ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
บทคัดย่อการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน ป.4

บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน

จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง)

ชื่อผู้รายงาน บทคัดย่อ

ชื่อเรื่อง : การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน

จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง)

ชื่อผู้รายงาน : นางขนิษฐา วัชรธีรเดช

หน่วยงานที่สังกัด : โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฏร์บำรุง) อำเภอครบุรี

สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๓

ปีที่รายงาน : ๒๕๖๑

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีเป็นการวิจัยและพัฒนา (Research and Development) มีวัตถุประสงค์ดังนี้ ๑) พัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามเกณฑ์กำหนดไว้ ๘๐/๘๐ 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยมีความแตกต่างกัน ๓) หาค่าดัชนีประสิทธิผลใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๔) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ที่มีต่อรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีการดำเนินการวิจัย 2 ตอน คือ ตอนที่ 1 การพัฒนารูปแบบการเรียนรู้ มีดำเนินการ 4 ขั้น ดังนี้ ขั้นที่ 1 การกำหนดกรอบรูปแบบการเรียนรู้ โดยการศึกษา เอกสาร ตำรา และงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง ขั้นที่ 2 การจัดทำแผนการเรียนรู้และสร้างแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ประกอบด้วย 1) แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ ขั้นที่ 3 การตรวจสอบคุณภาพรูปแบบการเรียนรู้โดยการให้ผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 5 คน พิจารณาตรวจสอบ ความเหมาะสมและสอดคล้อง ผลการตรวจสอบค่าความเหมาะสมและสอดคล้องอยู่ในระดับดี ขั้นที่ 4 การปรับปรุงรูปแบบการเรียนรู้ก่อนนำไปใช้ เป็นการศึกษานำร่องเพื่อการตรวจสอบ ความเป็นไปได้ก่อนนำไปใช้จริง ผลการตรวจสอบรูปแบบการเรียนรู้มีความเป็นไปได้ ตอนที่ 2 การหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้ โดยทดลองกับกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) อำเภอครบุรี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต ๓ ภาคเรียน ที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๑ จำนวนนักเรียนทั้งหมด ๓๖ คน ผลศึกษา สรุปดังนี้

1. ผลการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง (คุรุราษฎร์บำรุง) ประกอบด้วย

๑.1 สาระการเรียนรู้

๑.๒ วัตถุประสงค์การเรียนรู้

๑.๓ แนวคิดและการพัฒนารูปแบบการเรียนรู้

๑.๔ โครงสร้างรูปแบบการเรียนรู้ ซึ่งประกอบด้วย 3 ขั้นที่สำคัญ ดังนี้

๑.๔.๑ ขั้นนำ เป็นการชี้แจงวัตถุประสงค์การเรียนรู้ และทดสอบก่อนเรียน

๑.๔.๒ ขั้นสอน เป็นการเรียนและฝึกทักษะ ด้วยแบบฝึกทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ โดยการใช้เทคนิค SQ4R ๖ ขั้นที่สำคัญ คือ 1) การสำรวจ Suvey (S) 2) การตั้งคำถาม Question (Q) 3) การอ่านอย่างละเอียด Read (R) 4) การจดบันทึก Record (R) 5) สรุปใจความสำคัญ Recite (R) และ 6) ทบทวน Reflect (R)

๑.๔.๓ ขั้นสรุปและประเมินผล เป็นการร่วมมือกันระหว่างนักเรียนช่วยกันสรุปบทเรียน และครูแนะนำเสริมความรู้เพิ่มเติม ผลการประเมินคุณภาพโดยผู้เชี่ยวชาญจำนวน 5 คน พบว่าอยู่ในเกณฑ์เหมาะสมมาก

2. ผลการศึกษาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) พบว่า

๒.๑ รูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๔.๖๒/๘๒.๖๐ ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ ๘๐/๘๐

๒.๒ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนมีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .๐๑

๒.๓ ดัชนีประสิทธิผลของรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่าน จับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียน บ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) มีค่าเท่ากับ ๐.๗๕๘๐ หมายความว่า นักเรียนมีความก้าวหน้าทาง การเรียนรู้ เพิ่มขึ้น o.๗๕๘๐ คิดเป็นร้อยละ ๗๕.๘๐

๒.๔ นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนรู้แบบมุ่งเน้นส่งเสริมทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โรงเรียนบ้านเฉลียง(คุรุราษฎร์บำรุง) ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด มีค่าเฉลี่ย ๔.๖๙

โพสต์โดย ครูขนิษฐา : [14 ส.ค. 2563 เวลา 11:24 น.]
อ่าน [3498] ไอพี : 183.89.65.179
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 11,853 ครั้ง
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน
ส้มป่อย สุดยอดผักเพิ่มภูมิคุ้มกัน

เปิดอ่าน 25,585 ครั้ง
ดูดวงตามวันเกิดผู้หญิง
ดูดวงตามวันเกิดผู้หญิง

เปิดอ่าน 6,776 ครั้ง
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร
วันวิสาขบูชา คือวันอะไร

เปิดอ่าน 14,437 ครั้ง
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?
ประเทศไทยเคยเกิด "ฮีทเวฟ" หรือไม่ ?

เปิดอ่าน 638 ครั้ง
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน
นวัตกรรมใหม่น่าสนใจของ Power Bank ในรูปแบบเข็มขัด แปลกแค่ไหน

เปิดอ่าน 180,297 ครั้ง
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม
การหาประสิทธิภาพของนวัตกรรม

เปิดอ่าน 13,281 ครั้ง
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย
เลี้ยงลูกรักให้มีพัฒนาการสมวัย

เปิดอ่าน 19,933 ครั้ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง
ข้าวโพดสีม่วง ช่วยต้านมะเร็ง

เปิดอ่าน 13,003 ครั้ง
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ
เครียดมาก ๆ ระวังเหงือกอักเสบ

เปิดอ่าน 10,953 ครั้ง
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน
"หมอช้าง" แนะวิธีไหว้เจ้าให้เฮงๆ พร้อมข้อห้ามในวันตรุษจีน

เปิดอ่าน 15,573 ครั้ง
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก
เกิดทฤษฎีอันใหม่ดาวพุธกับดาวศุกร์ เป็นเศษเดน ของโลก

เปิดอ่าน 20,120 ครั้ง
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป
แรงบันดาลใจ ถ่ายรูปให้ลูกมุมเดิม 14 ปี ตั้งแต่เด็กจนโต ชมคลิป

เปิดอ่าน 58,665 ครั้ง
ผลสัมฤทธิ์การปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (The Achievement of Education Reform)
ผลสัมฤทธิ์การปฏิรูปการศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ (The Achievement of Education Reform)

เปิดอ่าน 64,573 ครั้ง
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ
10 มายากล เทคนิควิทยาศาสตร์ จำไว้ไปโชว์เพื่อนๆ

เปิดอ่าน 20,486 ครั้ง
ฝนดาวตกสิงโต
ฝนดาวตกสิงโต

เปิดอ่าน 90,703 ครั้ง
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
จั๋ง...ต้นไม้ฟอกอากาศ
เปิดอ่าน 14,674 ครั้ง
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
ขั้นตอนการเวียนเทียนในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา
เปิดอ่าน 18,835 ครั้ง
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดประตูบ้านทิศใด เจรจาความจะสำเร็จ
เปิดอ่าน 10,658 ครั้ง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
สักการะเกจิชื่อดัง... ตามหาผู้นำต้นยางต้นแรกมาปลูกในตรัง แวะชิมหมูย่างเมืองตรัง
เปิดอ่าน 37,694 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 11 การนับประตู

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