ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียงคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1

1.ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา

ภาษาอังกฤษถือเป็นภาษาที่มีความสำคัญเป็นอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลที่ใช้ในการติดต่อสื่อสาร ซึ่งประเทศไทยได้จัดให้มีการเรียนการสอนวิชาภาษาอังกฤษตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงระดับอุดมศึกษา หลักสูตรแกนกลางขั้นพื้นฐานพุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศมุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศและสามารถใช้ภาษาต่างประเทศสื่อสารในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งประกอบด้วยสาระสำคัญดังนี้ ภาษาเพื่อการสื่อสาร, ภาษาและวัฒนธรรม, ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่นและ ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก ในปัจจุบันพบว่าปัญหาพื้นฐานของการเรียนภาษาอังกฤษทั้งสี่ทักษะคือ ปัญหาคำศัพท์ เนื่องจากความรู้ด้านคำศัพท์ไม่เพียงพอ เป็นสาเหตุสำคัญประการหนึ่งที่ทำให้นักเรียนไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษในโรงเรียนไม่ว่าจะเป็นทักษะ การฟัง พูด อ่าน และเขียน ซึ่งเป็นทักษะที่สำคัญและจำเป็นที่นักเรียนจะต้องมีพื้นฐานเกี่ยวกับคำศัพท์ จึงจะสามารถเรียนภาษาได้ดี จึงเป็นที่ยอมรับว่า “คำศัพท์” เป็นหัวใจสำคัญในการศึกษาภาษาอย่างหนึ่งการเรียนภาษาอังกฤษ ก่อนที่ผู้เรียนจะสามารถจำคำศัพท์และไปใช้ได้ ผู้เรียนต้องสามารรถอ่านออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้องก่อน การอ่านจึงเป็นกระบวนการเรียนรู้อย่างหนึ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ ซึ่งจะส่งผลให้นักเรียนมีการพัฒนาทักษะการเรียนในด้านอื่น ๆ ตามมา เพราะการอ่านที่ถูกต้องจะทำให้นักเรียนเขียนตัวสะกดได้ถูกต้อง นอกจากนี้การอ่านออกเสียงได้ถูกต้อง จะทำให้นักเรียนมีความมั่นใจมากยิ่งขึ้น และนำความรู้ด้านภาษาอังกฤษไปพัฒนาตนเองต่อไป ในอาชีพ ในการศึกษาต่อ ต่อไป จากการสังเกตเหตุผลที่นักเรียนไม่ประสบความสำเร็จในการเรียนภาษาอังกฤษ เนื่องจากผู้เรียนละเลย ไม่ตระหนักถึงความสำคัญในการอ่านและสะกดคำศัพท์ครูผู้สอนจึงควรหากลวิธีทำให้เด็กหันกลับมาสนใจทักษะการอ่านเพิ่มมากขึ้นดังนั้นผู้วิจัยจึงเห็นควรนำเรื่องการอ่านมาทำวิจัย

จากการศึกษาสภาพปัญหาการเรียนการสอนภาษาอังกฤษในชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 3 พบว่านักเรียนไม่สามารถอ่านภาษาอังกฤษได้ จึงเป็นปัญหาส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษต่ำ ด้วยเหตุนี้ ผู้วิจัยจึงสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อใช้ในการสอน ซึ่งจะทำให้ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้นและเพื่อเป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษให้มีประสิทธิภาพต่อไป

2.วัตถุประสงค์ของการวิจัย

1.นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษได้

2.นักเรียนสามารถพัฒนาทักษะที่เกิดจากการอ่านประเภทต่าง ๆ และเป็นความรู้พื้นฐานใน การศึกษาต่อในขั้นที่สูงขึ้น

3.นักเรียนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษ

3.วิธีดำเนินการวิจัย

3.1 ประชากร/กลุ่มตัวอย่าง

กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 ภาคเรียนที่ 1

ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนนิคมสร้างตนเองจังหวัดระยอง 3 จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)

3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย/นวัตกรรม

1. แบบฝึกทักษะการอ่านคำพื้นฐานภาษาอังกฤษที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 10 ชุด

2. แบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 1 ชุด

3.3 การเก็บรวบรวมข้อมูล

การวิจัยในครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดำเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล โดยได้ดำเนินการตามขั้นตอนดังนี้

1. ปฐมนิเทศนักเรียนพร้อมชี้แจงวัตถุประสงค์

2. เก็บรวบรวมข้อมูลก่อนการทดลอง ผู้ศึกษาได้นำแบบทดสอบก่อนเรียน จำนวน 1 ชุด ให้นักเรียนทำการทดสอบ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง

3. เก็บรวบรวมข้อมูลขณะดำเนินการทดลอง ผู้วิจัยดำเนินการสอนด้วยตนเองและขณะทำการสอนผู้วิจัยได้เก็บรวบรวมข้อมูลจากการตรวจแบบฝึกทักษะ

4. การเก็บรวบรวมข้อมูลหลังการทดลอง หลังจากทำการทดลองสอนครบทั้ง 10 แบบฝึก นักเรียนทำแบบทอสอบหลังเรียน

3.4 การวิเคราะห์ข้อมูล/สถิติที่ใช้ในการวิจัย

การวิเคราะห์ข้อมูลโดยนำข้อมูลที่ได้มาหาเฉลี่ย ค่าร้อยละ ระหว่างการทดสอบครั้งแรกกับครั้งหลังของกลุ่มตัวอย่างและเปรียบเทียบคะแนนการทำแบบฝึกทักษะกับคะแนนทดสอบหลังเรียน

4. ผลการวิจัย

การประเมินผลจากการอ่านของนักเรียนจากเกณฑ์ที่กำหนดของแต่ละชุด คือ

ตารางที่ 1 ตารางแสดงการพัฒนาทักษะในการอ่านแบบฝึกหัดที่ 1-10 ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 คน

ลำดับที่ แบบฝึก 1 แบบฝึก 2 แบบฝึก 3 แบบฝึก 4 แบบฝึก5 แบบฝึก 6 แบบฝึก 7 แบบฝึก 8 แบบฝึก 9 แบบ

ฝึก 10

1 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

2 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

3 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

4 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

5 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

6 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

7 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

8 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

9 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

10 √ √ √ √ √ √ √ √ √ √

รวม 10 10 10 10 10 10 10 10 10 10

เกณฑ์การให้คะแนน √ หมายถึง ผ่าน ( ผิดไม่เกิน 5 คำ )

× หมายถึง ไม่ผ่าน ( ผิดตั้งแต่ 6 คำขึ้นไป )

ตารางที่ 2 ตารางสรุปคะแนนผลการพัฒนาทักษะการอ่านของนักเรียนจำนวน 10 คน

นักเรียนคนที่ คะแนนแบบฝึกชุดที่ 1-10 คะแนนรวม ร้อยละ

10 10 10 10 10 10 10 10 10 10 100 100

1 7 9 7 8 8 7 8 6 7 10 77 77

2 6 8 6 7 9 8 5 9 6 9 73 73

3 6 8 7 8 8 7 8 7 7 10 76 76

4 7 9 6 9 8 7 8 7 6 10 77 77

5 8 10 7 6 10 8 7 8 7 10 81 81

6 6 9 6 9 9 7 7 8 7 9 77 77

7 8 8 6 6 9 7 8 7 6 9 74 74

8 6 8 8 7 9 6 7 8 9 10 78 78

9 9 7 6 6 8 9 7 8 8 8 76 76

10 7 7 6 7 8 6 7 6 7 9 70 70

จากตารางสรุปผลการพัฒนาทักษะการอ่านของกลุ่มเป้าหมาย พบว่า หลังจากนักเรียนได้ฝึกการอ่านมีคะแนนเพิ่มขึ้นก่อนทำการฝึก

ตารางที่ 3 ตารางเปรียบเทียบคะแนนก่อนและหลังการพัฒนาทักษะการอ่าน ประถมศึกษาปีที่ 5/1

ลำดับที่ ก่อนเรียน หลังเรียน

1 25 77

2 27 73

3 31 76

4 28 77

5 27 81

6 30 77

7 28 74

8 24 78

9 34 76

10 26 70

5.อภิปรายผลการวิจัย

จากการวิจัยในครั้งนี้ พบว่า หลังจากนักเรียนได้อ่านชุดฝึก จากแบบฝึกทั้ง 10 ชุด นักเรียนมีทักษะการอ่านดีขึ้น และมีความมั่นใจในการอ่านมากขึ้น

