ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร ปีการศึกษา 2564

บทคัดย่อ

การประเมินโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร ปีการศึกษา 2564 เป็นการวิจัยเชิงประเมิน ผู้ประเมินเลือกใช้รูปแบบการประเมินโดยใช้รูปแบบการประเมิน CIPPIEST Model มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร ทั้ง 8 ด้านดังนี้ ประเมินด้านบริบท (Context) ด้านปัจจัยนำเข้า (Input) ด้านกระบวนการ(Process) ด้านผลผลิต (Product) ด้านผลกระทบ (Impact) ด้านประสิทธิผล (Effectiveness) ด้านความยั่งยืน (Sustainable) และด้านการถ่ายโยงความรู้ (Transportation) กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 605 คน ได้แก่ ผู้ประสานงานโครงการ จำนวน 1 คน ผู้บริหารโรงเรียน จำนวน 3 คน ครูผู้สอน จำนวน 30 คน นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ปีการศึกษา 2564 จำนวน 254 คนผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 254 คน เครือข่ายผู้ปกครอง 48 คน คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 10 คน และชุมชนจำนวน 5 คน

เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูลการประเมินครั้งนี้ มีเครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน เป็นแบบสอบถาม แบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 3 ฉบับ และแบบสัมภาษณ์จำนวน 1 ฉบับ ที่ผู้ประเมินสร้างขึ้น ดังนี้

ฉบับที่ 1. แบบสอบถามสำหรับผู้บริหารโรงเรียนและครูผู้สอน มีเนื้อหาเกี่ยวกับคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร 8 ด้าน

ฉบับที่ 2. แบบสอบถามสำหรับนักเรียน มีเนื้อหาเกี่ยวกับคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร 3 ด้าน

ฉบับที่ 3. แบบสอบถามสำหรับผู้ปกครอง คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน และ ชุมชนมีเนื้อหาเกี่ยวกับคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร 5 ด้าน

แบบสัมภาษณ์ สำหรับผู้ประสานงานโครงการ เป็นแบบสัมภาษณ์แบบมีโครงสร้าง(Structured Interview) ที่ผู้ประเมินสร้างขึ้น โดยมีประเด็นสัมภาษณ์ความคิดเห็นที่มีต่อโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบ โรงเรียนศรีนคร

การวิเคราะห์ข้อมูลใช้สถิติการแจกแจงความถี่ ค่าร้อยละ สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไป ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน สำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับระดับความคิดเห็น และการวิเคราะห์เนื้อหา สำหรับการวิเคราะห์ข้อเสนอแนะ และแบบสัมภาษณ์

ผลการประเมิน พบว่า

1) ผลการประเมินด้านบริบท โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄=4.08, S.D.=0.17) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โครงการสามารถนำไปปฏิบัติได้จริง ( x̄=4.21, S.D.=0.29) รองลงมาคือ โครงการสอดคล้องกับความต้องการของผู้เกี่ยวข้อง ( x̄=4.15, S.D.=0.07) และโครงการมีความสอดคล้องกับสภาพปัญหาของโรงเรียน ( x̄ =4.10, S.D.=0.18) ตามลำดับ

2) ผลการประเมินด้านปัจจัยนำเข้า โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.34, S.D.=0.24) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ วิทยากรแพธทูเฮลท์ เอาใจใส่ให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมตามโครงการ ( x̄=4.51, S.D.=0.23) รองลงมาคือ เนื้อหาและช่วงเวลาในการจัดกิจกรรมของโครงการเหมาะสม ( x̄ =4.47, S.D. = 0.11) และผู้บริหารเห็นความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินโครงการ ( x̄=4.31, S.D.=0.45) ตามลำดับ

3) ผลการประเมินด้านกระบวนการ โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄=4.42, S.D.=0.45) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนได้เรียนรู้การป้องกันโรคโควิด 19 อย่างหลากหลายรูปแบบ ทั้งในและนอกห้องเรียนทุกคนทุกชั้น ( x̄ =4.82, S.D.=0.42) รองลงมาคือครอบครัวมีความตระหนัก มีส่วนในการดูแล เฝ้าระวัง มีการประสานงานการป้องกันโรคโควิด19 ( x̄ =4.75, S.D.=0.13) และมีกระบวนการพัฒนาครูเรื่องสุขภาวะ ( x̄=4.54, S.D.=0.43) ตามลำดับ

4) ผลการประเมินด้านผลผลิต องค์ประกอบผู้เรียนเป็นสุข ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.64, S.D.=0.45) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ นักเรียนมีสุขภาพแข็งแรง ( x̄ =4.75, S.D.=0.11)รองลงมาคือ มีทักษะในการป้องกันตนเองจากโควิด 19 และสามารถปรับตัวและเปลี่ยนสู่ชีวิตวิถีใหม่(New Normal) ( x̄=4.52, S.D.=0.55) และนักเรียนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข ( x̄=4.46, S.D.=0.42) ตามลำดับ

