ค้นหาทุกอย่างในเว็บครูบ้านนอก :
ชุมชนครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียน แหล่งความรู้สำหรับครู นักเรียน ข่าวการศึกษา ห้องสมุดความรู้ทุกกลุ่มสาระการเรียนรู้ และความรู้ทั่วไป เผยแพร่ผลงานวิชาการ ที่นี่


ค้นหากระทู้
ตั้งกระทู้คำถามใหม่ กลับหน้าที่แล้ว
 
การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้ แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที

ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้

แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2

หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

ผู้วิจัย นางประภาภรณ์ พงษ์สิน

ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ

ปีที่พิมพ์ 2562

บทคัดย่อ

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐานในการพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่าน

จับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษา

ปีที่ 1 2) เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่อง

พระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 3) เพื่อศึกษาผลการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน

ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.2) เพื่อประเมินทักษะการอ่านจับใจความสำคัญที่เรียนด้วยการจัดการเรียนรู้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะ

การอ่านจับใจความสำคัญ วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา

ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ

วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

การวิจัยแบ่งออกเป็น 4 ระยะ คือ ระยะที่ 1 การศึกษาเอกสาร แนวคิดทฤษฎี สภาพการปฏิบัติ และความต้องการการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ ระยะที่ 2 การสร้าง พัฒนา และทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ และระยะที่ 3 การทดลองการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่ ครูผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในโรงเรียนกลุ่มไตรพัฒนา อำเภอขุนหาญ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัด ศรีสะเกษ จำนวน 35 คน กลุ่มผู้เชี่ยวชาญที่ใช้ในการสัมมนาอ้างอิงผู้เชี่ยวชาญ จำนวน 7 คน และนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนพรานวิบูลวิทยา จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีเลือกแบบเจาะจง ( (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย แบบสัมภาษณ์ แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 7 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และระยะที่ 4 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนรู้

แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญ

วิชาภาษาไทย 2 หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง กาพย์เรื่องพระไชยสุริยา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1

แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนสถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ และการทดสอบสมมุติฐาน โดยใช้ t-test (Dependent Samples) และ t-test (Independent Samples)

ผลการวิจัยพบว่า

1. สภาพการจัดการเรียนการสอนของครูผู้สอนภาษาไทย ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปัญหาด้านครู พบว่า โรงเรียนมีกิจกรรมเสริมหลักสูตรมากทำให้มีเวลาสอนไม่เพียงพอและไม่มีเวลาในการพัฒนาสื่อการเรียนการสอน ครูได้รับมอบหมายให้ทำงานพิเศษมากทำให้การสอนไม่ต่อเนื่องส่วนสภาพปัญหาที่เกิดจากนักเรียน พบว่านักเรียนไม่ชอบเรียนเนื้อหาวรรณคดี ที่ต้องถอดคำประพันธ์จากร้อยกรองเป็นร้อยแก้ว และนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียนทำให้การเรียนไม่ต่อเนื่อง ความต้องการและข้อเสนอแนะในการแก้ปัญหาการจัดการเรียน การสอนวิชาภาษาไทย พบว่า ต้องการพัฒนาความรู้ด้านคอมพิวเตอร์ เพื่อนำมาใช้จัด การเรียนการสอน ต้องการพัฒนาความรู้ด้านการวิเคราะห์หลักสูตร และ ต้องการพัฒนารูปแบบการสอนภาษาไทยที่เหมาะสมกับบริบทของโรงเรียนและพื้นฐานของนักเรียน ปัญหาในการเรียนวิชาภาษาไทยของนักเรียน พบว่าครูให้อ่านเนื้อหาจับใจความสำคัญ แล้วถามรายบุคคลทุกครั้งทำให้เครียด ครูสอนบรรยาย ให้นักเรียนจดตามและครูให้ทำงานเดี่ยวมากเกินไปแต่ให้เวลาน้อย ความต้องการของนักเรียนในการเรียนวิชาภาษาไทยอย่างมีความสุขความสุข ควรใช้สื่อการสอนทางเทคโนโลยี เพื่อช่วยกระตุ้นความสนใจ ควรสร้างบรรยากาศในการเรียนให้สนุกสนาน เช่น เล่นเกม และ ควรพานักเรียนไปศึกษาแหล่งเรียนรู้ภายในโรงเรียน เช่น ห้องสมุด ห้องคอมพิวเตอร์

