การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561
DEVELOPMENT OF A SCHOOL-BASED MANAGEMENT MODEL (SBM)
THAT SUPPORTS APROFESSIONAL LEARNING COMMUNITY (PLC)
AFFECTIING THE EFFECTIVENESS OF ACADEMIC ADMINISTRATION
TPWARDS EXCELLENCE IN LEARNER QUALITY
CHENOVASTAMRONG SCHOOL YEAR 2018
นายวินัย โพธิ์หมุด
ผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษ
บทคัดย่อ
การพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชน แห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 เป็นการวิจัยและพัฒนาโดยการผสมผสานวิธีวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Method) และวิธีวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Method) โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อศึกษาการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561เพื่อศึกษาการเป็นขุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อประสิทธิภาพการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน ที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 ประชากรที่ใช้ในการวิจัย อยู่ในบริบทโรงเรียนชีโนวาทธำรง หมู่ 6 ตำบลทุ่งทอง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด เขต 2 โดยคัดเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
โดยแยกเป็นกลุ่มเป้าหมาย คือ ครู จำนวน 9 คน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 42 คน ผู้ปกครองของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4-6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-3 จำนวน 42 คน และคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 9 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับรูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 2) แบบสอบถามเกี่ยวกับการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 3) แบบสอบถามเกี่ยวกับความคิดเห็นของครูต่อประสิทธิภาพการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบการบริหาร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครอง ต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561
สรุปผลการวิจัย
1. ผลการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 พบว่า รูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพ
ของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.54 S.D.=.48 ) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า อยู่ในระดับมากที่สุดทุกด้าน เรียงลำดับจากด้านที่มีค่าเฉลี่ยจากมากไปหาน้อย คือ ข้อ 2 ด้านหลักการมีส่วนร่วม( = 4.62 S.D.=.46 ) ข้อ 4 ด้านหลักการตรวจสอบและถ่วงดุล ( = 4.53 S.D.=.49 ) และข้อ 1 ด้านหลัก การกระจายอำนาจ ( = 4.51 S.D.=.48 ) เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 1
2. ผลการวิเคราะห์การเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน พบว่า องค์ประกอบหลักของการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ คือ การสนับสนุนและการเป็นผู้นำร่วมกัน การสร้างค่านิยมและวิสัยทัศน์ร่วมกัน การเรียนรู้ร่วมกันและการประยุกต์ใช้ความรู้ การมีเงื่อนไขที่สนับสนุน การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคล เกิดผลต่อการปฏิบัติงานของครูในการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน ทำให้ครูมีทัศนคติที่ดีมีความพร้อมที่จะสร้างชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ ซึ่งในภาพรวม พบว่า ในการปฏิบัติงานของครูมีผลอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่า ( = 4.68 S.D. = .40) และเมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ทุกด้านมีผลต่อการปฏิบัติงานของครูอยู่ในระดับมากที่สุด โดยด้านที่มีค่าเฉลี่ยมากที่สุดเรียงจากมากไปน้อย ได้แก่ ข้อ 5 การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างบุคคล มีค่า ( = 4.78 S.D. = .32) รองลงมา ข้อ 4 ด้านการมีเงื่อนไขที่สนับสนุน ( = 4.73 S.D. = .37) และด้านที่น้อยที่สุด คือ ข้อ 1 ด้านการสนับสนุนและการเป็นผู้นำร่วมกัน ( = 4.58 S.D. = .45) ตามลำดับ
ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 2
3. ผลการวิเคราะห์การเปรียบเทียบความคิดเห็นของครูต่อประสิทธิภาพการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบการบริหาร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) พบว่า ความคิดเห็นของครูต่อประสิทธิภาพการบริหารวิชาการ สู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบการบริหาร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) พบว่า ก่อนการวิจัยอยู่ในระดับปานกลางมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 3.37 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ .43 และหลังการศึกษาอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.65 มีค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ .44 นั่นแสดงว่า ความคิดเห็นของครูต่อประสิทธิภาพการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนารูปแบบการบริหาร โดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) มีผลต่อการปฏิบัติงานของครู ทำให้ครูมีความพร้อม มีความมุ่งมั่นปฏิบัติงานให้บรรลุเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประสิทธิผล หลังการวิจัยสูงกว่าก่อนการวิจัย อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 เป็นไปตามสมมติฐานข้อ 3
4. ผลการวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียน ครู คณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 พบว่า ระดับความพึงพอใจของผู้เรียน ครู กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐานและผู้ปกครองที่มีต่อการพัฒนารูปแบบการบริหารโดยใช้โรงเรียนเป็นฐาน (SBM) ที่สนับสนุนการเป็นชุมชนแห่งการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการบริหารวิชาการสู่ความเป็นเลิศด้านคุณภาพผู้เรียน โรงเรียนชีโนวาทธำรง ปีการศึกษา 2561 ในภาพรวมอยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุด
มีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.62 มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) เท่ากับ .41 เป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 4