องค์ประกอบโรงเรียนเป็นสุข ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.41, S.D.=0.45) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือโรงเรียนโรงเรียนมีการบริหารจัดการที่เอื้อต่อการจัดการเรียนการสอนและการสร้างเสริมสุขภาวะในการป้องกันโควิด 19 ( x̄=4.75, S.D.=0.11) รองลงมาคือ โรงเรียนมีกระบวนการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างครูผู้สอน มีการติดตามประเมินผล ภายในโรงเรียนและเครือข่ายอย่างต่อเนื่อง ( x̄ =4.33, S.D.=0.32) และโรงเรียนมีการกิจกรรม แหล่งเรียนรู้บูรณาการกระบวนการเรียนรู้ เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะ การป้องกันโรคโควิด 19 โดยสอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน ( x̄=4.21, S.D.=0.14) ตามลำดับ

องค์ประกอบสภาพแวดล้อมเป็นสุข ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.52, S.D.=0.45) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือโรงเรียนมีบรรยากาศ ห้องเรียนและสภาพแวดล้อมมีความร่มรื่น ปลอดภัย เอื้อต่อการสร้างเสริมสุขภาวะ การป้องกันโควิด19 ส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียน ( x̄=4.62, S.D.=0.32) รองลงมาคือโรงเรียนมีระบบป้องกันภัยและมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ ( x̄=4.45, S.D.=0.03) และโรงเรียนมีการบริหารจัดการสภาวะโภชนาการ เช่น โรงอาหาร ผู้ประกอบการร้านค้าสวัสดิการ ในการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเป็นระบบและมีมาตรฐาน ( x̄=4.15, S.D.=0.32) ตามลำดับ

องค์ประกอบครอบครัวเป็นสุข ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.57, S.D.=0.23) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ครอบครัวมีส่วนร่วมในการจัดการเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือนักเรียนให้มีสุขภาวการณ์ป้องกันโรคโควิด 19 มีการสื่อสารและแลกเปลี่ยนเรียนรู้ผ่านช่องทางต่างๆ ( x̄ =4.64, S.D.=0.08) รองลงมาคือ ครอบครัวมีสัมพันธภาพที่ดีภายในครอบครัว สามารถปรับและเปลี่ยนสู่ชีวิตวิถีใหม่ (New Normal) ( x̄=4.60, S.D.=0.12) และครอบครัวมีระบบเฝ้าระวัง ป้องกันปัญหาโรคโควิด 19 และปัญหาอื่นๆร่วมกับทางโรงเรียน ( x̄=4.59, S.D.=0.04) ตามลำดับ

องค์ประกอบชุมชนเป็นสุข ในภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมาก ( x̄=4.45, S.D.=0.25) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดกระบวนการการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียนและการป้องกันตนเองจากโรคโควิด19 ( x̄=4.54, S.D.=0.12) รองลงมาคือ ชุมชนมีแหล่งเรียนรู้ในการส่งเสริมการจัดการเรียนรู้เพื่อสร้างเสริมสุขภาวะของนักเรียน ( x̄=4.47, S.D.=0.21) และชุมชนให้ความร่วมมือในการส่งเสริมสนับสนุน การจัดการศึกษาด้านต่างๆ ( x̄=4.42, S.D.=0.42) ตามลำดับ

5) ผลการประเมินด้านผลกระทบ โดยภาพรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.41, S.D.=0.25) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ โรงเรียนมีเครือข่ายร่วมพัฒนาระหว่างโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะ ( x̄=4.72, S.D.=0.11) รองลงมาคือผู้เกี่ยวข้องมีความพึงพอใจต่อการดำเนินการโครงการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะ ( x̄= 4.65, S.D. = 0.42) และโรงเรียนได้รับการยอมรับและเชื่อมั่นในการจัดการศึกษา ( x̄= 4.02, S.D. = 0.75) ตามลำดับ

6) ผลการประเมินด้านประสิทธิผล โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.24, S.D.=0.25) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือโครงการส่งเสริมให้ชุมชน เครือข่ายภาครัฐ และเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม ส่งเสริม สนับสนุน พร้อมร่วมแก้ปัญหา ในการจัดการเรียนรู้ของนักเรียนให้ปลอดภัยจากโรคโควิด19 ( x̄=4.51, S.D. =0.15) รองลงมาคือโรงเรียนมีแนวทางการบริหารจัดการโรงเรียนสร้างเสริมสุขภาวะตามแนวทางการพัฒนาทั้งระบบที่ชัดเจน ( x̄=4.30, S.D.=0.32) และโครงการสร้างเสริมให้นักเรียน รู้วิธีและมีทักษะที่จำเป็นและสามารถปรับเปลี่ยนสู่ชีวิตวิถีใหม่(New Normal) ( x̄=4.21, S.D.=0.30) ตามลำดับ

