ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยม

การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของโรงเรียนโพธิ์ทองพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ครั้งนี้ มีความมุ่งหมายของการวิจัย ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) เพื่อออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.1) ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนา ขึ้นตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้ บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตใน รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.3) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่เสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 3.4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 โรงเรียนโพธิ์ทองพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ในภาคเรียน 1 ปีการศึกษา 2563 ที่กำลังเรียนรายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม รหัสวิชา ส23101 จำนวน 23 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ที่ออกแบบตามรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 2) แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบวัดความสามารถการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ 4) แบบวัดความพึงพอใจสำหรับนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 5) แบบประเมินของผู้ทรงคุณวุฒิ เกี่ยวกับความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่พัฒนาตามขั้นตอน เครื่องมือวัด และแบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน 6) แบบรับรองรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บของผู้ทรงคุณวุฒิ การวิเคราะห์หาคุณภาพของเครื่องมือ โดยหาการวิเคราะห์ความต้องการจำเป็น (Needs Assessment) โดยผู้วิจัยนำข้อมูลที่ได้ มาหาค่าดัชนีความต้องการจำเป็น (Priority Needs Index) เพื่อจัดลำดับความต้องการจำเป็นค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) โดยใช้วิธีของโรวิเนลลี (Rovinelli) และแฮมเบิลตัน (R.H.Hambleton) หาค่าความยาก (P) และค่าอำนาจจำแนก (B) โดยหาค่าความเชื่อมั่นโดยวิธีของโลเวทท์ (Lovett) หาคุณภาพของแบบสอบถาม หาค่าสัมประสิทธิ์แอลฟา ( -Coefficient) โดยหาค่าความเชื่อมั่นตามวิธีของครอนบาค Cronbach) วิเคราะห์หาประสิทธิภาพของการเรียนรู้บนเว็บ (E1/E2 ) ตามเกณฑ์ 80/80 สถิติพื้นฐาน ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน วิเคราะห์หาค่าดัชนีประสิทธิผลของการเรียนรู้บนเว็บ โดยใช้วิธีของกูดแมน,เพลคเทอร์ และ ชไนเดอร์

ผลการวิจัยปรากฏดังนี้

1. ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ของครูผู้สอน และสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บ โดยออกแบบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนโพธิ์ทองพิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด

1.1 ผลการศึกษาสภาพปัจจุบัน และความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ของครูผู้สอน โดยทำการสอบถามจากครูผู้สอนสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ในโรงเรียนสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดร้อยเอ็ด ที่จัดการเรียนการสอนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 6 คน พบว่า

ผู้สอนมีความคิดเห็นเกี่ยวกับสภาพปัจจุบันของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ด้านกระบวนการจัด การเรียนรู้ และด้านการประเมินผลสาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม อยู่ในระดับปานกลาง ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 2.57 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.17

ผู้สอนมีความต้องการรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ ด้านกระบวนการจัดการเรียนรู้ และด้านการประเมินผลสาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม อยู่ในระดับมาก ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.30

มีค่า PNI modified อยู่ระหว่าง 0.320-0.552 ซึ่งครู มีความต้องการจำเป็น ในเรื่อง มีการวัดและการประเมินผลบนเว็บมากที่สุด (PNI modified = 0.552) รองลงมา คือ กิจกรรมการเรียนรู้แต่ละแผน สอดคล้องผลการเรียนรู้ (PNI modified= 0.536) และ มีการออกแบบเป็นระบบนำเสนอถูกต้องตามลำดับขั้นของการเรียนรู้บนเว็บ (PNI modified= 0.519)

1.2 ผลการสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีดังนี้

1.2.1 องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ Vishwanath (2006 : 115 - 116), Joyce, B. and M. Weil (2011 : 159-388), ทิศนา แขมมณี (2557 : 222) ซึ่งสังเคราะห์องค์ประกอบของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ มีองค์ประกอบสำคัญ 6 องค์ประกอบ ซึ่งประกอบด้วย 1) หลักการแนวคิด ทฤษฎี 2) วัตถุประสงค์ของรูปแบบ 3) ขั้นตอนการจัดการเรียนรู้ 4) ระบบสังคม 5) หลักการตอบสนอง และ 6) ระบบสนับสนุน

1.2.2 องค์ประกอบของการเรียนรู้บนเว็บ ผู้วิจัยได้ศึกษาแนวคิดจาก หน่วยงาน องค์การ นักวิชาการ ดังนี้ รัฐกรณ์ คิดการ(2551 : 15-20), วิชุดา รัตนเพียร(2545 : 29-35) , ใจทิพย์ ณ สงขลา (2542 : 18-28) , ถนอมพร เลาหจรัสแสง (2544 : 87-94) , สุมาลี ชัยเจริญ (2550 : 23 -25) , ไชยยศ เรืองสุวรรณ (2554 : 91-92) เป็นบทเรียนบนเว็บวิชาสังคมศึกษา สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยอาศัยคุณลักษณะของบทเรียนบนเว็บในการออกแบบการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ ซึ่งมีองค์ประกอบสำคัญ 4 องค์ประกอบ คือ 1) การบริหารจัดการ (Learning Management) 2) การจัดการเนื้อหา (Content Management) 3) การติดต่อสื่อสาร (Communications) 4) การประเมินผล (Evaluation)

