ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อเสริมศักยภาพการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านกรุงหยันใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช

ชื่อเรื่อง : การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อเสริมศักยภาพการเรียนรู้

โรงเรียนบ้านกรุงหยันใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2

ชื่อผู้ประเมิน : นายสุรชัย โมฬี

ปีที่ประเมิน : ปีการศึกษา 2563

บทสรุปสำหรับผู้บริหาร

การประเมินโครงการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนเพื่อเสริมศักยภาพการเรียนรู้ โรงเรียนบ้านกรุงหยันใต้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 โดยใช้รูปแบบซิปป์เ(CIPPเModel)เประเมินโครงการในด้านสภาพแวดล้อมเด้านปัจจัยนำเข้าเด้านกระบวนการและด้านผลผลิต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ประเมินบริบทเกี่ยวกับความต้องการจำเป็นของโครงการ ความเป็นไปได้ของโครงการ ความพร้อมและเหมาะสมของสถานศึกษา ความเหมาะสมของวัตถุประสงค์ การได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 2) เพื่อประเมินปัจจัยนำเข้าเกี่ยวกับบุคลากร งบประมาณ สื่อและวัสดุอุปกรณ์ และระบบบริหารที่เอื้อต่อการดำเนินงานโครงการ 3) เพื่อประเมินกระบวนการเกี่ยวกับการกำหนดทิศทางและกลยุทธ์ การดำเนินงานตามแผน การนิเทศกำกับติดตามผล การประเมินผลปรับปรุงพัฒนา การรายงานผลและประชาสัมพันธ์ 4) เพื่อประเมินผลผลิต เกี่ยวกับผลการดำเนินงานโครงการด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนและความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ประชากรที่ใช้ในการประเมินโครงการ ได้แก่ นักเรียน ครู ผู้ปกครอง และคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนบ้านกรุงหยันใต้ อำเภอทุ่งใหญ่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 2 ในปีการศึกษา 2563 รวมทั้งสิ้น จำนวน 210 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการประเมินโครงการได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Random Sampling) จำนวน 73 คน ประกอบด้วย 1) ครู จำนวน 6 คน 2) นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 จำนวน 30 คน 3) ผู้ปกครองนักเรียน จำนวน 30 คน 4) กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 7 คน (ไม่รวมตัวแทนครูและผู้บริหารโรงเรียน) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินโครงการเเป็นแบบสอบถามแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ แบบสอบถามฉบับที่ 1 ประเมินด้านบริบทและด้านปัจจัย (ประเมินก่อนดำเนินงาน) แบบสอบถามฉบับที่ 2 ประเมินด้านกระบวนการ (ประเมินระหว่างดำเนินงาน) แบบสอบถามฉบับที่ 3 ประเมินด้านผลผลิต เกี่ยวกับด้านผลการดำเนินงานด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน (ประเมินหลังเสร็จสิ้นโครงการ) แบบสอบถามฉบับที่ 4 ประเมินความความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง การเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยวิธีการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน วิเคราะห์ข้อมูลเชิงปริมาณ โดยใช้โปรแกรม SPSS for Windows 16.0 ด้วยค่าสถิติร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard deviation) ผลการประเมินและข้อเสนอแนะสรุปได้ดังนี้

ผลการประเมิน

ผลการประเมินพบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทุกประเด็นทุกตัวชี้วัดและภาพรวมของโครงการดังนี้

1. ผลการประเมินบริบทของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 5 ตัวชี้วัด โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของแต่ละตัวชี้วัด โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยพบว่า ความต้องการจำเป็นของโครงการ มีความเหมาะสมมากที่สุด รองลงมาคือความเป็นไปได้ของโครงการ ความเหมาะสมและเป็นไปได้ของวัตถุประสงค์ ความพร้อมและเหมาะสมของสถานศึกษา และการได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตามลำดับ

2. ผลการประเมินปัจจัยนำเข้าของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 4 ตัวชี้วัด โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของแต่ละตัวชี้วัดโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยพบว่า ด้านบุคลากรของสถานศึกษามีความเหมาะสมมากที่สุด รองลงมา คือ ด้านระบบบริหารที่เอื้อต่อการดำเนินงานโครงการ ด้านสื่อวัสดุอุปกรณ์ และด้านงบประมาณ ตามลำดับ

3. ผลการประเมินกระบวนการของโครงการ พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 5 ตัวชี้วัด โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของแต่ละตัวชี้วัดโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยพบว่า การกำหนดทิศทางและกลยุทธ์มีความเหมาะสมมากที่สุด รองลงมาคือ การรายงานผลและประชาสัมพันธ์ การดำเนินงานตามแผน การประเมินผลปรับปรุง พัฒนา และการนิเทศกำกับติดตามผล ตามลำดับ

4. ผลการประเมินผลผลิตของโครงการพบว่า โดยรวมมีผลการดำเนินงานด้านระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนอยู่ในระดับมากที่สุด และผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนดทุกตัวชี้วัด เมื่อพิจารณาผลการดำเนินงานในแต่ละด้านพบว่า