7) ผลการประเมินด้านความยั่งยืน โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมาก ( x̄ =4.14, S.D.=0.31) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ เครือข่ายผู้ปกครองมีส่วนร่วมกับโรงเรียนในการส่งเสริม สนับสนุนและแก้ไขปัญหาของนักเรียน ( x̄=78, S.D.=0.71) รองลงมาคือครูสามารถปรับกระบวนการจัดการเรียนรู้บูรณาการสุขภาวะกับรายวิชาในสาระการเรียนรู้ของตนเองได้ ( x̄=4.21, S.D.=0.14) และชุมชนและหน่วยงานภายนอก มีความพร้อมและสนับสนุน การเสริมสร้างสุขภาวะของนักเรียน ( x̄=4.17, S.D.=0.12) ตามลำดับ

8) ผลการประเมินด้านการถ่ายโยงความรู้ โดยภาพรวมมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด ( x̄=4.61, S.D.=0.12) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือ ครูผู้สอนสามารถขยายผลการจัดกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับโรคโควิด 19 และสุขภาวะอื่นๆได้( x̄ =4.81, S.D.=0.32)รองลงมาคือ การส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมกับบุคลากรในชุมชน ในการสร้างเสริมสุขภาวะไปยังชุมชนใกล้เคียง( x̄=4.57, S.D.=0.08) และนักเรียนสามารถถ่ายทอดกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับการป้องกันโรคโควิด 19 ให้ผู้อื่นรับรู้และเข้าใจได้ ( x̄ =4.52, S.D.=0.14) ตามลำดับ

โพสต์โดย แนน : [15 ส.ค. 2565 เวลา 07:32 น.]
อ่าน [1863] ไอพี : 113.53.44.31
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,546 ครั้ง
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้
ระวังนะ "ความร้อน" สามารถทำลายข้อมูลใน SSD ได้

เปิดอ่าน 107,909 ครั้ง
ความเชื่อของชาวอีสาน
ความเชื่อของชาวอีสาน

เปิดอ่าน 16,947 ครั้ง
ตะลึง! พบตำราพิชัยสงคราม จ.เพชรบูรณ์ อายุ 200 ปี
ตะลึง! พบตำราพิชัยสงคราม จ.เพชรบูรณ์ อายุ 200 ปี

เปิดอ่าน 934 ครั้ง
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน
"สมาคมธนาคารไทย" แนะ 6 วิธีป้องกันแอปดูดเงิน

เปิดอ่าน 17,332 ครั้ง
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"
การศึกษาไทยเชื่อแล้วว่า.."บ้าจริง"

เปิดอ่าน 17,941 ครั้ง
ภาพแบบ Vector
ภาพแบบ Vector

เปิดอ่าน 7,360 ครั้ง
ปิดฉาก!"ไมโครซอฟท์" ประกาศเลิกผลิตวินโดวส์รุ่นใหม่ เน้นบริการ"อัพเดต"แทน
ปิดฉาก!"ไมโครซอฟท์" ประกาศเลิกผลิตวินโดวส์รุ่นใหม่ เน้นบริการ"อัพเดต"แทน

เปิดอ่าน 10,440 ครั้ง
การซ่อมแซมเสื้อผ้า
การซ่อมแซมเสื้อผ้า

เปิดอ่าน 18,494 ครั้ง
ดอกไม้ 5 ชนิด พิชิตโรค
ดอกไม้ 5 ชนิด พิชิตโรค

เปิดอ่าน 12,345 ครั้ง
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน
ป้องกันกลิ่นตัว ในหน้าร้อน

เปิดอ่าน 24,445 ครั้ง
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ BBL กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์
ดาวน์โหลดเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้ BBL กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์

เปิดอ่าน 44,164 ครั้ง
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)
แผนภาพของเวน (Venn Diagram)

เปิดอ่าน 22,050 ครั้ง
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560
พระราชบัญญัติกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา พ.ศ.2560

เปิดอ่าน 7,888 ครั้ง
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก
ยิ่งกวดวิชามาก ยิ่งสะท้อนปัญหามาก

เปิดอ่าน 13,874 ครั้ง
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้
กังนัมอะยาย ศึกประชัน เต้นกังนัมสไตล์ ระหว่าง ยาย VS โคโยตี้

เปิดอ่าน 16,653 ครั้ง
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
มุขตลกของเด็กๆ ในห้องเรียน จำลองห้องเป็นรถเมล์
เปิดอ่าน 181,212 ครั้ง
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
หน่วยรับข้อมูล (Input Unit) / หน่วยแสดงผลข้อมูล (Output Unit)
เปิดอ่าน 11,943 ครั้ง
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
ฮาก๊ากคู่รักตัวกะเปี๊ยก นัดวิวาห์เหาะข้ามทวีป
เปิดอ่าน 12,249 ครั้ง
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
ลูกหมาเดินวนกินนม แบบกังหัน น่ารักมากครับ
เปิดอ่าน 40,081 ครั้ง
ย้อนรอยสายราชสกุล... ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (๑)
ย้อนรอยสายราชสกุล... ในพระบรมราชจักรีวงศ์ (๑)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