2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ มี 8 ขั้นตอน คือ ขั้นที่ 1 การเรียนรู้ด้วยการตั้งคำถาม (learning to Question) ขั้นที่ 2 ขั้นการเรียนรู้แสวงหาสารสนเทศ (Learning to Search) ขั้นที่ 3 ขั้นการเรียนรู้เพื่อสร้างองค์ความรู้ (Learning to Construct) ขั้นที่ 4 ขั้นการเรียนรู้เพื่อการสื่อสาร (Learning to ommunicate) ขั้นที่ 5 ขั้นทดสอบย่อย (Test) ขั้นที่ 6 ขั้นหาคะแนนพัฒนาการ (Improvement score) ขั้นที่ 7 ขั้นการเสริมแรงด้วยการยกย่องทีมที่ได้รับรางวัล (Team Recognition) ขั้นที่ 8 ขั้นการเรียนรู้เพื่อตอบแทนสังคม (Learning to Service) โดยมีผลการประเมินความเหมาะสมของรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น บูรณาการกับการเรียนรู้แบบร่วมมือ มีความเหมาะสมมากที่สุด

3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนแบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยชุดกิจกรรม วิชาภาษาไทย 2 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 พบว่า ประสิทธิภาพชุดกิจกรรมประกอบการเรียน การจัดการเรียนรู้แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยชุดกิจกรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพของกระบวนการ (E1) เท่ากับ 82.69 และมีประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 82.57 ดังนั้น ประสิทธิภาพชุดกิจกรรมประกอบการเรียนการจัดการเรียนรู้ แบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยชุดกิจกรรม นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.69/82.57 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้

3.2 นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนด้วยรูปแบบการจัดการเรียนแบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยชุดกิจกรรม วิชาภาษาไทย 2 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05

4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการจัดการเรียนแบบบันได 5 ขั้น โดยบูรณาการการเรียนรู้แบบร่วมมือ เพื่อพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความสำคัญด้วยชุดกิจกรรม วิชาภาษาไทย 2 โดยรวมอยู่ในระดับมาก

โพสต์โดย ครูสอนคอม : [11 มี.ค. 2563 เวลา 12:10 น.]
อ่าน [5609] ไอพี : 101.51.1.145
หากข้อความนี้ไม่เหมาะสม คลิก คลิกปุ่มนี้ หากเห็นว่าข้อความนี้ไม่เหมาะสม
 
 

โปรดอ่านกฎกติกาก่อนแสดงความเห็น
1. ข้อความของท่านจะขึ้นแสดงโดยอัตโนมัติทันทีที่ได้รับข้อมูล
2.
ห้ามโพสต์ ข้อความยั่วยุให้เกิดความรุนแรงทางสังคม ข้อความที่ก่อให้เกิดความเสียหายและเสื่อมเสียต่อบุคคลที่สาม, เบอร์โทรศัพท์,
รูปภาพที่ไม่เหมาะสมต่อเยาวชนหรือภาพลามกอนาจาร หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
ขอให้ผู้ตั้งกระทู้รับผิดชอบตัวเอง
และรับผิดชอบต่อสังคม ถ้ารูปภาพ หรือข้อความใดส่งผลกระทบต่อบุคคลอื่น ทีมงานพร้อมจะส่งรายละเอียดให้เจ้าหน้าที่
เพื่อตามจับตัวผู้กระทำผิดต่อไป