4.1 ด้านผลการดำเนินงานโครงการทั้ง 9 ตัวชี้วัด พบว่า ผ่านเกณฑ์การประเมินทั้ง 9 ตัวชี้วัด โดยรวมมีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อพิจารณาถึงรายละเอียดของแต่ละตัวชี้วัดโดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อย พบว่า ด้านสุขภาพร่างกายมีผลการดำเนินงานอยู่ในระดับมากที่สุด รองลงมาคือ ด้านสุขภาพจิต ด้านคุณธรรมจริยธรรมและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ด้านสังคม ด้านอารมณ์ ด้านความรู้และทักษะ ด้านการรับรู้และเห็นคุณค่าในตนเองและผู้อื่น ด้านทักษะชีวิต ด้านทักษะการแก้ปัญหา ตามลำดับ

4.2 ด้านความพึงพอใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องที่มีต่อการดำเนินงานโครงการพบว่า โดยรวมผ่านเกณฑ์การประเมินที่กำหนด และอยู่ในระดับมากที่สุดทุกตัวชี้วัด

โพสต์โดย สุรชัย : [22 เม.ย. 2564 เวลา 04:23 น.]
อ่าน [3079] ไอพี : 171.6.235.175
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 22,704 ครั้ง
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!
แกว่งแขนลดพุง แถมรักษาโรคได้เพียบ!

เปิดอ่าน 5,528 ครั้ง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง
สับสนกับเมเจอร์ที่เลือก แต่ไม่อยากรีแอดมิชชั่นต้องทำยังไง

เปิดอ่าน 21,780 ครั้ง
แนวทางในการพัฒนาระบบ
แนวทางในการพัฒนาระบบ

เปิดอ่าน 10,034 ครั้ง
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ
ริ้วรอยบนใบหน้าแก้ได้ หมอแนะควรศึกษาก่อนทำ

เปิดอ่าน 57,091 ครั้ง
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น
12 ต้นไม้บนโต๊ะทำงานยอดนิยม ประดับไว้ให้สดชื่น

เปิดอ่าน 10,659 ครั้ง
ดูเป็นแสน!นร.อ่านอังกฤษฮา ครูหล่อเผยไม่ดุนร.เก่งขึ้น
ดูเป็นแสน!นร.อ่านอังกฤษฮา ครูหล่อเผยไม่ดุนร.เก่งขึ้น

เปิดอ่าน 20,166 ครั้ง
มหัศจรรย์ "ผึ้งบำบัด" รักษาอาการเรื้อรัง-ไมเกรน-อัลไซเมอร์ กระแสตอบรับล้นหลาม
มหัศจรรย์ "ผึ้งบำบัด" รักษาอาการเรื้อรัง-ไมเกรน-อัลไซเมอร์ กระแสตอบรับล้นหลาม

เปิดอ่าน 22,124 ครั้ง
เจ้าระเบียบ พี่สาววัย 5 ขวบ อบรมน้องชายตัวน้อย
เจ้าระเบียบ พี่สาววัย 5 ขวบ อบรมน้องชายตัวน้อย

เปิดอ่าน 23,379 ครั้ง
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน
ความวุ่นวายของการรายงาน จนครูไม่เป็นอันสอน

เปิดอ่าน 11,405 ครั้ง
ทำอย่างไรให้ "เด็ก" ปลอดภัย ใน "อินเตอร์เน็ต"
ทำอย่างไรให้ "เด็ก" ปลอดภัย ใน "อินเตอร์เน็ต"

เปิดอ่าน 57,231 ครั้ง
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้
ทำไมเครื่องบินกระดาษจึงบินได้

เปิดอ่าน 16,525 ครั้ง
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว
จระเข้เขมือบครูฝึกทั้งเป็น ที่เป็นข่าว

เปิดอ่าน 19,045 ครั้ง
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี
เผยสูตร "หน้าใส" 4 วิธี

เปิดอ่าน 9,829 ครั้ง
ทำยาเม็ดกินก่อความรัก ไปสร้างปฏิกิริยาเคมีขึ้นภายในสมอง
ทำยาเม็ดกินก่อความรัก ไปสร้างปฏิกิริยาเคมีขึ้นภายในสมอง

เปิดอ่าน 61,516 ครั้ง
ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร
ประเทศที่ประสบความสำเร็จเขาดูแลครูอย่างไร

เปิดอ่าน 702 ครั้ง
ประโยชน์ของการเดิน
ประโยชน์ของการเดิน
เปิดอ่าน 10,709 ครั้ง
มือชา ปัญหาที่พบได้ในคนทำงานออฟฟิศ
มือชา ปัญหาที่พบได้ในคนทำงานออฟฟิศ
เปิดอ่าน 16,976 ครั้ง
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
11 เว็บไซต์เรียนภาษาสุดเจ๋ง ที่คนอยากเก่งอังกฤษไม่ควรพลาด!
เปิดอ่าน 9,518 ครั้ง
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
คนนอนกรนไม่ต้องกลัวเป็นโรคหัวใจไม่เกี่ยวพันกับโรคหัวใจและหลอดเลือด
เปิดอ่าน 20,582 ครั้ง
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ
รู้ไว้เพื่อระวัง กรุ๊ปเลือดบอกความสุ่มเสี่ยงของโรคได้นะ

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