6.ข้อเสนอแนะ

การอ่านเป็นทักษะซึ่งจะสมฤทธิ์ผลได้จากการกระทำอย่างต่อเนื่อง หรือ สม่ำเสมอ ดังนั้นจึงควรมีการพัฒนาทักษะการอ่านต่อไป โดยการกระตุ้นให้นักเรียนเห็นความสำคัญและรักการอ่าน โดยครูผู้สอนเรียกนักเรียนมาอ่านให้ฟังเป็นระยะ ๆ และควรพัฒนาทักษะการอ่านออกเสียง กับนักเรียนระดับชั้น อื่น ๆ

โพสต์โดย ปรีญาภรณ์ โคตะมะ : [17 มี.ค. 2564 เวลา 15:00 น.]
อ่าน [8681] ไอพี : 125.25.184.145
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,062 ครั้ง
6 ท่าฟิต&เฟิร์ม ระบบประสาท สมอง
6 ท่าฟิต&เฟิร์ม ระบบประสาท สมอง

เปิดอ่าน 14,452 ครั้ง
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว
ผู้ประดิษฐ์คิดค้น"กล่องดำ"เสียชีวิตแล้ว

เปิดอ่าน 11,371 ครั้ง
เผยรายได้เฉลี่ย-สูงสุด บัณฑิตจุฬาฯ รุ่นรับปริญญา ปี 2557
เผยรายได้เฉลี่ย-สูงสุด บัณฑิตจุฬาฯ รุ่นรับปริญญา ปี 2557

เปิดอ่าน 5,491 ครั้ง
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
วิธีเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว

เปิดอ่าน 59,572 ครั้ง
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning
ทฤษฎีการเรียนรู้แบบร่วมมือบน E-Learning

เปิดอ่าน 10,702 ครั้ง
รู้จัก โรคเอสแอลอี
รู้จัก โรคเอสแอลอี

เปิดอ่าน 10,107 ครั้ง
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!
พบ ยีน ต้นเหตุชายโตเร็วกว่าหญิง แต่ส่งผลอายุขัยสั้นกว่า!

เปิดอ่าน 10,077 ครั้ง
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.
สรยุทธ แจง อมเงินโฆษณา อสมท 138ล.

เปิดอ่าน 79,730 ครั้ง
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.
ห.ร.ม. และ ค.ร.น.

เปิดอ่าน 23,637 ครั้ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง
3กลุ่มผลไม้ไทย อุดมสารต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 11,582 ครั้ง
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่
วัคซีน"หวัด09"เข็มเดียวอยู่

เปิดอ่าน 14,175 ครั้ง
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว
คลิปฮ็อต "บัวขาว" ไล่ถลุง "ลี ซุง ฮุน" นักมวยโสมยับ แห่ชม 1.5 แสนวิวแล้ว

เปิดอ่าน 12,527 ครั้ง
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต
7 วิธีเติมความมีชีวิตชีวาให้ชีวิต

เปิดอ่าน 8,675 ครั้ง
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน
โรคสมองเสื่อมกับมะเร็งกลายเป็นคู่กัดกันเองต่างปราบกันและกัน

เปิดอ่าน 16,052 ครั้ง
7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30
7 เคล็ดลับผิวสว่างใส สำหรับสาวย่าง 30

เปิดอ่าน 10,523 ครั้ง
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
1 มิถุนายน วันดื่มนมโลก
เปิดอ่าน 28,516 ครั้ง
ร่วมทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
ร่วมทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ
เปิดอ่าน 47,350 ครั้ง
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
กรอบแนวคิดโรงเรียนคุณธรรม
เปิดอ่าน 10,736 ครั้ง
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เตือนผู้ป่วยเบาหวานหมั่นตรวจตา ลดความเสี่ยงตาบอด
เปิดอ่าน 13,695 ครั้ง
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม
"โปรตีน" ตัวช่วยของสาวอยากผอม

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