3.
สมาชิกที่โพสต์สิ่งเหล่านี้ อาจถูกดำเนินคดีทางกฎหมายจากผู้เสียหายได้
4. ไม่อนุญาตให้มีการโฆษณาสินค้าใด ๆ ทั้งสิ้น ทั้งทางตรงและทางอ้อม
5. ทุกความคิดเห็นเป็นข้อความที่ทางผู้เยี่ยมชมเข้ามาร่วมตั้งกระทู้ในเว็บไซต์ ทางเว็บไซต์ kroobannok.com ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น
6. ทางทีมงานขอสงวนสิทธิ์ในการลบกระทู้ที่ไม่เหมาะสมได้ทันที โดยไม่ต้องมีการชี้แจงเหตุผลใดๆ ต่อเจ้าของความเห็นนั้นทั้งสิ้น

7. หากพบเห็นรูปภาพ หรือข้อความที่ไม่เหมาะสม กรุณาแจ้งมาที่อีเมล์ kornkham@hotmail.com เพื่อทำการลบออกจากระบบต่อไป


 ** พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.๒๕๕๐**

ขออภัยในความไม่สะดวก เนื่องจากเราประสบปัญหา
มีผู้โพสต์ข้อความที่หมิ่นเหม่และไม่เหมาะสมเป็นจำนวนมาก
ครูบ้านนอกดอทคอมจึงขอความร่วมมือสมาชิก
กรุณาเข้าสู่ระบบก่อนแสดงความเห็นครับ


  

สมัครสมาชิกใหม่
 

 

Advertisement

≡ เรื่องน่าอ่าน/สาระน่ารู้ ≡

เปิดอ่าน 16,612 ครั้ง
ดื่มนม ยืดอายุ
ดื่มนม ยืดอายุ

เปิดอ่าน 22,338 ครั้ง
เผด็จการคืออะไร
เผด็จการคืออะไร

เปิดอ่าน 110,027 ครั้ง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง
รำข้าว คืออะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เปิดอ่าน 24,203 ครั้ง
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ
คณิตศาสตร์ไขปริศนาฟองเบียร์แฟบ

เปิดอ่าน 30,268 ครั้ง
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค
ล้างผักผลไม้สะอาดปลอดโรค

เปิดอ่าน 8,149 ครั้ง
ซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการกำหนดราคาซื้อหรือราคาจ้างซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มฯ
ซ้อมความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการกำหนดราคาซื้อหรือราคาจ้างซึ่งรวมภาษีมูลค่าเพิ่มฯ

เปิดอ่าน 14,713 ครั้ง
QR CODE คืออะไร
QR CODE คืออะไร

เปิดอ่าน 48,901 ครั้ง
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้
ตัวอย่างใบงานจากการ์ตูนความรู้

เปิดอ่าน 19,916 ครั้ง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง
สำรวจหาดาวเคราะห์แบบเดียวกับโลก มี 100 พันล้านดวง

เปิดอ่าน 13,421 ครั้ง
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ
กฎเหล็กที่ควรรู้ หากอยากมีหุ่นสุดเป๊ะ

เปิดอ่าน 6,734 ครั้ง
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7
ครูแท้แพ้ไม่เป็น ตอนที่7

เปิดอ่าน 56,009 ครั้ง
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น
ฟุตซอล(Futsal): กติกาข้อ 16 การเตะเข้าเล่น

เปิดอ่าน 103,471 ครั้ง
บทสวดอโหสิกรรม
บทสวดอโหสิกรรม

เปิดอ่าน 11,862 ครั้ง
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ทำไมเป็นกันมากขึ้น
ภูมิแพ้ทางเดินหายใจ ทำไมเป็นกันมากขึ้น

เปิดอ่าน 12,637 ครั้ง
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561
พระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2561

