล้องกับนโยบายหน่วยงานต้นสังกัดและเขตพื้นที่การศึกษามีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄= 4.52, S.D. = .35) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นกัน ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

2. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านปัจจัยนำเข้าของโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู พบว่า โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็น พบว่าด้านความเป็นผู้นำของผู้บริหาร มีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( x̄= 4.59, S.D. = .36) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านผู้ปกครองนักเรียนและชุมชนมีส่วนร่วมในการดำเนินงาน ( x̄= 4.54, S.D. = .32) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านความเพียงพอของงบประมาณ สื่อ เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินโครงการมีค่าเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄= 4.46, S.D. = .37) อยู่ในระดับมาก ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

3. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลด้านกระบวนการของโครงการโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมินพบว่า คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄= 4.63 , S.D. = .18) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียน ( x̄ = 4.54 , S.D. = .15) อยู่ในระดับมากที่สุด และผู้ปกครอง ( x̄ = 4.53 , S.D. = .15) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนผู้บริหารและครู ( = 4.44 , S.D. = .28) อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็น พบว่าการส่งต่อนักเรียนค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( x̄ = 4.54, S.D. = .36) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านการวางระบบริหารงานระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ( x̄ = 4.53, S.D. = .28) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านการส่งเสริมพัฒนานักเรียนหลากหลายเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄= 4.50, S.D. = 0.31) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

4. ผลการประเมินด้านผลผลิตของโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน โดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วม โรงเรียนสะเดา “ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” ปีการศึกษา 2564 ตามความคิดเห็นของผู้บริหารและครู นักเรียน ผู้ปกครอง และกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พบว่า โดยภาพรวมมีความคิดเห็นอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาแต่ละกลุ่มผู้ประเมินพบว่าคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานมีค่าเฉลี่ยสูงสุด ( x̄= 4.56 , S.D. = .22) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ นักเรียน ( x̄ = 4.54 , S.D. = .17) อยู่ในระดับมากที่สุด และผู้ปกครอง ( x̄ = 4.52 , S.D. = .17) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน ส่วนผู้บริหารและครู ( = 4.48 , S.D. = .22) อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาแต่ละประเด็น พบว่าด้านการมีสุขภาพกายสุขภาพจิต และสุขนิสัยมีค่าเฉลี่ยมากที่สุด ( x̄= 4.535 , S.D. = .36) อยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือด้านการรู้จักตนเอง และพึ่งตนเองได้ ( x̄= 4.532, S.D. = .29) อยู่ในระดับมากที่สุด ส่วนด้านการรักและเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่นเฉลี่ยต่ำสุด ( x̄= 4.520, S.D. = 0.21) อยู่ในระดับมากที่สุดเช่นเดียวกัน ผลการประเมินผ่านเกณฑ์การประเมินทั้งภาพรวมและทุกประเด็นตัวชี้วัด

ข้อเสนอแนะ

ข้อเสนอแนะสำหรับการนำผลการประเมินไปใช้

1. โรงเรียนควรนำผลการประเมินโครงการมาวิเคราะห์ หาจุดเด่น จุดที่ควรพัฒนา เพื่อกำหนดรูปแบบและแนวทางในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาในโรงเรียนตามความเหมาะสม

2. โรงเรียนควรนำรูปแบบ วิธีการและกิจกรรมต่าง ๆ ในระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนไปประยุกต์ใช้ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพแวดล้อมของโรงเรียน

3. ผู้บริหาร ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และผู้ปกครอง มีความสำคัญยิ่งต่อความสำเร็จของโครงการและควรยกย่องเชิดชูเกียรติ ประชาสัมพันธ์เผยแพร่ชื่อเสียงผลงานของบุคคล กลุ่มบุคคล หน่วยงานที่ให้การช่วยเหลือสนับสนุนโครงการด้วยรูปแบบและวิธีการที่เหมาะสม

4. ควรนำผลการประเมินโครงการเสนอต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาหรือหน่วยงานอื่น ๆ และเผยแพร่อย่างกว้างขวาง

ข้อเสนอแนะสำหรับการประเมินครั้งต่อไป

1. ควรศึกษารูปแบบหรือแนวทางในการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ที่นอกเหนือจากรูปแบบซิปป์โมเดล (CIPP Model) เพื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน

2. ควรมีการศึกษาถึงปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการดำเนินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ตามบริบทสภาพของโรงเรียนที่แตกต่างกัน เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพัฒนาการดำเนินงานตามโครงการต่อไป

3. ควรมีการศึกษาการประเมินโครงการระบบการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในเชิงคุณภาพเพื่อให้ได้ข้อมูลเชิงลึกอันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาคุณภาพการศึกษาต่อไป

โพสต์โดย เดวิด : [25 ส.ค. 2565 เวลา 11:26 น.]
อ่าน [1919] ไอพี : 171.7.232.83
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 9,844 ครั้ง
คอลัมน์ เปลี่ยนผ่าน: ได้เวลา "ปฏิรูป" ลูกเสือไทยเร่งสางปัญหา "ทุจริต" รีบปรับหลักสูตรให้ตรงใจ "ผู้เรียน-ผู้สอน"
คอลัมน์ เปลี่ยนผ่าน: ได้เวลา "ปฏิรูป" ลูกเสือไทยเร่งสางปัญหา "ทุจริต" รีบปรับหลักสูตรให้ตรงใจ "ผู้เรียน-ผู้สอน"

เปิดอ่าน 12,201 ครั้ง
สังเกตมะเร็งชนิดต่างๆ ก่อนชีวิตจะเสี่ยง
สังเกตมะเร็งชนิดต่างๆ ก่อนชีวิตจะเสี่ยง

เปิดอ่าน 13,460 ครั้ง
ประวัติความเป็นมาของยางพารา
ประวัติความเป็นมาของยางพารา

เปิดอ่าน 14,014 ครั้ง
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ
ประตูบ้าน คือ ปากแห่งโชคลาภ

เปิดอ่าน 935 ครั้ง
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"
กรมอนามัย แนะ "4 ดี เสริม 4 ห้องหัวใจแข็งแรง"

เปิดอ่าน 9,191 ครั้ง
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร
โรคภูมิแพ้ที่กิดจากอาหาร

เปิดอ่าน 25,029 ครั้ง
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"
"สธ."เตือนอย่าให้เด็กกิน "คลอโรฟิลล์"

เปิดอ่าน 19,061 ครั้ง
ระกำ
ระกำ

เปิดอ่าน 14,430 ครั้ง
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก
เผยทีเด็ดชนะใจสาวอย่างง่ายที่สุด เล่าเรื่องตลกที่ ตัวเองหน้าแตก

เปิดอ่าน 13,616 ครั้ง
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี
เหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 พ.ย. ในแต่ละปี

เปิดอ่าน 12,747 ครั้ง
ผลไม้ล้างพิษ
ผลไม้ล้างพิษ

เปิดอ่าน 55,420 ครั้ง
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย
แบ่งปันเทคนิคการอ่าน พ.ร.บ. กฎ ระเบียบต่างๆ ให้เข้าใจและจำง่าย

เปิดอ่าน 19,245 ครั้ง
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน
สมดุลของ 2 ส้อม และ 1 ไม้จิ้มฟัน

เปิดอ่าน 8,774 ครั้ง
พระบรมธาตุเจดีย์ เมืองคอน จ่อคิวสู่มรดกโลก
พระบรมธาตุเจดีย์ เมืองคอน จ่อคิวสู่มรดกโลก

เปิดอ่าน 11,236 ครั้ง
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554
ฮีโร่&วายร้าย คนเด่นโลกปี 2554

เปิดอ่าน 18,829 ครั้ง
สมุนไพร "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งตับราคาพุ่ง
สมุนไพร "เบญจอำมฤตย์" รักษามะเร็งตับราคาพุ่ง
เปิดอ่าน 11,660 ครั้ง
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?
9 สถานที่ท่องเที่ยว สุดประทับใจ คุณไปมารึยัง?
เปิดอ่าน 12,688 ครั้ง
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
สอนอย่างไรให้เด็กคิดเขียน
เปิดอ่าน 21,226 ครั้ง
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม
(ก.ค.ศ.)การพัฒนาคุณภาพของครูอาจารย์ให้เป็นบุคคลที่มีทั้งความรู้ และคุณธรรม
เปิดอ่าน 18,068 ครั้ง
ปลูกว่านเสริมชะตา
ปลูกว่านเสริมชะตา

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