1.2.3 องค์ประกอบของการคิดอย่างมีวิจารณญาณ โดยมีกิจกรรมเพื่อฝึกการคิดอย่างมีวิจารณญาณตามแนวคิดของ วัตสัน และเกลเซอร์ (Watson and Glaser. 1964) ซึ่งมี 5 ด้าน ได้แก่ 1) ความสามารถในการอนุมาน 2) ความสามารถในการยอมรับข้อตกลงเบื้องต้น 3) ความสามารถในการนิรนัย 4) ความสามารถในการตีความ 5) ความสามารถในการประเมินข้อโต้แย้ง

. 2. ผลการออกแบบและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยผู้ทรงคุณวุฒิได้ประเมินความเหมาะสมของร่างรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โดยรวม มีความเหมาะสม อยู่ในระดับมากที่สุด ค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.63 ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.46

3. ผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3

3.1. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีค่าเท่ากับ 82.69/81.54 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้

3.2 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6678 ซึ่งแสดงว่าผู้เรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 66.78

3.3 ผลการหาค่าดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้บนเว็บที่เสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีค่าเท่ากับ 0.6587 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการคิดอย่างมีวิจารณญาณเพิ่มขึ้นร้อยละ 65.87

4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัด การเรียนรู้บนเว็บที่ส่งเสริมผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเสริมสร้างการคิดอย่างมีวิจารณญาณ สาระการเรียนรู้ หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม รหัสวิชา ส23101 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภายหลังสิ้นสุดการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจโดยรวม อยู่ในระดับมากที่สุด

โพสต์โดย ครูสังคมคนสวย : [3 ก.พ. 2565 เวลา 11:01 น.]
อ่าน [1908] ไอพี : 223.206.218.109
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 32,162 ครั้ง
พืชที่ใช้ทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน
พืชที่ใช้ทำเครื่องดนตรีพื้นบ้าน

เปิดอ่าน 3,226 ครั้ง
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?
"เตามหาเศรษฐี" คืออะไร?

เปิดอ่าน 10,017 ครั้ง
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้
ซินโครตรอนพบ! สารสกัดโปรตีนจากดักแด้ไหม ยับยั้งมะเร็งเต้านมได้

เปิดอ่าน 10,154 ครั้ง
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา
จะจำใบหน้าของใครให้ได้แม่นยำ ต้องจ้องคอยดูที่ลูกตา

เปิดอ่าน 94,317 ครั้ง
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?
รถเกียร์ออโต้จะเข้าเกียร์ N หรือ ค้างที่ D เวลาติดไฟแดงดีนะ?

เปิดอ่าน 21,790 ครั้ง
แนวทางในการพัฒนาระบบ
แนวทางในการพัฒนาระบบ

เปิดอ่าน 22,176 ครั้ง
เหรียญราชการชายแดน
เหรียญราชการชายแดน

เปิดอ่าน 11,408 ครั้ง
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน
ออกกำลังกันมะเร็งทรวงอก เฉพาะสตรีวัยทองที่มีรูปร่างสมส่วน

เปิดอ่าน 15,002 ครั้ง
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น
แต่งสีขาว - ดำ ให้ดูโมเดิร์น

เปิดอ่าน 1,915 ครั้ง
แนะนำ 5 อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เพิ่มขีดจำกัดในการใช้งานให้ทะลุหลอด
แนะนำ 5 อุปกรณ์เสริมคอมพิวเตอร์ เพิ่มขีดจำกัดในการใช้งานให้ทะลุหลอด

เปิดอ่าน 1,052 ครั้ง
อานิสงค์ของการถวายเทียนพรรษา
อานิสงค์ของการถวายเทียนพรรษา

เปิดอ่าน 40,294 ครั้ง
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์
บาร์โค้ด ประวัติ การประดิษฐ์บาร์โค้ด รหัสแท่งมหัศจรรย์

เปิดอ่าน 19,284 ครั้ง
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน
อยากพูดฝรั่งคล่อง ต้องร้องเพลงก่อน

เปิดอ่าน 12,355 ครั้ง
ต้องดู! คลิปผลงานนศ. ถ่ายทอดเรื่องราวซึ้งกินใจ
ต้องดู! คลิปผลงานนศ. ถ่ายทอดเรื่องราวซึ้งกินใจ

เปิดอ่าน 33,840 ครั้ง
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?
กีฬาฟุตบอล มาจากไหน?

เปิดอ่าน 19,787 ครั้ง
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เหมือนอย่างกับแกะ! หุ่นยนต์เหมือนมนุษย์ตัวล่าสุด (มีคลิป)
เปิดอ่าน 58,700 ครั้ง
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก
ความหมายของเลขบัตรประชาชนทั้ง 13 หลัก
เปิดอ่าน 10,468 ครั้ง
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
วิธีป้องกันไม่ให้เป็นร้อนใน
เปิดอ่าน 11,962 ครั้ง
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
รู้จักยัง...Hate Speech คืออะไร ? เกิดจากอะไร ? และเราจะรับมือได้อย่างไร?
เปิดอ่าน 5,248 ครั้ง
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด
ดูโปรตั๋วเครื่องบินไปแม่สอด เที่ยวบินราคาประหยัด

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