เปิดอ่าน 81,417 ครั้ง
จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง
จบมาไม่เตะฝุ่น !! 7 กลุ่มอาชีพดาวรุ่งพุ่งแรง
เปิดอ่าน 9,960 ครั้ง
เคล็ดของการมีอายุครบ 100 ปี ต้องมีคู่ออกกำลังและหมั่นล้างมือ
เคล็ดของการมีอายุครบ 100 ปี ต้องมีคู่ออกกำลังและหมั่นล้างมือ
เปิดอ่าน 33,507 ครั้ง
xDSL คืออะไร?
xDSL คืออะไร?
เปิดอ่าน 13,155 ครั้ง
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
10 ทริคเพื่อสุขภาพประจำวัน รู้ไว้ได้ใช้แน่
เปิดอ่าน 54,602 ครั้ง
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)
มารยาทในการพูดโทรศัพท์ (Phone Manners)

รายการหลัก

หน้าแรก
ข่าว/บทความ
สมุดเยี่ยม
กระดานสนทนา
เว็บลิงค์
ผู้จัดทำเว็บครูบ้านนอก
ข้อมูลบุคคล
ภาพกิจกรรม
ผู้สนับสนุน

สมาชิก

เข้าสู่ระบบ
คุณครูต้องรู้ไว้
รวมแบบฟอร์มต่างๆ

เว็บน่าสนใจ

เว็บไซต์ สพฐ.
กระทรวงศึกษาธิการ
เครื่องมือวิทยาศาสตร์
เครื่องมือวัด
เครื่องมืออุตสาหกรรม
เกมส์
แหล่งรวมเกมส์

แหล่งรวมเกมส์
สพป.มุกดาหาร



 เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ มากมาย
เกมส์ รวมเกมส์สนุกๆ คลายเครียด

เกมส์ รวมเกมส์ เกมส์แข่งรถ เกมส์ต่อสู้ เกมส์ภาษา เกมส์วางระเบิด เกมส์แต่งตัว เกมส์ท่องเที่ยว เกมส์หมากฮอส เกมส์ผจญภัย เกมส์เต้น เกมส์รถ เกมส์ดนตรี เกมส์ขายของ เกมส์ฝึกสมอง เกมส์เด็กๆ เกมส์ปลูกผัก เกมส์การ์ด เกมส์จับผิดภาพ เกมส์ตลก เกมส์ตัดผม เกมส์ก้านกล้วย เกมส์ทําอาหาร เกมส์เลี้ยงสัตว์ เกมส์ผี เกมส์จับคู่ เกมส์กีฬา เกมส์เศรษฐี เกมส์ฝึกทักษะ เกมส์วางแผน เกมส์จีบหนุ่ม เกมส์มาริโอ เกมส์ระบายสี เกมส์จีบสาว เกมส์เบ็นเท็น เกมส์ยิง เกมส์ยาน เกมส์สร้างเมือง เกมส์มันส์ๆ เกมส์แต่งบ้าน เกมส์ความรู้
      kroobannok.com

© 2000-2020 Kroobannok.com  
All rights reserved.


Design by : kroobannok.com


ครูบ้านนอกดอทคอม
การจัดอันดับของ Truehits Web Directory

วิธีนำแบนเนอร์ของครูบ้านนอก.คอมไปแปะในเว็บท่าน บันทึกภาพแบนเนอร์นี้และลิงค์มาที่เราครับ (มีแบนเนอร์ 2 แบบ)
 

ครูบ้านนอกดอทคอม เว็บไซต์ของครูตัวเล็กๆ คนหนึ่ง ที่หวังเพียง ใช้เป็นช่องทางในการสื่อสาร แลกเปลี่ยน เพิ่มพูนความรู้ และให้ข่าวสาร ที่ทันสมัยต่อเหตุการณ์แก่คุณครู ผู้ปฏิบัติงานในทุกพื้นที่ของประเทศไทย เพื่อความเจริญงอกงามในปัญญา และเจริญก้าวหน้าในวิชาชีพ

เว็บนี้ถือกำเนิดเมื่อ 5 มกราคม 2548

Email : kornkham@hotmail.com
Tel : 096-7158383

สนใจสนับสนุนเรา โดยลงโฆษณา
คลิกดูรายละเอียดที่นี่ครับ